- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 08 July 2016 17:10
- Hits: 609
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ความผันผวนรออยู่ข้างหน้า
คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบวันนี้หลังจากหุ้นสหรัฐไม่ไปไหนเมื่อคืน คาดว่านักลงทุนระมัดระวังกันในวันนี้ ก่อนตัวเลขการว่าจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐจะออกมาคืนนี้ ในขณะที่เศรษฐกิจของยุโรปมีโอกาสสั่นคลอนสูงจากการที่อังกฤษออกจาก Eu สหรัฐกลายเป็นความหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะยังฟื้นตัวต่อไป ภายในประเทศรองนายกสมคิด มีมุมมองบวกต่อเศราฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 และต่อๆไป รวมทั้งต่อเอเซียทั้งมวลจากผลของ Brexit ที่มีต่อยุโรป แต่ทุกคนยังต้องเผชิญความไม่แน่นอนครั้งใหญ่ข้างหน้า
หุ้นเด่นวันนี้: IVL (ราคาปิด 29.25 บาท; NR; ราคาเป้าหมาย Bloomberg 31.83 บาท; ราคาเป้าหมาย IAA 37.12 บาท)
เราคาดกำไรสุทธิของ lVL งวด 2Q16 จะออกมาโดดเด่นและทรงตัวในระดับสูงเช่นในงวด 1Q59 ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากปริมาณขายที่อยู่ในทิศทางขาขึ้นต่อเนื่องจากการทำ M&A ในช่วงที่ผ่านมา และ Spread ราคาผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในระดับสูง รวมไปถึงการบันทึกกำไรจากสินค้าคงคลังและการบันทึกกำไรจากการต่อรองราคาซื้ออีกครั้งในไตรมาสที่สองจากดีลการเข้าซื้อ Cepsa ซึ่งเป็นโรงงานผลิต PET และ PTA ในสเปน ในส่วนของความกังวลจากการอ่อนค่าของเงินยูโรเทียบบาทจากผลของเหตุการณ์ Brexit ต่อผลประกอบการของหน่วยธุรกิจของ lVL ในยุโรป (คิดเป็น 25% ของกำลังการผลิตรวมของ lVL) พบว่าไม่ได้มีผลกระทบอย่างมีนัยฯ เนื่องจากต้นทุนการผลิตอยู่ในรูปเงินสกุลยูโรเช่นเดียวกัน ซึ่งถือเป็นการ Natural hedge ไปในตัวอยู่แล้ว เราเชื่อว่าการเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาและต่อเนื่องอีกในอนาคต จะช่วยหนุนให้ปริมาณขายและผลประกอบการในปีนี้และนับจากนี้ไปเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งได้อานิสงค์จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี (Spread) ที่ทยอยปรับตัวดีขึ้น กำไรสุทธิต่อหุ้นของ lVL อ้างอิงจากประมาณการใน Bloomberg Consensus จะเห็นการขยายตัวแข็งแกร่ง 47% YoY ในปีนี้ ก่อนที่จะเติบโตต่อเนื่องอีกเฉลี่ย 12% YoY CAGR ในปี 2560 และ 2561 ในส่วนของ Price Pattern ของ lVL ยังมีความแข็งแกร่งในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิด Daily & Monthly Buy Signal รอเพียงการกลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่เท่านั้นด้วยการปิดตลาดรายสัปดาห์ได้เหนือ 33.75 บาทก็จะทำให้ Price Pattern ของ lVL กลับมามีเกิดความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ lVL ในระยะสั้นคาดว่ามีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 32.75 บาท โดยหาก Price Pattern ของ lVL มีความแข็งแกร่งมากเพียงพอด้วยการปิดตลาดเหนือ 32.75 บาทได้ นัยว่าสัปดาห์หน้าอาจมีลุ้นให้ Price Pattern ของ lVL กลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ ทั้งนี้หาก Price Pattern ของ lVL สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 32.75 บาทได้สำเร็จ จะมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 38 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 43.25 บาท ตามลำดับ โดย lVL มีจุด Stop Loss ระยะสั้นรอบนี้อยู่ที่ 28.25 บาท (แนวต้าน: 29.75, 30.50, 31.75; แนวรับ: 28.50, 27.75, 26.50)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
' สมคิด'มองเศรษฐกิจแง่บวก รองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์คาดว่าเศรษฐกิจไทยโตไม่น้อยกว่า 3% ในไตรมาสสองหลังคาดการณ์ตัวเลขหลายตัวในไตรมาสดังกล่าว และยังมองแง่บวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจในช่วงถัดไปด้วย หนุนโดยตัวเลข MPl และความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่ดีขึ้นรวมถึงภาคการท่องเที่ยวขาขึ้นในปีนี้และปีต่อไป และมีอัพเดทเรื่องกองทุนโครงสร้างพื้นฐานไทยมูลค่า 1 แสน ลบ. ภายใต้รูปแบบ PPP คาดว่าจะเข้า ครม.ได้ใน 2 สัปดาห์ (Bangkok Post/ The Nation)
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 25 เดือน ม.หอการค้าไทยรายงานวานนี้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงสู่ 71.6 ใน มิ.ย. จาก 72.6 ใน พ.ค. แตะจุดต่ำสุดรอบ 25 เดือน เป็นเพราะเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าคาด ส่งออกอ่อนแอ ผลลบจาก Brexit และการว่างงานที่เพิ่มขึ้น (Bangkok Post)
ต่างประเทศ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทรงตัวเมื่อวันพฤหัส อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 30 ปี ลดลงเล็กน้อยส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอื่น ๆ เปลี่ยนแปลงน้อยมากเมื่อวันพฤหัสจากความกังวลก่อนการประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐในวันนี้ ราคาพันธบัตรอายุ 30 ปีล่าสุดเพิ่มขึ้น 10/32 ผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.138% ส่วนราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีล่าสุดไม่เปลี่ยนแปลง ผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 1.385% (Reuters)
เงินเยนแข็งค่าติดต่อกัน 3 วันเมื่อวันพฤหัส ส่วนเงินปอนด์ยังร่วงลงต่อ สวนทางกับที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าเนื่องจากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลดลงในช่วงบ่ายจากการที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลง ในช่วงท้ายของการซื้อขาย เงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.1% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 1.2919 ดอลลาร์สหรัฐ ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 31 ปีที่ 1.2798 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันพุธ เงินปอนด์ปรับตัวลงกว่า 14% นับตั้งแต่ชาวอังกฤษรลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.5% เทียบกับเงินเยนอยู่ที่ 100.78 เยน อยู่เหนือระดับต่ำสุดที่ 99.00 เยนเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันหลังการลงประชามติ 1 วัน ส่วนเงินยูโรปรับตัวลง 0.8% เทียบกับเงินเยนอยู่ที่ 111.56 เยน (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดทั้งบวกและลบเมื่อวันพฤหัส หลังจากการร่วงลงของราคาน้ำมันได้ฉุดให้ดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P500 ปิดลดลง รายงานยอดขายที่แข็งแกร่งของ Costco (ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกอันดับ 4 ของโลกสัญชาติอเมริกัน) หนุนกลุ่มเทคโนโลยีและดันให้ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนประจำเดือนมิ.ย.ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์จากการเปิดเผยของ ADP ช่วยหนุนตลาดก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ (Reuters)
การจ้างงานในภาคเอกชนของสหรัฐประจำเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 172,000 ตำแหน่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะมีการจ้างงานในภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 159,000 ตำแหน่ง ตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค. ได้มีการปรับตัวเลขเป็นเพิ่มขึ้น 168,000 ตำแหน่งจากตัวเลขเดิมที่เพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่ง (Reuters)
ผลสำรวจจากรอยเตอร์สระบุว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ส่วนอัตราการว่างงานมีคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 4.8% จาก 4.7% ของเดือนก่อนหน้า (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีฟื้นตัว หลังจากที่ปรับตัวลดลง 3 วันติดต่อกันก่อนหน้านี้ นาโดยการปรับตัวสูงขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ Associated British Foods และ Danone แม้ว่าจะยังคงแวดล้อมไปด้วยสัญญาณความกังวลที่มากขึ้นจากหลังจากเกิดการ Brexit ก็ตาม (Reuters)
เอเชีย :
เกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นลดลงเล็กน้อยในเดือน พ.ค. จากเดือน เม.ย. สาเหตุจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเพราะได้เงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้า ในขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวทำให้เกิดการเกินดุลสูงทำลายสถิติ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลอยู่ที่ 1.81 ล้านล้านเยน หรือ 17.96 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจาก 1.88 ล้านล้านเยน ในเดือน เม.ย. เป็นเดือนที่ 23 ที่เกินดุลติดต่อกัน ตัวเลขดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์การเกินดุลไว้ที่ 1.75 ล้านล้านเยน (Reuters)
