WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

SET เริ่มปรับลง ซึ่งลุ้นพักตัวอีกสักระยะได้ ดังนั้นค่อยๆ ทยอยซื้อลบ...

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET เริ่มมีแรงขายกดดันมากขึ้น หลังจากช่วงแรกเปิดโดดบวกทำ New high ต่อได้ แต่เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนเพิ่ม ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งก็เริ่มปรับพักตัวลงด้านลบด้วย ซึ่งแรงขายมีออกมาต่อเนื่องทั้งวัน ทำให้ SET ไหลลงมาปิดเกือบต่ำสุดของวัน
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : FSS คาดว่า SET ยังมีแนวโน้มปรับพักตัวลงต่อได้อีก หลังผลประชุม ECB เมื่อวานนี้ออกมาตามคาดคือยังไม่มีการเพิ่มเติมมาตรการใดๆ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ยังอ่อนแอและลงมาเคลื่อนไหวแถวระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเศษบริเวณ 44.5 ดอลลาร์/บาร์เรลอีกครั้ง นอกจากนี้นักลงทุนยังผิดหวังกับผลประกอบการของบริษัทอินเทล คอร์ป ด้วย ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดปรับตัวลดลงกันแทบทุกแห่ง ซึ่งช่วงที่ผ่านมา SET ก็ขยับขึ้นค่อนข้างเร็วและแรงพอควรแล้วด้วย ทำให้ FSS คาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรกดดันให้ SET ปรับพักตัวลงต่ออีกสักระยะได้ โดยคาดหมายว่าตลาดมีสิทธิที่จะแกว่งตัวลงในช่วงปลายเดือนนี้ต่อเนื่องถึงต้นเดือนหน้า ก่อนจะสร้างฐานเพื่อรอขึ้นรอบใหม่ในช่วงถัดไป
  กลยุทธ์ : FSS คาดว่า SET มีโอกาสปรับพักตัวลงต่อเนื่องได้อีกสักระยะ ก่อนกลับไปขยับบวกต่อในช่วงหน้า ดังนั้นตลาดปรับลงยังน่าสนใจเลือกหุ้นซื้อ แต่เน้นเป็นค่อยๆ ทยอยซื้อช่วงลบไม่ต้องรีบ
  แนวรับ 1500-1495 , 1492-1482 จุด
  แนวต้าน 1505-1510 , 1515-1520 จุด
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : RP, STA, TVO(buy back)
  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$787ล้าน นำโดยไต้หวัน US$527ล้าน เกาหลีใต้ US$120ล้าน และไทย US$74ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค แม้ว่าการประชุม ECB เมื่อคืนนี้ยังไม่มีมาตรการใดๆเพิ่มเติม ตลาดติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐและญี่ปุ่นที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าต่อไป

