WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

“ซื้อ/ถือเหนือ SMA10 (1525 จุด)”
       • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มีภาพตลาดวันก่อน : # Flow ยังหนุนให้ปรับขึ้นต่อ โดยแรงซื้อหลักอยู่ในกลุ่ม Mid-Small Cap ในขณะที่แรงขายหุ้นขนาดใหญ่ไม่มาก ผนวกกับมีการเลือกซื้อหุ้น Big Cap บางตัวด้วย เช่น PTT, SCC, BANPU, BBL, CK, STEC, ITD เป็นต้น นักลงทุนต่างชาติและพอร์ตบล.ซื้อสุทธิ ส่วนสถาบันในประเทศและรายย่อยขายสุทธิ
ปัจจัยและกลยุทธ์ : # การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Projects) ภาครัฐยังหนุนหุ้นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ รับเหมาก่อสร้าง, วัสดุก่อสร้าง, ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่) รวมถึงช่วยกระตุ้นการลงทุน & การบริโภคภาคเอกชนให้คึกคักตามมาในระยะต่อไปด้วย ซึ่งเป็นไปตามหลักการ“สาธารณูปโภคไปที่ไหน ความเจริญก็ไปที่นั่น”

       ดังนั้น หุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และอสังหาริมทรัพย์อย่าง ที่พักอาศัย ให้เช่าพื้นที่ และพาณิชย์ ก็จะมีการเติบโตได้ดีตามไปด้วย ในด้านการเมือง ในช่วงเย็นวันนี้ หัวหน้าคสช.จะเข้าเฝ้าในหลวงเพื่อรับพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปีพ.ศ.2557 ซึ่งเป็นไปตาม Schedule และต่อไปก็จะมีการตั้งสภาปฎิรูปและสภานิติบัญญัติตามมา ส่วนปัจจัยที่กดดัน คือ การแข็งค่าของเงินบาทอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มว่าจะแข็งค่าต่อในช่วงเดือนส.ค.จากที่จะมีเงินเพิ่มทุนของ TRUE เข้ามาอีกประมาณ 890 ล้านUS$ ซึ่งส่วนนี้มีผลกระทบทางลบต่อ Sentimentการลงทุนในกลุ่มส่งออก เช่น ธุรกิจเกษตร & อาหารส่งออก, ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ เป็นต้น ในเชิงกลยุทธ์ สำหรับการ Trading ก็ต้องชะลอ/ปรับพอร์ตก่อน แต่การลงทุนระยะกลาง-ยาวยังถือต่อได้ โดยเฉพาะถ้ามีหุ้นต้นทุนต่ำ

      # ต่างประเทศ...จับตาเหตุการณ์การเมือง โดยขณะนี้มีแนวโน้มว่าชาติตะวันตกจะร่วมกันกดดันรัสเซียมากขึ้น รวมถึงสถานการณ์ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาก็ดูไม่ค่อยดี อย่างไรก็ตาม ประเด็นความเสี่ยงดังกล่าวหนุนราคาน้ำมันดิบและทองคำในช่วงสั้นกลยุทธ์ทางเทคนิค : ซื้อใหม่เน้นซื้อตามค่าบวก การอ่อนตัวต่ำกว่าแนวฟิวเตอร์ 1525 จุด ซึ่งเป็นระดับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 วันของ SET Index มีแนวเด้ง 1510-1500, 1480 จุด ส่วนการปรับขึ้นต่อมีแนวต้านระยะสั้น 1540-1550 จุด ทั้งนี้ในระยะสั้นมากควรระวังการแกว่งให้มากขึ้น สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อลงทุนวันนี้เป็น ROJNA

