- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 22 July 2016 18:03
- Hits: 2166
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: ช่วงปรับฐาน
SET Index: 1499.10 ดัชนีในช่วงเช้าปรับตัวลง โดยเราเห็นสัญญาณขายทำกำไรออกมาต่อเนื่องเมื่อวานนี้ หลัง SET ไม่ผ่าน 1520 จุด คาดว่าระยะสั้นดัชนียังอยู่ในช่วงการปรับฐาน โดยมองแนวรับสำคัญบริเวณ 1480 จุด คงติดตามการซื้อขายของต่างชาติ และทิศทางของค่าเงินบาท
แนวต้าน : 1510 และ 1520
แนวรับ : 1490 และ 1480
TRUE = 8.70 / 9.15, BANPU = 15.50 / 16.30, BBL = 164 / 170, BEM = 6.75 / 6.95, KTB = 17.30 / 16.90
Anada Development (ANAN TB; THB 4.62) – ซื้อ
แนวต้าน : 4.74 และ 4.84
แนวรับ : 4.58 และ 4.56
ราคาหุ้นรีบาวด์ หลังปรับฐานในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่ราคาสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 4.50 บาทได้ในช่วงเช้า คาดว่าราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับขึ้นทดสอบแนวต้านเดิม
MACD ยังเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก
แนะนำซื้อ ANAN โดยมีแนวรับที่ 4.58 และ 4.56 และมีแนวต้านที่ 4.74 และ 4.84 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.54 ลงไป
TPC Power Holding (TPCH TB; THB 17.80) – ซื้อ
แนวต้าน : 18.50 และ 19.00
แนวรับ : 17.70 และ 17.60
ราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัว หลังจากมีแรงขายต่อเนื่องตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว เรามองว่าราคามีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ หลังราคายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 17.50 บาทได้
MACD แกว่งเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก RSI ยังอยู่เหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ TPCH โดยมีแนวรับที่ 17.70 และ 17.60 และมีแนวต้านที่ 18.50 และ 19.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 17.50 ลงไป
Analysts :
Pornvilai Santusatharom +662 657-9230 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ขึ้นเร็วก็จะพักตัว
แรงซื้อหุ้นของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นเอเชีย ยังคงหนักหน่วงและต่อเนื่อง โดยแรงซื้อจะหยุดเมื่อไรและดัชนีตลาดหุ้นเอเชียไปถึงไหนคงยังต้องดูกันต่อ อย่างไรก็ตามแม้ว่าอัตราการทำกำไรของตลาดหุ้นเอเชียในปีนี้หรือปีหน้ายังไม่โตเท่าไร แต่เม็ดเงินยังไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ตรงนี้นักลงทุนต่างชาติมองอะไรเกี่ยวกับตลาดหุ้นเอเชีย หลายๆ ผู้จัดการกองทุนและโบรกเกอร์ต่างชาติ ต่างให้ความเห็นว่า แรงซื้อที่เข้ามาในขณะนี้เป็นผลมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกต่ำเป็นประวัติการณ์ จึงมีการย้ายเม็ดเงินการลงทุนมายังตลาดหุ้นเอเชียที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าและถูกกว่าตลาดหุ้นในสหรัฐและยุโรป
หากมาเปรียบเทียบในช่วงที่อัตราผลตอบแทนจากพันธบัตร 10 ปีสหรัฐปรับตัวลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พบว่าเคยลงไปต่ำสุดในช่วงปี 2012 ส่วนปัจจุบันก็ลงมาในระดับปี 2012 เราจึงมองว่าผลของการที่อัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรลงต่ำสุด จะหนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น ขึ้นเท่าไร ปรากฏว่าขึ้นประมาณ 20% โดยเรามองว่าปฎิกริยาที่เกิดในปัจจุบัน น่าจะคล้ายกับปี 2012 หากกลับมามองเฉพาะตลาดหุ้นไทย โดยใช้ P/BV 12 เดือนล่วงหน้าที่สะท้อนความถูกความแพงได้ (หากดูผ่านค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าจะพบว่าแพงสุดๆ แล้วเพราะค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าตลาดหุ้นไทย MSCI Thailand ขึ้นสูงสุดในรอบ 15 ปี) รูปด้านขวา เราแสดงค่า P/BV ของดัชนี MSCI Thailand ในรอบ 10 ปี โดยใช้ค่า +/-1SD เป็นตัวประเมิน
