- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 11 July 2016 16:55
- Hits: 367
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today's Report : Banks Sector, Finance Sector, BEC, CPF, PACE, THCOM
Our Portfolio Jul 2016 : ARROW, CK, KBANK, PTTGC, TPCH
หลังจากเลือกหุ้นซื้อลบไปแล้ว ถัดจากนี้เน้นถือเพื่อรอลุ้น 1500 จุด!!
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวลงก่อนในช่วงแรกเกือบ 10 จุด หลังราคาน้ำมันดิบโลกอ่อนแอลงอีกเกือบ 5% แต่ในช่วงสายถึงบ่ายตลาดเริ่มขยับกลับขึ้นมาได้บ้าง เนื่องจากราคาน้ำมันดิบเริ่มทรงตัวได้ดีขึ้น พร้อมทั้งนักลงทุนยังมีความหวังกับตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่คาดว่าจะออกมาดี
แนวโน้มตลาดวันนี้ : แม้ SET จะปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ก็มีแรงซื้อหนุนให้เป็นลบน้อยลงในภาคบ่าย ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นต่างประเทศกลับมาสดใสอีกครั้ง โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่สูงเกินคาด บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ทรงตัวได้ดีหลังปรับลงแรงวันก่อนหน้า และสามารถปิดเป็นบวกเล็กน้อยได้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดเป็นบวก และส่วนใหญ่เคลื่อนไหวด้านบวกมากกว่า 1% ด้วย ซึ่ง FSS คาดว่า SET ปรับพักตัวเพียงระยะสั้น และมีลุ้นแนวโน้มที่จะแกว่งไต่ระดับขึ้นไปหาระดับดัชนีตามพื้นฐานของปีนี้ที่เราประเมินไว้แถว 1500 จุดได้ในช่วงถัดไปมากกว่า ดังนั้นยังถือหุ้นเพื่อรอรอบบวกก่อนค่อยพิจารณาทำกำไรกันต่อไป
กลยุทธ์ : หลังจาก FSS แนะนำให้เลือกหุ้นซื้อเพิ่มช่วงตลาดลบไปแล้ว ถัดจากนี้เน้นถือหุ้นต่อเนื่อง เพื่อรอดัชนีแกว่งไต่ระดับขึ้นหาเป้าหมาย 1500 จุดในช่วงถัดไป
แนวรับ 1453-1450 , 1445-1443 จุด
แนวต้าน 1458-1460 , 1462-1464 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : STPI, AMATA, DELTA(buy back)
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเบาบาง US$48ล้าน โดยไหลเข้าฟิลิปปินส์ US$47ล้าน และไทย US$15ล้าน ขณะที่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$13ล้าน ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และไต้หวันปิดทำการ แนวโน้มกระแสเงินทุนในภูมิภาคมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค ตลาดคาดหวังการใช้มาตรการกระตุ้นจากการประชุมธนาคารกลาง ECB และ BOJ ในช่วงปลายเดือนนี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) ติดตามการประชุม BOE พฤหัสนี้ นอกจากการจ้างงานของสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาดจะหนุนตลาดหุ้นวันนี้แล้ว ทั่วโลกยังจับตาการประชุมของ BOE และคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม เป็นอีกปัจจัยหนุนสินทรัพย์เสี่ยง
(0) ระยะสั้นเลี่ยง SAWAD, TK แต่เป็นโอกาสซื้อ MTLS การคุมดอกเบี้ยเงินกู้เช่าซื้อให้ไม่เกิน 15% นั้น ทุกบริษัทเช่าซื้อในตลาดฯเก็บไม่เกินอยู่แล้ว ยกเว้น TK ที่จะกระทบมากหากเกณฑ์ใหม่คุมการเก็บทั้งหมดไม่เกิน 15% เพราะ TK มี Loan yield 35% เป็นอัตราดอกเบี้ย 15% ที่เหลือเป็นค่าธรรมเนียม ส่วน MTLS, SAWAD, KTC ไม่กระทบเพราะมีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์น้อยมากและคิดดอกเบี้ยที่ 15% อยู่แล้ว ส่วนการควบคุมค่าธรรมเนียมทวงหนี้ SAWAD คิดค่าธรรมเนียมแพงกว่าอุตสาหกรรม ส่วน MTLS คิดต่ำมาก ระยะสั้นแนะเลี่ยงการลงทุนใน SAWAD และ TK แต่เป็นโอกาสซื้อ MTLS
(+) เริ่มเห็นทิศทางที่ดีขึ้นของ NPL เราคาดกำไรสุทธิ 2Q16 กลุ่มธนาคาร 4.85 หมื่นล้านบาท +3.3% Q-Q จากรายจ่ายพิเศษที่ลดลงของ SCB และ BBL แม้รายได้หลักมีแนวโน้มลดลงทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (คาด NIM ลด 0.1% จากการลดดอกเบี้ยเงินกู้) และรายได้ไม่ใช่ดอกเบี้ย (ตามฤดูกาล) แต่อัตราการเกิด NPL ใหม่ที่ชะลอ เป็นข่าวดีที่ตลาดรอคอย เรามองว่ากลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ (KBANK ราคาพื้นฐาน 195 บาท, SCB ราคาพื้นฐาน 150 บาท) เริ่มน่าสนใจกว่าแบงก์กลาง-เล็ก จากทิศทางที่เริ่มดีขึ้นของคุณภาพสินเชื่อและสินเชื่อภาคเอกชน ขณะที่เรื่อง Prompt-pay กระทบจำกัด
(-) THCOM ประมาณการกำไรของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มี downside มากขึ้นเพราะ Utilization ของไทยคม 8 (ให้บริการ พ.ค. 2016) ยังนิ่งที่ 17% ต่ำกว่าจุดคุ้มทุนมาก และลูกค้าในกลุ่มธุรกิจทีวีดาวเทียมกำลังประสบปัญหา เราคาดกำไร 2Q16 -18% Q-Q และยิ่งแย่ลงใน 2H16 แนะนำเพียงถือ
(-) CPF แนวโน้มกำไรปกติ 2Q16 ดูดี คาด +30% Q-Q, +1,407% Y-Y จากการฟื้นตัวของธุรกิจหมูและกุ้ง และวัตถุดิบที่อยู่ในระดับต่ำ ชดเชยธุรกิจไก่และธุรกิจต่างประเทศที่ทรงตัว แต่ปัจจัยใหม่กดดันคือค่าใช้จ่ายภาษีย้อนหลังจากสิทธิพิเศษทางภาษี BOI ซึ่งจะบันทึกเป็นรายจ่ายทั้งก้อนใน 2Q16 และยังไม่สามารถระบุได้ แต่เชื่อว่าจะนำกำไรจากการขาย CPALL มาหักล้างจนกำไรสุทธิดูไม่แย่นัก จึงคงราคาพื้นฐาน 31 บาท แนะซื้ออ่อนตัว
(+) PACE ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จะเริ่มตั้งแต่ปีนี้จากการทยอยรับรู้รายได้ของโครงการมหานครและมหาสมุทร ซึ่งคาดทำให้พลิกจากขาดทุน 1.79 พันล้านบาทปีก่อนเป็นกำไร 456 ล้านบาทปีนี้ และเป็น 1.3 พันล้านบาทปีหน้าหนุนด้วยธุรกิจร้านอาหาร Dean & Deluca เราประเมินมูลค่าพื้นฐาน 4.20 บาท ราคาหุ้นปรับลงรับข่าวเพิ่มทุน 5% เพื่อแลกกับที่ดินที่ญี่ปุ่นไปแล้วและปรับลงมาใกล้ราคาหุ้นเพิ่มทุนที่ 3 บาท แนะนำซื้อ
(+) คลังล้มแผนเก็บภาษีน้ำตาล เป็นบวกกับผู้ผลิตเครื่องดื่มทั้งอุตสาหกรรม แนะนำ TACC
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
11 ก.ค. - ไทย: BTW เข้าเทรด (ราคา IPO 3.75 บาท)
13 ก.ค. - จีน: ดุลการค้า (มิ.ย.)
- ยูโรโซน: Industrial Production (พ.ค.)
14 ก.ค. - เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
- สหรัฐ: Beige Book
- BOE ประชุม
15 ก.ค. - จีน: 2Q16 GDP (ตลาดคาด +6.6% Y-Y vs. 1Q16 +6.7% Y-Y)
- สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (มิ.ย.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มิ.ย.), ยอดค้าปลีก (มิ.ย.)
18 ก.ค. - ญี่ปุ่น: ตลาดหุ้นปิดทำการ วัน Marine Day
19 ก.ค. - สหรัฐ: Housing starts, Building permits (มิ.ย.)
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ก.ค.)20 ก.ค. - ไทย: ยอดรถ (มิ.ย.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดบวกได้กว่า 1% ขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย. ที่ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาด
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดบวกได้แรงเช่นกันโดยได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯที่ออกมาดีกว่าคาดซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสรับตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งทรงตัวออกข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ35.10-35.25 บาท/ดอลลาร์
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 0.27ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 45.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน แต่อย่างไรก็ตามยังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 3.70 ดอลลาร์/ออนซ์มาอยู่ที่ 1,358.40 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยนักลงทุนเริ่มลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยออกมาหลังตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่ง
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research