- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 03 August 2016 18:03
- Hits: 645
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : BLA, SIRI, DW Report
Our Portfolio Aug 2016 : AAV, BEM CK, SCB, TACC
2016SET Target1650
คาด SET ยังปรับลงได้อีกก่อนลุ้นขยับขึ้นใหม่ ดังนั้นค่อยๆ ทยอยซื้อ!!
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET เริ่มมีจังหวะแกว่งตัวด้านลบทั้งวัน โดยยังมีแรงขายกดดันให้อยู่ในช่วงไหลลงแรงต่อเนื่อง ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ ซึ่งแรงขายหลักเป็นของสถาบันในประเทศ คาดว่าอาจจะมาจากความกังวลเกี่ยวกับความไม่ชัดเจนด้านการเมืองภายในประเทศ หลังการทำประชามติร่าง รธน.วันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค.นี้
แนวโน้มตลาดวันนี้ : คาดว่า SET ยังอยู่ในช่วงแกว่งตัวลงต่อเนื่อง เนื่องจากเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปยังปรับตัวลงค่อนข้างแรง จากการที่นักลงทุนไม่มีความเชื่อมั่นมากนักต่อผลการทดสอบภาวะวิกฤต(stress test) ในภาคธนาคารของ ECB ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐช่วงนี้ก็ออกมาไม่ดีนักนอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ยังอ่อนแอลงอีก โดยล่าสุดยังลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 40 ดอลลาร์/บาร์เรลด้วย ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดลบกันแรงพอควรด้วย โดยคาดว่านักลงทุนบางส่วนยังต้องการรอดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในค่ำวันนี้ รวมทั้งรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์อีกครั้ง
กลยุทธ์ : SET ปรับตัวลงมาเกือบ 40 จุดแล้วในช่วงเพียง 2 วันทำการ และดัชนีลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1500 จุดตามคาดได้อีกครั้ง ดังนั้นแนะนำเลือกหุ้นทยอยซื้อสะสมใหม่ได้ แต่ยังเน้นเป็นค่อยๆ ตั้งรับไม่ต้องรีบ
แนวรับ 1495-1490 , 1485-1480 จุด
แนวต้าน 1500-1505 , 1508-1512 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : HMPRO, SIAM, BEAUTY(buy back)
Fund Flow วานนี้เงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$390ล้าน ส่วนใหญ่ไหลเข้าอินโดนีเซีย US$224ล้าน และไต้หวัน US$117ล้าน ส่วนไทยไหลเข้า US$2.1ล้าน ขณะที่ไหลออกฟิลิปปินส์ประเทศเดียว US$1.8ล้าน แนวโน้มเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคตามสภาพคล่องที่สูงแต่อาจชะลอลง แม้วานนี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้ผ่านแผนกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 28 ล้านล้านเยนแต่กลับสร้างความผิดหวังให้ตลาด ขณะที่ราคาน้ำมันยังดิ่งลงต่อจากความกังวลอุปทานล้นตลาด
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (0) ประเด็นประชามติ 7 ส.ค. กดดันจิตวิทยาการลงทุนของกองทุนในประเทศ ซึ่งเป็นผู้ขายหลักมาตลอดและมากขึ้นตั้งแต่ต้นสัปดาห์ สวนทางต่างชาติที่ซื้อมาตลอดขณะที่รายย่อยเพิ่งเริ่มซื้อต้นสัปดาห์ เราเชื่อว่าแรงขายของกองทุนจะมีต่อเนื่อง ขณะที่แรงซื้อของต่างชาติจะแผ่วหลังผิดหวัง BOJ กดดันตลาดไปจนผ่านพ้นการลงประชามติเรามองดัชนีพักฐานในกรอบ 1,460 +/- กรณีไม่รับร่างฯ แต่หากรับร่างฯ คาดเห็นดัชนีแตะ 1,600 จุดก่อนสิ้นปี อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลประชามติไม่เป็นเหตุให้การเลือกตั้งในปีหน้าต้องเลื่อนออกไป จึงยังแนะนำทยอยซื้ออ่อนตัวและเน้น Domestic plays
• (0) คาดกนง.คงดอกเบี้ยที่ 1.5% เพราะเป็นอัตราที่เหมาะสมกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ค่อยๆฟื้น การบริโภคเริ่มมีสัญญาณดีขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แม้จะอาศัยมาตรการกระตุ้นจากรัฐบาลเป็นระยะก็ตาม การใช้จ่ายของภาครัฐก็ทำอย่างเต็มที่การท่องเที่ยวดีต่อเนื่อง การคงดอกเบี้ยของกนง.ไม่กระทบตลาดหุ้น
• (+) BLA เราคาดเบื้องต้น 2Q16 พลิกเป็นกำไรไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาท จาก 1Q16 ที่ขาดทุนสุทธิ 6.9 พันล้านบาท จากการกลับรายการเงินสำรองเบี้ยประกันชีวิตส่วนเกินที่มีอยู่ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งคปภ.เพิ่งอนุมัติให้ใช้เกณฑ์ใหม่ ทำให้การตั้งสำรองน้อยลง การกลับรายการจึงเป็นไปได้ตั้งแต่ 0-1 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันผลตอบแทนจากการลงทุนดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ชดเชยยอดขายเบี้ยใหม่ที่ชะลอตามฤดูกาลได้ เรามีแนวโน้มปรับเพิ่มกำไรและราคาพื้นฐานที่ให้ไว้ 43 บาท แนะนำซื้อเก็งกำไร
