- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 04 July 2016 19:05
- Hits: 2238
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เก็บหุ้น PE ต่ำ 10 ที่มีปัจจัยบวกรออยู่
วันนี้คาดดัชนีฯหุ้นไทย Sideways แนวรับ 1,436 จุด แนวต้าน 1,452 จุด
สัปดาห์นี้ คาดเป็นสัปดาห์พักฐาน (พักเพื่อขึ้นต่อ) จากแรงขายทำกำไรของนักเล่นสั้นที่ช้อนซื้อมาในช่วง BREXIT บวกกับ แรงขายหลังจบ Window dressing คาดแนวรับ 1,425/1,430 จุด แนวต้าน 1,450 จุด
สำหรับ แนวโน้มเดือน กค. คาดขึ้นก่อนในช่วงครึ่งแรกของเดือน รับกระแส แนวโน้มเฟดเลื่อนขึ้นดอกเบี้ย หลังเศรษฐกิจโลกเสี่ยงเพิ่มจากกรณี BREXIT และ ผันผวนในช่วงครึ่งเดือนหลัง โดยอาจพักฐานเพื่อรอ Earning preview ผลการดำเนินงาน บจ. 2Q16 คาดกรอบ 1,380-1,450 จุด
หุ้นแนะนำวันนี้ BCP คาดราคาหุ้นจะแรลรี่รับการปลดล็อคมูลค่าโรงไฟฟ้าบางจากที่กำลังจะเข้าจดทะเบียนฯ ขณะที่ราคาหุ้นเทรดบน PE 9 เท่า เรามองว่ายังไม่ได้สะท้อนมูลค่าจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนซึ่งตลาดให้ PE เฉลี่ยเกิน 20 เท่า และ ธุรกิจปั๊มน้ำมันอย่าง PTG ที่เทรด PE 40-50 เท่า โดยรายได้จากทั้ง 2 ธุรกิจมีสัดส่วนคิดเป็น 2/3 ของรายได้บริษัทฯ, BTS วันที่ 6 กค. กำหนดขายซองรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) BCP เราแนะนำ ซื้อ และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 44 บาท (เดิม 32 บาท) เพื่อสะท้อนมูลค่าในแต่ละธุรกิจ (SOTP) โดยหากใช้ PE ค่าเฉลี่ยกลุ่มในแต่ละธุรกิจที่ BCP มีได้แก่ โรงกลั่น/ปั้มน้ำมัน/โซล่าร์/สำรวจปิโตรเลี่ยม จะได้ PE ของ BCP ที่ราว 13 เท่า ในขณะที่ปัจจุบันหุ้นเทรดเพียง 9 เท่า และคาดในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า จะมีการสรุป pre-emptive right สำหรับธุรกิจโซล่าร์ฟาร์มที่จะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นและปลดล็อคมูลค่าที่ซ่อนอยู่
(+) กลุ่มโรงพยาบาล เราคงน้ำหนัก "มากกว่าตลาด" โดยปรับราคาเป้าหมายขึ้น (roll valuation ไปอิงปี 2017) BDMS 27 บาท BH 250 บาท CHG 3.7 บาท และยังมีปัจจัยหนุนระยะสั้นจาก กำไรที่คาดจะเติบโตดีในช่วง 3Q16 ตลอดจนครึ่งปีหลัง โดยคาดกำไร 2H16 โต 19% YoY (ดีกว่า 1H16) และคาดตลาดจะให้ความสำคัญและคาดหุ้นจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าดัชนีได้ เพราะเป็นหุ้นกลุ่มที่กำไรมั่นคง (resilient earnings) ซึ่งปัจจุบันตลาดอาจกลังวลกับหุ้นกลุ่มอื่นในด้านผลกระทบจาก Brexit สุดท้ายผลจากการศึกษาย้อยหลังพบว่าราคาหุ้นให้ผลตอบเฉลี่ย 9% ในช่วง 3Q ในขณะที่ดัชนีให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเพียง 2%
(+) กลุ่มรับเหมาฯ update การประมูลรถไฟสายสีส้ม เปิดขายซอง 15 กค- 29 กค / ยื่นซอง 31 ตค แบ่งเป็น 6 สัญญา คาด CK และ ITD จะได้สัญญา ขนาดใหญ่ (สัญญาละประมาณ 1.5-2.0 หมื่นล้านบาท) เพราะประวัติในการทำงาน ในขณะที่ STEC และ UNIQ คาดได้สัญญาที่รองลงมามูลค่าราว 5,000-10,000 ล้านบาท ต่อสัญญา เราแนะ CK เป็น Top pick ของกลุ่ม
หุ้นมีประเด็น