เราพบว่าเมื่อไรก็ตามที่ค่า P/BV ของตลาดลงมาต่ำสุดที่ค่า -1SD สุดท้ายจะดีดตัวขึ้นไปที่ค่า +1SD เสมอ ยกเว้นปี 2010 ที่ขึ้นไปใกล้ค่าเฉลี่ยกลาง แล้วแกว่ง ปัจจุบัน P/BV ขึ้นมาเล่นที่ค่าเฉลี่ยกลางแล้ว หากสามารถขึ้นต่อไปอีก ก็จะขึ้นไปเล่นที่ค่า +1SD นั่นก็หมายถึงดัชนีที่ประมาณ 1600 จุด ซึ่งตอนนี้อาจจะต้องรอดูว่ามีปัจจัยหนุนใหม่ๆ เกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไรก็ตามเรามองว่าดัชนี SET ในกรอบ 1520-1530 จุด น่าจะมีการพักฐาน หากขึ้นไม่ถึงยังมีสิทธิลงไปเล่นต่ำกว่า 1500 จุดได้อีก
รอบที่ดัชนีขึ้นนานๆและไม่พักฐาน เฉลี่ยแล้วดัชนีขึ้นไม่เกิน 130 จุด แล้วจะเกิดการพักฐาน รอบดัชนีที่คล้ายปัจจุบันมากที่สุดคือ ปี 2014 ที่ดัชนีสร้างจุดต่ำสุดที่ 1225 จุดในต้นเดือน ม.ค. แล้ววิ่งขึ้นรอบเดียวไปที่ 1600 จุด โดยใช้เวลว 9 เดือน ขึ้นได้ทั้งสิ้น 30% ส่วนปัจจุบันดัชนีสร้างจุดต่ำสุดที่ต้นเดือน ม.ค. 2016 แล้ววิ่งขึ้นถึงปัจจุบันที่ 24% ใช้เวลาไปแล้ว 7 เดือน รูปแบบจะเหมือนหรือไม่เหมือน ยังต้องดูปัจจัยอื่นประกอบด้วย สำหรับผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารที่ออกมาแล้วแทบไม่มี Surprise เมื่อเทียบค่า Mean ของนักวิเคราะห์ โดยหุ้นที่มี Surprise มากที่สุดคือ KKP (47%) TCAP (7.14%) KTB (5.9%) BAY (2.6%) SCB (3.8%) BBL (-13.8%) KBANK (-6%) TISCO (-6.62%) TMB (-2%)
ดัชนีตลาดหุ้นที่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วและเป็นแรงซื้อแบบเหวี่ยงแห ทั่วเอเชีย เรามองว่าหากเกิดเหตุการณ์พลิกกลับหรือเป็นการเก็งในช่วงสั้น เม็ดเงินจะไหลออกได้รวดเร็วเหมือนกัน มองวันนี้ดัชนี SET จะมีทิศทางปรับตัวลงไปเล่นต่ำกว่า 1500 จุดจากแรงกดของดัชนีในภูมิภาค ราคาน้ำมันและขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ วันนี้มองแนวต้านที่ 1506-1510 จุด และแนวรับที่ 1496-1492 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BIG JASIF และ COM7
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,499.10 จุด ลดลง 3.60 จุด (-0.24%) มูลค่าการซื้อขาย 24,577.60 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลงในกรอบ ตลาดเข้าสู่การปรับฐาน หลัง SET ไม่ผ่านระดับ 1520 จุด และเห็นสัญญาณการขายทำกำไรเมื่อวานนี้ หุ้นแบก์ขนาดใหญ่มีแรงขายออกมา อย่าง BBL และ KBANK หลังผลประกอบการ Q2/59 ต่ำกว่าที่ตลาดคาด ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับลง ขณะที่นักลงทุนคงติดตามการประชุม FOMC และ BOJ ในสัปดาห์หน้า
Afternoon Perspective...
จากแนวโน้มค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าต่อเนื่องหลุดระดับ 35 บาท/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 34.92 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้ ทำให้เราประเมินว่านักลงทุนต่างประเทศยังคงเข้าซื้อหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นการสลับกลุ่มในการเก็งกำไร ส่งผลให้ตลาดในช่วงเช้าจึงปรับลดลงเล็กน้อย โดยแรงขายหลักอยู่ในกลุ่มธนาคารฯ หลังจากประกาศงบออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ รวมถึงมีการเก็งกำไรผลประกอบการมาก่อนหน้านี้แล้ว ในขณะที่คาดว่าช่วงบ่ายจะมีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ที่ยังคงปรับขึ้นช้ากว่าตลาด (laggard) แต่มีผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 ดี อย่าง AOT BDMS SCC TOP รวมถึงหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่ราคายังคงปรับขึ้นช้ากว่าตลาดอย่าง GFPT PLAT STA TASCO THCOM หากตลาดช่วงบ่ายสามารถปิดยืนเหนือระดับ 1500 จุดได้ เราคาดว่าตลาดในสัปดาห์หน้าจะฟื้นตัวต่อเนื่องไปทดสอบระดับ 1520-1530 จุดได้ แต่หากตลาดไม่สามารถยืนได้แนะนำ ขายทำกำไรระยะสั้นบางส่วน เพื่อรอการกลับเข้าซื้อลงทุนใหม่ที่ระดับดัชนี 1480-1485 จุด
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Ananda Development (ANAN TB; THB 4.62) - ซื้อ
TPC Power Holding (TPCH TB; THB 17.80) - ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : TVD, INET
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]