Fundamental Pick
ROJNA แนะนำซื้อราคาปิด 8.60 บาท เป้าหมาย 9.21 บาท
# ปัจจุบัน ROJNA มี Backlog มากสุดในกลุ่มรายใหญ่คือ 3,100 ไร่ เทียบกับ AMATA และHEMRAJ ที่มีอยู่ 740 ไร่ และ 430 ไร่ ตามลำดับ ดังนั้นจึงมีโอกาสจะบันทึกรายได้สูง ขณะที่รอการขายฟื้นตัว ฝ่ายวิจัยฯ DBSV ได้มีการปรับคาดการณ์กำไรปี 57 และปี 58 ขึ้นในอัตราที่สูงเป็น 30% และ 27% ตามลำดับด้วยสองสมมุติฐานคือ 1) ให้มีการโอนรับรู้รายได้จากที่ดินในนิคมฯปีนี้ได้มากขึ้นอีก 11% เป็น 3 พันล้านบาท และ 2) ปรับอัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เพื่อสะท้อนการใช้กำลังผลิตที่สูงขึ้น (ปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 430 MW) ส่วนธุรกิจไฟฟ้าโซล่าเฟสแรกที่ 8 เมกกะวัตต์ เริ่ม COD ปลาย เม.ย.57 ส่วนอีก 2 เฟสๆละ 8 เมกกะวัตต์จะเริ่ม COD ได้ไม่นานจากนี้ รายได้ต่อปีทั้งสามเฟส ประมาณ 300 ล้านบาท ด้านธุรกิจน้ำมีการจำหน่ายตกวันละ 40,000 คิว จากกำลังการผลิตทั้งหมดที่ 65,000 คิว หรือ 62% ถือว่าทยอยฟื้นตัวดีขึ้นจากปี 56 แนะนำซื้อ โดยให้ราคาพื้นฐาน 9.21 บาท (Sum-of-parts)

ปัจจัยต่างประเทศและโภคภัณฑ์
• ญี่ปุ่น : ทางการจะพิจารณาว่าจะขึ้นภาษีขายระลอกที่ 2 ได้หรือไม่ในปลายปีนี้
# นายอากิระ อามาริ รัฐมนตรีนโยบายเศรษฐกิจและการคลังของญี่ปุ่น กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะของญี่ปุ่น มีแนวโน้มจะพิจารณาขั้นสุดท้ายภายในต้นเดือนธ.ค.57 ว่าจะดำเนินการปรับขึ้นภาษีการบริโภคระลอก 2 ในปีหน้าได้หรือไม่ (จาก 8% เป็น 10% ในมีผลเดือนต.ค.58) โดยหากไม่มีการตัดสินใจภายในต้นเดือนธ.ค.ก็จะส่งผลกระทบต่อการร่างงบประมาณสำหรับปีงบประมาณ 2558

• สหรัฐ : กิจกรรมทางเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.ปรับขึ้นแต่ในอัตราที่อ่อนลง
# ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่าดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วประเทศในเดือนมิ.ย.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ +0.12 จาก +0.16 ในเดือนพ.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ลดลงเล็กน้อย โดยมีปัจจัยถ่วงจากการผลิตที่ขยายตัวชะลอลง

- เยอรมนี : เศรษฐกิจ 2Q57 ชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด
# ธนาคารกลางเยอรมนี หรือ บุนเดสแบงก์ ระบุว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมนีอยู่ในภาวะชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงไตรมาส 2/57 โดยระบุถึงความตึงเครียดทางการเมืองทั่วโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีมีกำหนดจะเปิดเผยข้อมูลจีดีพีอย่างเป็นทางการสำหรับช่วงไตรมาส 2/57 ในกลางเดือนส.ค. สำหรับไตรมาส 1/57 เศรษฐกิจมีการขยายตัว 0.8% ทั้งนี้บุนเดสแบงก์คาดว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีปี 57 จะเติบโต 1.9%ขณะที่รัฐบาลเยอรมนีคาดว่าจะขยายตัว 1.8%

- ตลาดหุ้นสหรัฐปิดอ่อนลง...วิตกรัสเซียถูกคว่ำบาตรมากขึ้น และการสู้รบในตะวันออกกลาง
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,051.73 จุด ลดลง 48.45 จุด หรือ -0.28% ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 4,424.70 จุด ลดลง 7.45 จุด หรือ -0.17% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,973.63 จุดลดลง 4.59 จุด หรือ -0.23%...ปัจจัยที่กดดัน คือ การที่รัสเซียจะถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกมากขึ้น และเหตุการณ์สู้รบระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลในฉนวนกาซา ส่วนปัจจัยที่จับตาคือ ผลประกอบการบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ที่จะทยอยประกาศออกมา

