- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 05 July 2016 17:22
- Hits: 589
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outloo
แรงซื้อหลัง Brexit น่าจะอ่อนลง
คาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบน่าจะอยู่ในแดนลบมากกว่าหลังจากตลาดหุ้นโลกที่วิ่งแรงมาหลายวันจากมีลุ้นธนาคารกลางหลายชาติจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเตรียมสู้กับผลของ Brexit จากนี้ไปความวิตกกังวลกับแนวโน้มการเมืองและเศรษฐกิจในยุโรปน่าจะยังคงอยู่ อย่างน้อยจนถึงการประชุม ECB ในวันที่ 21 ก.ค. นี้ ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ส่วนใหญ่เป็นบวก ผลสำรวจของ ธปท. ระบุความเชื่อมั่นทางธุรกิจดีขึ้นในเดือน มิ.ย. หลังจากร่วงหล่น 2 เดือนติดไปก่อนหน้า ในขณะที่การท่องเที่ยวยังคงมีข่าวดีต่อเนื่องล่าสุด ททท.มองแนวโน้มท่องเที่ยวปีหน้าจะดีขึ้นอีก
หุ้นเด่นวันนี้: CPALL (Bt51.75; NR, TP Bloomberg Bt55.91)
เลือก CPALL เนื่องจากการปรับตัวดีขึ้นของการบริโภคภาคเอกชนและภาพทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง ธปท.รายงานการใช้จ่ายในครัวเรือนภาคเกษตรกรรม ในเดือน เม.ย. และ พ.ค. พบว่ารายได้ของเกษตรกรดีขึ้น จากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวขึ้นและภาวะภัยแล้งบรรเทาลง การใช้จ่ายในครัวเรือนนอกภาคเกษตรยังดีอยู่และเป็นตัวหนุนการบริโภคภาคเอกชนโดยรวม นอกจากนี้เราคาดว่า CPALL มีผลประกอบการที่โดดเด่นในไตรมาส 2/59 จากสภาพอากาศที่ร้อนกว่าทุกปีนำไปสู่ยอดขายที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษของสินค้าประเภทเครื่องดื่มและไอศครีม Bloomberg consensus คาดว่ากำไรสุทธิของ CPALL จะเติบโตเพิ่มขึ้น 16.4%YoY ในปี 2559 และ 19.8%YoY ในปี 2560 โดย CPALL คาดว่าการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะเพิ่มเป็น 3% ในปี 2559 หลังจากหดตัว 2.6% ในปี 2557 และโตเพียง 0.9% ในปี 2558 ในขณะเดียวกัน SSSG ขอบบริษัทย่อย คือ MAKRO คาดว่าจะกลับมาเป็นบวกในปีนี้หลังจากที่หดในปี 2558 ณ สิ้นไตรมาส 1/59 นี้ CPALL มี 9,043 สาขา เพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี 211 สาขา และวางแผนจะเพิ่มทั้งหมด 700 สาขาในปีนี้ให้เป็น 9,500 สาขา เราคาดว่าการเพิ่มจำนวนสาขาและการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม อาจทำให้ Consensus ปรับประมาณการเพิ่มขึ้นไปต่อเนื่อง Price Pattern ของ CPALL มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ CPALL แล้วคาดว่าจะได้เห็นการทำ New High โดยมีเป้าหมายแรกเพื่อทดสอบ High เดิมที่ 52 บาท และมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 57 บาท โดย CPALL มีจุด Stop Loss ระยะสั้นรอบนี้อยู่ที่ 48 บาท (Resistance: 52.00, 52.50, 53.25; Support: 51.50, 51.00, 50.25)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
กฎหมายใหม่ปลดล็อค SME พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจมีผลบังคับใช้แล้ววานนี้ โดย พ.ร.บ.จะอำนวยความสะดวกให้เอสเอ็มอีและธุรกิจใหม่เข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้ง่ายโดยใช้สินค้าคงคลัง วัตถุดิบและสินทรัพย์ทางปัญญาค้ำประกันได้ สังหาริมทรัพย์เหล่านี้ไม่สามารถใช้ค้ำได้ก่อนหน้านี้ (Bangkok Post)ความเห็น: เป็นความพยายามของรัฐบาลอีกมาตรการที่จะช่วย SMR และเพิ่มการลงทุนในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม
ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจฟื้นตัวเล็กน้อย มิ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (BSl) ของธนาคารแห่งประเทศไทย มิ.ย.นี้ออกมาเท่ากับ 50.4 ดีขึ้นจาก 49.7 ใน พ.ค. และกลับลำจากที่ลดลง 2 เดือนติดกันเพราะความกังวลต่อต้นทุนการผลิตผ่อนคลายลงเพราะราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลงหลังจากเพิ่มขึ้นในเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ดีผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวอุปสงค์ในประเทศที่ยังอ่อนแอ ความเชื่อมั่นในช่วง 3 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 52.6 ลดลงเล็กน้อยจาก 53.6 ในเดือน พ.ค. (Bangkok Post)ความเห็น: เราเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นของรัฐบาลซึ่งจะเห็นผลในช่วงครึ่งหลังของปี 59 รวมถึงการลดลงของความกังวลปัญหาภัยแล้งจะช่วยให้ความเชื่อมั่นดีขึ้นนับจากนั้น
ททท. คาดหวังมุมมองสดใสต่อเนื่องในปีหน้า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเมินว่าจะเห็นการเติบโตของรายได้การท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องในปีหน้าอีก 12% YoY มาอยู่ที่ 2.89 ล้านล้านบาท จากคาดการณ์รายได้ปีนี้ที่ 2.58 ล้านล้านบาท ซึ่งจะเกิดขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะเข้ามา 34.1 ล้านรายนปีหน้า สูงขึ้นจากตัวเลขในปีนี้ที่ 30 ล้านราย โดยได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวรวมไปถึงความร่วมมือการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศผ่านภาคเอกชนและบริษัทท่องเที่ยวต่างๆ (Bangkok Post)