• (+) SCB ราคาหุ้นวานนี้ปรับลงแรงสุดในกลุ่มแบงก์หลังมีข่าว SCB เป็นหนึ่งในผู้ปล่อยสินเชื่อให้ Swiber Holding (อยู่ในธุรกิจ Oil&Gas มีที่ตั้งในสิงคโปร์) ซึ่งเพิ่งประกาศผิดนัดชำระหุ้นกู้ ข้อเท็จจริงคือ SCB ไม่มีสินเชื่อให้ Swiber แต่ให้เงินกู้กับบริษัทลูกที่ทำธุรกิจเดินเรือไม่ถึง 1 พันล้านบาท ปัจจุบันยังชำระดอกเบี้ยปกติ และมีหลักค้ำประกันเป็นเรือเกินมูลหนี้คงค้าง ราคาหุ้นที่ปรับลงมาเป็นโอกาสซื้อ เรายังคงราคาพื้นฐาน 182 บาทแนวโน้มกำไรยังแกร่ง บริหาร NIM ได้ดีมากและ Coverage ratio สูงเกือบ 130%
• (-) SIRI เราลดคำแนะนำเป็นขาย จากถือ เพราะราคาหุ้นเกินมูลคค่าปีนี้ที่ 1.63 บาทแล้ว กำไรปกติ 2Q16 ไม่น่าตื่นเต้น +5.0% Q-Q, +4.3% Y-Y ขณะที่ Presales 1H16ทำได้เพียง 30% ของเป้าของบริษัท
• (0) ศุกร์นี้กกพ.ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ 36MW จับตาผู้เข้าร่วมซึ่งมีจำนวนมากเช่น TPCH, PSTC, FER, ECF, GUNKUL และมีผู้เข้าร่วมสูงถึง 16 เท่าของจำนวนไฟฟ้าที่รับซื้อ หลังจากนี้จะเปิดซองราคา 22 ส.ค. ประกาศรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือก 25 ส.ค. 2016 เรายังชอบ TPCH ที่สุดในกลุ่ม ราคาพื้นฐาน 19.50 บาทยังไม่รวมโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ แนวโน้มกำไร 2Q16 จะดีขึ้นเพราะโรงไฟฟ้ามหาชัยกรีนพาวเวอร์เริ่ม COD
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
3 ส.ค. - ไทย: กนง.ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
- จีน: Caixin China PMI Composite (ก.ค.)
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ก.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (ก.ค.)
4 ส.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
- อังกฤษ: BOE ประชุม
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (มิ.ย.), ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
5 ส.ค. - ไทย: กกพ.ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้
- อินโดนีเซีย: 2Q16 GDP (ตลาดคาด +5% Y-Y)
- สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ก.ค.)
7 ส.ค. - ไทย: ลงประชามติรับ/ไม่รับร่างรธน.
8 ส.ค. - จีน: ดุลการค้า (ก.ค.)
9 ส.ค. - อินเดีย : ธนาคารกลางประชุม
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดลบ โดยการซื้อขายค่อนข้างซบเซาปัจจัยกดดันมาจากการผิดหวังต่อตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย และ การปรับลดลงของราคาน้ำมันที่หลุดระดับ 40ดอลลาร์/บาร์เรล
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ โดยยังมีแรงขายหนาแน่นในหุ้นกลุ่มธนาคารต่อเนื่องเป็นวันที่สอง เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจต่อผลStress test
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดลบ ตามทิศทางตลาดหุ้นโลก และราคาน้ำมัน นำโดยตลาดญี่ปุ่นที่ปรับตัวลงหลังค่าเงินเยนแข็งค่าเนื่องจากผิดหวังกับมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ
(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวในกรอบแคบ ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 34.74-34.78 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดลบ 0.55 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 39.51 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดต่ำกว่า 40 ดอลลาร์/บาร์เรล ครั้งแรกในรอบเกือบ 4 เดือน เนื่องจากภาวะอุปทานล้นตลาดยังเป็นปัจจัยกดดันหลังปริมาณการผลิตน้ำมันจากโอเปกเพิ่มขึ้น
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.00ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,372.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจ และ แรงหนุนจากมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารประเทศต่างๆ
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research
0000000000000000000
? 2016 PricewaterhouseCoopers. All rights reserved.