+ สัญญาน้ำมันดิบปรับขึ้น
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 1.46 ดอลลาร์ ปิดที่ 104.59 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ ปิดที่ 107.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้รัสเซียกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากนานาประเทศว่าอาจจะมีส่วนรู้เห็นต่อการตกของเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ และสหรัฐกล่าวว่ามีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าจรวดที่กลุ่มกบฏใช้ยิงเครื่องลำดังกล่าวตกในยูเครนนั้นเป็นของรัสเซีย นอกจากนี้การสู้รบระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลในฉนวนกาซา ซึ่งคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปแล้วกว่า 500 คนก็เป็นอีกประเด็นที่หนุนราคาน้ำมันดิบ

+ สัญญาทองคำ COMEX ปรับขึ้น
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 4.5ดอลลาร์ หรือ 0.34% ปิดที่ 1,313.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ปัจจัยหนุน คือ ความเสี่ยงด้านการเมืองในโลกที่สูงขึ้น

ปัจจัยในประเทศและหลักทรัพย์
      + วันนี้คสช.พิจารณาโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของกระทรวงคมนาคม (รถไฟฟ้าสายสีชมพู, สีส้มเฟส 1 และสีเขียว อยู่ในงบประมาณปี 58 แล้ว แต่รถไฟทางคู่ 5 สายยังไม่อยู่เพราะรอพิจารณา EIA)
# คมนาคมเสนอแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐาน 8 ปี (58-65) ให้ คสช.พิจารณา 22 ก.ค.นี้คาดเน้นโครงการในแผน 4 ปีแรกก่อน ลุ้นดันรถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง ถนนจิระ-ขอนแก่น 2.6หมื่นล้าน และประจวบฯ-ชุมพร 1.7 หมื่นล้าน เริ่มได้ในปลายปี 57 เหตุพร้อมที่สุดรอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมชุดใหญ่พิจารณา
      # ตามแผนยุทธศาสตร์ที่กระทรวงคมนาคมจัดทำไว้ในระยะ 8 ปี จะแบ่งการดำเนินโครงการเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกจะเป็นโครงการที่มีความพร้อมมากสุดซึ่งส่วนใหญ่ได้บรรจุอยู่ในแผนเสนอของบประมาณปี 2558 เพื่อเริ่มดำเนินการเวนคืนที่ดิน เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3สายทาง ประกอบด้วย สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี สายสีส้มเฟสแรก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-สุวินทวงศ์ และสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต
      # สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง วงเงินรวม 1.16 แสนล้านบาทคือ 1. ลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท 2. มาบกะเบา-นครราชสีมา (ถนนจิระ) ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท 3. ถนนจิระ-ขอนแก่นระยะทาง 185 กม. วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท 4. นครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงิน 2หมื่นล้านบาท และ 5. ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท ยังไม่อยู่ในแผนงบประมาณปี 2558 เพราะยังไม่ผ่านการพิจารณาผลกระสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้ตั้งประธานแล้ว โดยทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาหัวหน้า คสช.เป็นประธานเอง คาดว่าเร็วๆ นี้น่าจะพิจารณา โดยหากโครงการใดพร้อมก็จะสามารถนำมาบรรจุและดำเนินการในปีงบประมาณ 2558