(+) IFEC TPCH SUPER GUNKUL: ผู้ว่าฯกฟผ.คนใหม่ แถลงนโยบายมุ่งขับเคลื่อน กฟผ. เป็นองค์กรผลิตไฟฟ้าหลักที่มุ่งพัฒนาพลังงานหมุนเวียน ควบคู่กับพลังงานถ่านหิน / กฟผ.เตรียมปรับแผนเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าจาก 37% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศ ให้เป็น 50% ตามนโยบายการสร้างความมั่นคงการผลิตไฟฟ้า ของกระทรวงพลังงาน ซึ่งภายในเดือน ต.ค.2559 นี้ จะเสนอแผนการดำเนินงานใหม่ให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) พิจารณาควบคู่กับการสร้างโรงไฟฟ้าที่จะเน้น พลังงานทดแทน และโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพื่อถ่วงดุลเชื้อเพลิงธรรมชาติและรักษาอัตรา ค่าไฟฟ้าที่ประชาชนยอมรับได้ (ที่มา แนวหน้า)
(0/-) GFPT CPF TFG BR เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่และตัวแทน 9 สมาคมผู้ผลิตสัตว์ปีก ยื่นหนังสือต่อ สนช. เพื่อคัดค้านร่าง พ.ร.บ. ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ เพราะเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เกษตรกรกังวลว่าการกำหนดค่าอากรการฆ่าและค่าธรรมเนียมจะส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตไก่เนื้อทั้งระบบ ผู้บริโภคต้องซื้อไก่แพงขึ้น เกษตรกรผู้เลี้ยงมีต้นทุนการเลี้ยงเพิ่มขึ้น (ที่มา มติชน)
(+) BEM BTS สายสีชมพู กับ สีเหลือง จะเปิดขายซองประมูล 6 กค - 6 สค. คาดรู้ผลประมูล กพ. 60 (ที่มา ผู้ว่า รฟม. /อินโฟเควส์ ASPEN)
(+) CK รถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนต่อศูนย์วัฒนธรรม จะเปิดขายซอง 15 กค.นี้ และยื่นซอง 31 ตค. / เราคาดว่า ITD และ CK มีลุ้นงานอุโมงค์สัญญา 1-3 มูลค่ารวม ราว 6 หมื่นล้านบาท เพราะเคยรับงานอุโมงค์มาก่อน ส่วนสัญญา 4-6 งานทั่วไปมูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท คาด STEC UNIQ น่ามีลุ้นมากกว่าสัญญา 1-3
(-) BLA กบข.ปรับพอร์ตลงทุนรับเบร็กซิท ชะลอแผนเพิ่มสัดส่วนลงทุนต่างประเทศ จากปัจจุบันอยู่ที่ 23% คาดตลาดผันผวนลากยาวถึงสิ้นปี จากผลกระทบเบร็กซิท แจง กบข.ได้รับผลกระทบน้อย เพราะเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้า ลดลงทุนหุ้น โยกเงินเข้าพันธบัตรไทยกว่าหมื่นล้าน / กดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับลง (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) วันจันทร์ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการ เนื่องในวัน Independence day, EURO area Sentix investor confidence กค., ญี่ปุ่นรายงาน Tankan survey
(+) วันอังคาร US Factory orders (May) คาด -0.8% จาก +1.9% m-m, EURO PMI (Jun) คาด 52.8 คงที่, BOE Financial Stability report, ไต้หวัน CPI มิย. คาด 1.1 จาก 1.2%, ธนาคารกลางออสเตรเลีย คาด คงดอกเบี้ย ที่ 1.75%
(0) วันพุธ US Trade balance (May) คาด -39.5 จาก -37.4 $bn., US ISM ภาคบริการ มิย.คาด 53.5 จาก 52.9, รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC Minute) สเปน Industrial production และ เยอรมนี Factory orders
(*) พฤหัส ECB account of the monetary policy meeting, เยอรมนี Industrial production พค., ญี่ปุ่น Economic coincident index, China FX reserve คาด 3166 จาก 3192 US$bn
(0) ศุกร์ US การจ้างงานนอกภาคเกษตร มิย. คาด 180k จาก 38k และ อัตราว่าง คาด 4.8% จาก 4.7%, ECB's Liikanen speaks in Mikkei Conference, France Industrial production
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
รายงานวันนี้
หุ้น: BCP คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 44.00