ต่างประเทศ
อังกฤษประกาศแผนจะปรับลดภาษีนิติบุคคลจากเดิม 20% มาอยู่ที่ 15% เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจาก Brexit และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันทางภาษี นายจอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีคลังอังกฤษเปิดเผยว่าเขาต้องการที่จะสร้าง "เศรษฐกิจที่มีการแข่งขันระดับสูงสุด" จากการลดภาษีนิติบุคคลและเน้นในระดับโลก อัตราภาษีนิติบุคคลเฉลี่ยในประเทศที่พัฒนาแล้วอยู่ที่ 25% (Reuters) ความเห็น: ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับบทบาทของนายออสบอร์นในรัฐบาลชุดใหม่ก่อให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับเป้าหมายที่ได้ประกาศว่าจะเป็นจริงได้หรือไม่
สหรัฐ :
ตลาดการเงินในสหรัฐปิดทำการในวันจันทร์เนื่องในวันชาติสหรัฐ (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันจันทร์ปรับตัวลดลงหลังจากสูงขึ้น 4 วันติดต่อกัน นำโดยการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มธ.พ. แต่ยังได้แรงหนุนบางส่วนจากการปรับตัวสูงขึ้นของหุ้นกลุ่มสินแร่ตามราคาโลหะที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาหุ้นธ.พ. Monte dei Paschi สัญชาติอิตาลีปรับตัวลดลงหลังจากที่ ECB ต้องการให้ขายหนี้เสียออกไป ซึ่งจะส่งผลให้ต้องสำรองเงินทุนเพิ่มมากขึ้น (Reuters)
ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในอังกฤษปรับตัวลดลงแรงหลังจากโหวต Brexit จากการสำรวจของ YouGov และศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (Centre for Economics and Business Research:Cebr) พบว่าจำนวนผู้ประกอบการและธุรกิจที่มีมุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 49% จาก 25% ก่อนจะมีการโหวต Brexit (Reuters)
จับตาไปที่ธนาคารอิตาลีอีกครั้ง หลังจากที่อิตาลีกำลังเจารากับสหภาพยุโรปในการปรับแผนที่จะให้มีการจำกัดการขาดทุนของธ.พ. เพื่อช่วยนักลงทุนในอุตสาหกรรมธ.พ. (Reuters)
เอเชีย :
การคาดการณ์เงินเฟ้อของบริษัทญี่ปุ่นลดลงเล็กน้อยในเดือน มิ.ย. จากสามเดือนที่ผ่านมา: เพิ่มข้อสงสัยที่มีต่อการใช้ QQE ให้ถึงเป้าหมาย 2% โดยบริษัทคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.7% ต่อปี ตั้งแต่วันนี้ลดลง 0.1% จากสามเดือนที่ผ่านมา ยังห่างจากเป้าหมาย 2% ของ BOJ เป็นรายงานผลสำรวจTankan ของ BOJ ที่คาดการณ์เมื่อวันจันทร์ (Reuters)
หุ้นจีนปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ที่ผ่านมา จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นและหวังว่าปักกิ่งจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มเติม โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มทรัพยากรที่นักลงทุนเข้ามาซื้อขายอย่างมีสภาพคล่องกว้างขึ้นในตลาด (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันอ่อนลงวันจันทร์ หลัง Khaled Al-Faleh รมว.พลังงาน ซาอุฯ ให้ความเห็นว่าตลาดมุ่งสู่จุดสมดุล และแผ่วลงเพราะความต้องการที่ชะลอตัวในเอเชีย อุปทานน้ำมันเบนซินที่ล้นเกินและสัญญาณว่าผลผลิตน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น Brent ล่วงหน้าปรับลง 25 เซนต์ ปิดที่ 50.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าลดลง 23 เซนต์ ปิดที่ 48.76 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองเพิ่มขึ้นวันจันทร์ เพราะการเมืองไม่แน่นนอนในอังกฤษหลังการลงมติหนุนราคา การปิดสถานะชอร์ตชั่วข้ามคืนอย่างคึกคักในจีนยังเป็นตัวหนุนโลหะมีค่าด้วย ราคาทองคำตลาดจร ปิดเพิ่มขึ้น 0.63% ที่ 1,350.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำสหรัฐเพิ่มขึ้นเกือบ 1.1% ปิดที่ 1,353.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
ราคาโลหะปรับตัวลงเมื่อวันจันทร์หลังจากที่ปรับตัวขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขาย เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นและมีแนวโน้มว่าดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลง ถึงแม้ว่าราคานิกเกิลจะยืนใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนในช่วงก่อนหน้านี้เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการปิดเหมืองแร่ในฟิลิปปินส์ก็ตาม ราคาดีบุกยังคงแข็งแกร่งโดยใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือนอยู่ที่ 18,125 ดอลลาร์สหรัฐเนื่องจากภาวะอุปทานตึงตัว ส่วนราคาทองแดงและอลูมิเนียมแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนก่อนปรับตัวลง ส่วนตะกั่วแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนก่อนปรับตัวลง (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094