       # ความเห็น Retail Research DBS : การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐเป็น KeyGrowth หนึ่งของเศรษฐกิจไทยในปี 58 และช่วยกระตุ้นให้การลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการอุปโภคบริโภคดีขึ้นตามมาด้วย (เมื่อสาธารณูปโภคไปถึง...ความเจริญก็ตามมา) เราเชื่อว่าจะทำให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนจะมีความคึกคักมากขึ้นจากนี้ไป และจะเติบโตได้ดีต่อเนื่องในระยะยาว เช่น รับเหมาก่อสร้าง (ซึ่งเรายังยืนยันมุมมองว่า Theme การลงทุนได้เปลี่ยนจากการเก็งกำไรเป็นการลงทุนระยะกลาง-ยาวมากขึ้นแล้ว หุ้นเด่นที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง คือ CK และ STEC), วัสดุก่อสร้าง (หุ้นเด่นเป็น SCC, TASCO), ธนาคารพาณิชย์ที่เน้นปล่อยสินเชื่อเพื่อการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน (หุ้นเด่นเป็นแบงค์ใหญ่ เช่น BBL, KTB,KBANK) ส่วนนิคมอุตสาหกรรม จะได้ประโยชน์จากการลงทุนภาคเอกชนที่จะเริ่มฟื้นตัวในระยะสั้น และเติบโตในระยะกลาง-ยาว ซึ่งส่วนหนึ่งได้อานิสงค์ทางบวกจากการเปิด AEC ด้วย(หุ้นเด่นในกลุ่ม คือ AMATA, ROJNA, HEMRAJ)

-/• บาทแข็งกระทบ Sentiment การ Tradingหุ้นในกลุ่มส่งออก
      # เงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็ว ล่าสุดมาอยู่ที่ 31.853 บาท/US$ แข็งที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย.56 และเมื่อเทียบ YTD แข็งค่าขึ้นมาแล้ว 2.6% รวมทั้งแข็งค่าขึ้น 1.4% จากระดับปิดในสิ้นมิ.ย.57 ที่ 32.416 บาท/US$ แนวโน้มค่าเงินบาทยังเป็นลักษณะของแข็งค่าเมื่อเทียบกับช่วง 1H57 เพราะในปลายเดือนส.ค.57 จะมีเงินชำระค่าเพิ่มทุนของ TRUE เข้ามาอีกประมาณ890 ล้าน US$
      # กดดัน Sentiment การ Trading หุ้นกลุ่มส่งออก โดยทำให้รายได้และอัตรากำไรที่แปลงจาก US$ เป็นบาทน้อยลง หุ้นกลุ่ม/หุ้นที่เราทำการวิเคราะห์และอยู่ในข่ายที่อาจถูกกระทบในทางลบ คือ CPF, GFPT, TUF, DELTA, KCE, HANA, SVI เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโดยพื้นฐานของธุรกิจของหุ้นดังกล่าวมีความแข็งแกร่งอยู่แล้วทั้งในด้านคำสั่งซื้อจากลูกค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาได้ดีและทันกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรม รวมทั้งโดยปกติแล้ว ไตรมาส 3 เป็นฤดูกาลส่งออก (High Season) ดังนั้นการแข็งค่าของเงินบาทจึงไม่ได้เป็นปัจจัยลบที่รุนแรงมาก แต่ก็กดดัน Sentiment การลงทุนโดยเฉพาะแบบ Trading ในเชิงกลยุทธ์ จึงอาจต้องมีการชะลอ/ลดพอร์ตการลงทุนลงบ้าง แล้วซื้อกลับเมื่อราคาอ่อนตัว แต่สำหรับคนที่มีหุ้นต้นทุนไม่สูงและมีเป้าหมายลงทุนระยะกลาง-ยาวก็สามารถถือต่อได้

      • การเมือง : เย็นวันนี้ (22 ก.ค.) หัวหน้าคสช.จะเข้าเฝ้าในหลวงรับพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557
# วันนี้ (22 ก.ค.57) รายงานข่าวแจ้งว่าสำนักพระราชวังแจ้งหมายกำหนดการว่าในเวลา 17.00น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ในการนี้ พ.อ.ณัฐวุฒิ ภาสุวณิชย์พงศ์ฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย โดยในวันนี้เป็นวันที่คสช.เข้าควบคุมอำนาจและบริหารราชการแผ่นดินครบรอบ 2 เดือน

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!