- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 30 June 2016 17:48
- Hits: 525
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ ขยับขึ้นทดสอบด่าน 1,450 จุด ผลักดันด้วยกลุ่มพลังงาน / รับเหมาก่อสร้าง/ อสังหาฯ อีกทั้งบรรยากาศรอบเอเชียและยุโรปเอื้อต่อเก็งกำไร ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวกอีก 5.24 จุด มาอยู่ที่ 1,442.66 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นถึง 62,744 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติยังคงน่าสนใจ แม้ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยแต่ก็เพียง 295 ล้านบาท แต่คงการซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 มากถึง 17,765 ล้านบาท และ Long สุทธิใน SET50 Index Futures มากถึง 11,649 สัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามภาวะเศรษฐกิจเดือนพ.ค.ของธปท.วันนี้
ปัจจัญสำคัญสัปดาห์หน้า
ติดตามการประมาณการ 2Q59 ของกลุ่มธนาคารที่จะทยอยออกมามากขึ้น
ติดตามรายงานการประชุมเฟด วันที่ 14-15 มิ.ย. ต่อมุมมองด้านเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และการจ้างงาน
ติดตามการประชุมครม. ทุกวันอังคาร อาจมีการพิจารณาแผนการลงทุนขนาดใหญ่
การขายซองประมูลงาน 6 สัญญาในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงลบ (วันแรกในรอบ 26 วัน)
เรายังคงยืนยันว่า SET INDEX ที่แนว 1,450 จุด ยังไม่น่าผ่านได้ในรอบสั้นนี้ แม้ว่าบรรยากาศทั้งในและต่างประเทศค่อนข้างเอื้อต่อการเทรดดิ้งบนโมเมนตัมก็ตาม ความกังวลต่อกรณี Brexit คลายตัวลง แต่ปัจจัยที่สนับสนุน SET INDEX ในสัปดาห์นี้คือ Window Dressing จะสิ้นสุดลงในวันนี้ อีกทั้ง Valuation ของ SET INDEX ณ ระดับปิดวานนี้ซื้อขาย PER16 สูงถึง 15.56x สูงกว่าค่าเฉลี่ย 1Yr Forward PER +1SD ย้อนหลัง 5 ปีที่ 15.33x รวมถึงสัญญาณทางเทคนิก
การเทรดดิ้งบนโมเมนตัม อาจทำให้ SET INDEX ทะลุ 1,450 จุดได้ แต่ Risk&Reward ไม่สมดุล เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.ค.ที่จะประกาศในวันนี้ รวมถึงแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q59 ของกลุ่มธนาคาร ซึ่ง KBANK คาดกำไรสุทธิ 1.03 หมืนล้านบาท เติบโต 7% qoq นักวิเคราะห์ในตลาดอาจยังไม่ปรับประมาณการขึ้น อีกทั้งตลาดหุ้นไทยติดวันหยุดยาวในวันพรุ่งนี้
ปัจจัยสำคัญในช่วงนี้ เรายังคงแนะนำให้นักลงทุนติดตามพัฒนาการกรณี Brexit ต่อเนื่อง เพราะจะมีผลต่อกระแสเงินทุนต่างชาติที่จะไหลเข้าเอเชียและไทย
กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำให้นักลงทุน Wait&See หากจะเลือกเก็งกำไรรอบสั้น กลับมาเน้นหุ้นที่ Valuation ต่ำ แต่เงินปันผลสูง เป็นทางเลือก
Strategy of the Day
1. สะสม CK : ราคาปิด 29.25 บาท ราคาเหมาะสม 34.00 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากเป็นกลุ่ม Domestic Play จึงได้รับผลกระทบจำกัดจากกรณี BREXIT
b) มีปัจจัยบวกรออยู่ในเดือน ก.ค. คือ การขายซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม จำนวน 6 สัญญา มูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่า CK จะเป็น 1 ในตัวเต็งที่ได้งานอย่างน้อย 1 สัญญา เนื่องจากเป็นบริษัทรับเหมาขนาดใหญ่และมีความเชี่ยวชาญงานรถไฟฟ้า
c) ราคาหุ้น Laggard โดย YTD ปรับตัวขึ้น +1% เทียบกับ SET INDEX +12.1% และเชื่อว่าราคาหุ้นควรจะขยับขึ้นตามบริษัทลูกที่ Outperform ไปก่อนหน้า ได้แก่ CKP +48%, BEM +31% ส่งผลให้ NAV จากการถือหุ้นใน CKP, BEM, TTW คิดเป็นมูลค่า 27.00 บาทต่อหุ้น CK
2. เก็งกำไร IRPC : ราคาปิด 4.78 บาท ราคาเหมาะสม 5.30 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะ Outperform ตลาดในวันนี้ จากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับตัวขึ้น +4% dod เมื่อคืนนี้ และเพิ่มขึ้น 2 วันรวมกันถึง +7% หลังเงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง เนื่องจากประเด็น BREXIT เริ่มคลายตัว
b) คาดกำไรสุทธิ 2Q59 ทรงตัวในระดับสูง qoq ที่ 3 พันล้านบาท และกำไรปกติจะเร่งตัวขึ้นใน 2H59 เนื่องจากโครงการ UHV จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.ค. เป็นต้นไป และส่งผลให้ GIM เพิ่มขึ้นได้อีกอย่างน้อย US$1.00/barrel
c) Valuation ยังถูก ซื้อขายระดับ PER2559 เพียง 8.5 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 5.8%
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Equity Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong