- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 28 June 2016 16:43
- Hits: 2931
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ : แกว่งตัวออกด้านข้าง
ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดจะแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยการฟื้นตัวขึ้นแรงของตลาดวานนี้ อาจจำกัดการปรับขึ้นต่อของตลาด และมีปัจจัยกดดันจากการที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลง ประกอบกับทิศทางการไหลของเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติยังไม่ชัดเจน จากการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างมากด้วยกรณี BREXIT ทำให้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐในปีนี้ชะลอออกไป
แนวรับ/แนวต้าน : 1410/1435 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
กลยุทธ์ : ซื้อหุ้น กลุ่ม โรงกลั่น ท่องเที่ยว รับเหมา
หุ้นแนะนำ
KCE (91) : เรามองว่าแนวโน้มค่าเงินยูโรอ่อนจะมีผลกระทบจำกัดต่อ KCE จากการศึกษาของเราพบว่า Correlation ระหว่างค่าเงินบาทต่อยูโรและอัตรากำไรขั้นต้นของ KCE ในช่วง 41 ไตรมาสย้อนหลังอยู่ที่ -0.29 ซึ่งสะท้อนว่าทิศทางค่าเงินยูโรไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวที่จะชีวัดทิศทางการดำเนินงานของผลประกอบการได้ เราจึงแนะนำซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัว จากแนวโน้มอุตสาหกรรมแผงวงจรไฟฟ้าในรถยนต์ที่สดใส
ASEFA (6.00) : เราแนะนำให้ทยอยซื้อสะสม เนื่องจาก ASEFA ได้รับผลบวกจากทิศทางของอุตสาหกรรมที่มีความต้องการไฟฟ้าโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราคาดกำไร 2Q59 ยังมีแนวโน้มดีต่อเนื่องจากงานทั้งภาครัฐและเอกชน อีกทั้งยังมีการประมูลใหม่ๆเข้ามา นอกจากนี้ในช่วง 2H59 ยังเป็นช่วง high season ของธุรกิจ ทั้งนี้ปัจจุบัน ASEFA ซื้อขายที่ PEปี59 เพียง 10 เท่า และคาดอัตราปันผลที่ประมาณ 5%
GCAP (3.50) : ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นโครงการสนับสนุนเงินทุนด้านการผลิต โครงการพักชำระหนี้เงินต้น และโครงการประกันภัยนาข้าว ทั้งนี้ GCAP มี market share สินเชื่อรถเกี่ยวข้าวสูงสุดในประเทศ อีกทั้งคาดผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าช่วงต้นปีจากการเข้าสู่ช่วง high season ซึ่งเป็นฤดูเกี่ยวข้าว การเปลี่ยนจาก el nino เป็น la nina ทำให้เอื้อต่อการทำเกษตรกรรม และธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
CK (35.50) : คาดกำไร 2Q59 โดดเด่นอย่างมาก เนื่องจากอาจมีการรับรู้งานส่วนเพิ่มเติมในโครงการเขื่อนไซยะบุรีมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านบาท (ปกติรายได้ประมาณไตรมาสละ 9 พันล้านบาท) อีกทั้งคาดว่าจะมีงานประมูลของทางภาครัฐและเอกชนออกมาเรื่อยๆไม่ว่าจะป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสี ส้ม เหลือง ชมพู และสุวรรณภูมิเฟส 2 นอกจากนี้ CK ได้รับผลประโยชน์จากการเป็นผู้ถือใหญ่ในบริษัทฯ BEM CKP และ TTW ซึ่งอยู่ในอุตสาหกกรมที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มเติบโต
นักวิเคราะห์ : ยศพณ แสงนิล, CFA Email : [email protected] Tel: 02 659 8154