เราปรับคำแนะนำเป็น "ซื้อ" จาก "ถือ" ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 44 บาท
เชื่อค่า PE ที่ต่ำกว่ากลุ่มธุรกิจต่างๆ และการเข้าจดทะเบียนของธุรกิจโซล่าร์ของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์ จะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น
แนวโน้มธุรกิจค้าปลีกน้ำมันอยู่ในช่วงขาขึ้นจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และค่าการตลาดอยู่ในระดับสูง หุ้นที่ทำธุรกิจน้ำมันค้าปลีกซื้อขาย PE กว่า 20เท่า (ในขณะที่ BCP ซื้อขายเพียง 9 เท่า) ซึ่งเรามองราคาตลาดยังไม่ได้สะท้อนปัจจัยนี้
เราปรับการประเมินราคาหุ้นมาใช้วิธี SOTP เพื่อสะท้อนธุรกิจย่อยของบริษัทอาทิเช่น โรงกลั่น ปั๊มน้ำมัน และ โซล่าร์ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะสะท้อนมูลค่าของหุ้น BCP ได้ดียิ่งขึ้น
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
กลุ่ม: การแพทย์ คำแนะนำ: เพิ่มน้ำหนักการลงทุน ราคาเป้าหมาย (บาท): -
เราคงน้ำหนัก "มากกว่าตลาด" สำหรับหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล จากคาดการณ์เติบโตกำไรที่แข็งแกร่งทนทานในทุกสถานการณ์แม้หลัง Brexit และความเสี่ยงต่ำ
เราคาดกำไรครึ่งหลังของปี 2559 เติบโต 19% YoY ดีกว่าครึ่งแรกของปีที่คาดเติบโต 10% YoY
มองกำไรไตรมาส 3/59 โดดเด่นสุดของปีเติบโตประมาณ 20% YoY และ QoQ
Tactical call ชี้ชัดดัชนีหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเดือน ก.ค-ก.ย ให้ผลตอบแทนโดดเด่นและดีกว่าตลาด
เราปรับราคาเป้าหมายเป็นสิ้นปี 2560 ที่ BDMS 27 บาท BH 250 บาท และ CHG 3.70
นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
Technical Analysis
Security: TOP
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 65
Stop loss: < 58.5
Reason: เราประเมินจุดแนวรับที่ 58-60 เป็นโอกาสในการเข้าซื้อหลังจากที่หุ้น ส่งสัญญาณดีดตัวขึ้นและค่า RSI กำลังส่งสัญญาณดีดตัวขึ้นเช่นกัน
Security: CPF
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 33
Stop loss: < 27.5
Reason: มองโอกาสการเข้าซื้อหุ้นตำแหน่งแนวรับจะอยู่ที่บริเวณ 28 บ. หนุนด้วยค่า MACD ฟื้นตัวจากกรอบล่างคล้ายรูปบแบบในอดีต
Security: STPI
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 11
Stop loss: < 9.7
Reason: โครงสร้างระยะกลางพบว่าหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบลักษณะ Sideway มองโอกาสการเข้าซื้อหุ้นตำแหน่งแนวรับจะอยู่ที่บริเวณ 9.5-9.7
Security: SVI
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 5.8-6
Stop loss: < 5
Reason: แกว่งตัวอยู่บนทิศทางขาขึ้น Sideway up ปัจจุบันหุ้นส่งสัญญาณฟื้นตัวบนตำแหน่งแนวรับบริเวณ 5 บ. หนุนด้วยค่า RSI ปรับตัวขึ้น
Security: TISCO
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 54
Stop loss: < 48
Reason: หุ้นปรับตัวขึ้นได้ตามคาด ขณะที่โมเมนตัมระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีก จากสัญญาณทะลุทำจุดสูงสุดใหม่พร้อมกับวอลุ่มที่เพิ่มขึ้น
Security: RML
Position: ขาย
Reason: ประเมินความเสี่ยงการเปลี่ยนเป็นลง หากราคาหลุดเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลางบริเวณ 1.55 บ. หนุนด้วยค่า MACD ส่งสัญญาณลบตัดเส้น signal line ลง