ผู้กำหนดนโยบายอาวุโสของญี่ปุ่นจะหารือเกี่ยวกับการพัฒนาตลาดทั่วโลกในวันศุกร์นี้ การประชุมเน้นย้ำถึงความกังวลของ รัฐบาลที่มีเกี่ยวกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการลงคะแนนเสียง Brexit ที่อาจสร้างความเจ็บปวดในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เปราะบางของญี่ปุ่น วาระการประชุมที่สำคัญจะรวมถึงวิธีการที่รัฐบาลควรจะตอบสนองการแข็งค่าของเงินเยนด้วย(Reuters)
ไต้หวันและจีนกล่าวถึงการมาถึงของ ซูเปอร์ ไต้ฝุ่น Nepartak ซึ่งเป็นครั้งแรกของปีที่สร้างความกลัวพายุในประเทศจีน ที่อาจ เลวลงทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรง ในภาคตะวันออกของประเทศ ไต้ฝุ่นดังกล่าว ได้รับการระบุว่า เป็นหมวดหมู่ที่รุนแรงในระดับ 5 จากระดับพายุรุนแรง 1-5 โดยความเสี่ยงพายุโซนร้อนลูกนี้ทำให้มันกลายเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น (Reuters)
ประเทศจีนรายงานความประหลาดใจที่เพิ่มขึ้นในเดือน มิ.ย. เรื่องทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาของจีน โดยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้น 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือน มิ.ย. เป็น 3.21 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในห้าปีที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ค. ทั้งนี้ตัวเลขในเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 14 เดือน นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ว่าตัวเลขทุนสำรองฯ จะลดลง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 3.17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์กล่าวว่าพวกเขาปรับลดลงอีกครั้ง ถ้าค่าหยวนลดลงก่อให้เกิดการ ไหลออกของเงินทุนมากขึ้น(Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวลดลง 5% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (ElA) ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงตามที่นักวิเคราะคาดการณ์ไว้ ซึ่งได้สร้างความผิดหวังให้กับตลาดที่คาดการณ์กันก่อนหน้านี้ว่าจะเห็นการปรับตัวลดลงมากกว่านี้ โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าปรับตัวลดลง 2.40 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล (-4.9%) มาอยู่ที่ 46.40 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งนับเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดในรายวันนับตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา ขณะที่ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ล่วงหน้าปรับตัวลดลง 2.29 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล (-4.8%) มาอยู่ที่ 45.14 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล (Reuters)
การเบิกใช้น้ำมันดิบจากสต็อกสหรัฐฯ น้อยกว่าคาด โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (ElA) รายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ก.ค. ปรับตัวลง 2.2 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อยว่าจะเห็นการปรับตัวลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล (จากผลสำรวจของ Reuters) อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าที่ American Petroleum lnstitute รายงานการคาดการณ์ออกมาเมื่อวันพุธก่อนหน้านี้ว่าจะเห็นการหดหายไปถึง 6.7 ล้านบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองคำเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวลดลงหลังจากข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ฯ หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้น 6 วันติดต่อกันก่อนหน้านี้ โดยราคาทองคำตลาดจรปรับตัวลดลง 0.2% มาอยู่ที่ 1,360.26 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ จากระดับสูงสุดเมื่อวันพุธที่ 1,374.91 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ ที่เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2557 (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094