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) ECB ไม่เซอร์ไพร้ส์ตลาด คงดอกเบี้ยที่ 0% คงวงเงินซื้อพันธบัตรที่ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ส่วนสัปดาห์หน้ายังต้องติดตามการประชุม Fed 26-27 ก.ค. และ BOJ 28-29 ก.ค. ซึ่งมีข่าวรัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นอย่างน้อย 20 ล้านล้านเยน
(+) SCB น่าประทับใจสุดในไตรมาสนี้ กำไรสุทธิ 2Q16 ของทั้งกลุ่ม +5.3% Q-Q, -2.9% Y-Y ใกล้เคียงคาด แต่ NIM ทำได้น่าประทับใจท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่ปรับลง ด้าน NPL ของแบงก์ใหญ่ยังเพิ่มขึ้นแต่ Coverage ratio ยังสูง ในไตรมาสนี้ SCB (ราคาพื้นฐาน 171 บาท) กำไรมีประสิทธิภาพที่สุดทั้งในด้าน NIM, NPL, ROE
(+) KBANK กำไรน้อยกว่าคาด -2% Q-Q, -18% Y-Y จากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยน้อยกว่าคาดและค่าการตลาดสูงขึ้น ส่วย NIM ลดลงเล็กน้อยแต่ดีกว่าคาด ด้าน NPL เพิ่มขึ้นแต่ Coverage ratio ยังแกร่ง เราคงประมาณการกำไรและราคาพื้นฐาน 194 บาท ลดคำแนะนำเป็นถือเพราะ upside ที่เริ่มแคบลง
(+) BAY กำไรดีกว่าคาด +2% Q-Q, +21% Y-Y จากรายได้ดอกเบี้ยดีกว่าคาด และต้นทุนเงินฝากต่ำกว่าคาดหลังธนาคารปรับส่วนผสมเงินฝากให้เป็นเงินฝากออมทรัพย์มากขึ้น ส่วนสินเชื่อดีเกินคาด +4.3% Q-Q, +4.2% YTD ด้าน NPL เพิ่มเล็กน้อยแต่ไม่เป็นปัญหา เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 5% เป็น +8% Y-Y ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 39 บาทจาก 32 บาท แต่ยังแนะนำขายเพราะเต็มมูลค่า
(-) BBL กำไรน่าผิดหวัง -13.8% Q-Q, -11% Y-Y ต่ำกว่าเราและตลาดคาด 5-10% จาก Cost to income ratio ที่พุ่งขึ้นเป็น 50.7% จากปกติไม่เกิน 45% ส่วน NIM ลดลงเล็กน้อย 0.1% Q-Q ถือว่าดีกว่าคาด ด้าน NPL ยังเพิ่มขึ้นเป็น 3.1% จาก 2.9% ในไตรมาสก่อน แต่ Coverage ratio ยังสูงสุดในกลุ่ม เราปรับกำไรปีนี้ลง 8% เป็นหดตัว 7.6% Y-Y แต่ยังแนะนำซื้อเพราะ Valuations ที่ไม่แพง ราคาพื้นฐาน 190 บาท
(-) PLANB แนวโน้มกำไร 2Q16 ไม่ดีนัก เราคาด -36.9% Y-Y (แต่ +36.8% Q-Q ตามฤดูกาล) เพราะต้นทุนบริการสูงขึ้นมากทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดจาก 43.4% ใน 2Q15 เหลือ 36.6% แม้ 2H16 จะดีขึ้นและเริ่มมีรายได้จากการบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอล แต่เราปรับกำไรปี 2016-17 ลง 12-18% เป็นกำไรปีนี้ +1% Y-Y ปีหน้า +34% Y-Y ปรับราคาพื้นฐานลงเป็น 6.40 บาท จาก 7 บาท (DCF) ลดคำแนะนำจากซื้อ เป็นถือ
(+) PS เราคาดกำไร 2Q16 +48% Q-Q ตามยอดโอนที่ต่อเนื่องของแนวราบ แต่ -13% Y-Y เพราะมีคอนโดสร้างเสร็จพร้อมโอนแค่ 1 โครงการ ขณะที่ 2Q15 มี 5 โครงการ ปัจจุบันมี Backlog 2.4 หมื่นล้านบาทซึ่งครึ่งหนึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ใน 2H16 ทำให้รายได้ทั้งปีที่เราคาด secured แล้ว 70% ปัจจุบันมี PE เพียง 7.8 เท่าและคาด Dividend yield 6% ยังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 33.40 บาท
(-) พลังงานทดแทน กกพ.เลื่อนประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้เป็น 5 ส.ค. เปิดซองราคา 22 ส.ค.

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
22 ก.ค. - ไทย: กกพ.ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.ค.)
24 ก.ค. - ไทย: ดุลการค้า (มิ.ย.)
26-27 ก.ค. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
26 ก.ค. - เกาหลีใต้: 2Q16 GDP

- สหรัฐ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.), ยอดขายบ้านใหม่ (มิ.ย.), ดัชนีราคาบ้าน S&P/CaseShiller Index (พ.ค.)
27 ก.ค. - ไทย: EKH เข้าเทรด (ราคา IPO3.05 บาท), ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (มิ.ย.)

- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (มิ.ย.)
28 ก.ค. - ไทย: BIZ เข้าเทรด (ราคา IPO2.90 บาท)
29 ก.ค. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
3 ส.ค. - ไทย: กนง.ประชุม

(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบเป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง รวมถึงตลาดเริ่มให้น้ำหนักกับการประชุม FED ในเดือนหน้า
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดทรงตัวหลัง ECB ยังคงอัตราดอกเบี้ยและวงเงินซื้อพันธบัตรวึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
(-) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนลบตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยตลาดถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง
(+) ค่าเงินบาทเริ่มมีจังหวะแข็งค่าขึ้น ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90-35.00 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 1.00 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 44.75 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสต๊อกน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดเริ่มกลับมากังวลเรื่องอุปทานที่ล้นตลาดอีกครั้ง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. พุ่งขึ้น 11.70 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,331.00 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มมีจังหวะปรับตัวลงหลัง ECB ยังคงอัตราดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น

Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch

BSP

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!