- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 21 June 2016 18:04
- Hits: 1192
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
คาดยังคงมีความผันผวน? ภายใต้ที่ยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ คาดการเคลื่อนไหวคล้ายวานนี้ โดยคาดตลาดส่วนใหญ่อยู่ระหว่างรอผลประชามติ Brexit ในวันที่ 23/6/59 หรือ พฤ. นี้ ขณะที่ผลสำรวจล่าสุดฝ่ายสนับสนุนให้สหราชณาจักรเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ต่อไปนั้น ยังมีคะแนนนำ ซึ่งทำให้ตลาดฯ ต่างประเทศส่วนใหญ่ตอบรับในเชิงบวกและคาดยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ซึ่งคาดส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน เช่น PTT และ PTTEP
ขณะที่อยู่ระหว่างรอถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส (21 – 22/6/59) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้
ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ คาดยังได้รับปัจจัยหนุนจาก Fund Flow โดยเฉพาะแรงซื้อสุทธิของต่างชาติ 1 – 20/6/59 เกือบ 11,000 ล้านบาท และทำให้ YTD สูงกว่า 29,000 ล้านบาท ขณะที่มีการประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้ (22/6/59) ซึ่งคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% และภายใต้เศรษฐกิจไทย ที่คาดว่าคาดดีขึ้นตามลำดับแต่ยังเปราะบาง ล่าสุดกระทรวงการคลังคาด GDP – 2Q/59 เติบโตมากกว่า 3.2% และคาดสูงสุดใน 3Q/59 ที่ 4.0% จากการลงทุนภาครัฐ และคาดทั้งปี’59 เติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.3% ซึ่งคาดยังเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมตลาดบ้าง แนะติดตามหุ้นกลุ่ม Domestic Play เช่น กลุ่มค้าปลีก เป็นต้น
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น EPG, SCC และ VNG
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK และ SEAFCO
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่อง จากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
SET
SET50
SET100
1,421.99 +0.67
901.08 +0.97
2,019.83 +2.70
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA +129.71, NASDAQ +36.88, S&P +12.03, FTSE +182.91, CAC +146.93 และ DAX +330.66 หลังผลสำรวจระบุว่า ชาวอังกฤษที่สนับสนุนให้สหราชอาณาจักรอยู่ในสหภาพยุโรป (EU) ต่อไปนั้น มีมากกว่าผู้ที่สนับสนุนให้แยกตัวออกจาก EU ซึ่งช่วยตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับกรณี Brexit ก่อนที่การลงประชามติจะมีขึ้นในวันที่ 23 มิ.ย.นี้
ขณะที่อยู่ระหว่างรอถ้อยแถลงของประธานเฟด ซึ่งจะเข้าแถลงนโยบายการเงิน และภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อ คณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐในวันนี้ และเข้าแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ โดยตลาดการเงินให้ความสำคัญต่อถ้อยแถลงดังกล่าว เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐเป็นครั้งแรกในปีนี้ หลังจากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปีเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยหนุนหลังฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้านอังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) ได้ประกาศระงับการรณรงค์ชั่วคราว ภายหลังโจ ค็อกซ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติสังกัดพรรคแรงงานของอังกฤษ ได้ถูกยิงเสียชีวิต
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ค. +US$1.39 อยู่ที่ US$49.37 ต่อบาร์เรล ภายใต้ปัจจัยหนุนจากผลสำรวจกรณี Brexit ข้างต้น และเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
P/E (เท่า)
P/BV (เท่า)
Dividend Yield (%)
21.61
1.83
3.34
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย
หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย
42,949.78
สถาบัน
+820.49
บัญชีหลักทรัพย์
+138.26
ต่างประเทศ
+1,181.69
ในประเทศ
-2,140.44
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ส.ค. -US$2.7 อยู่ที่ US$ 1,292.1
ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งจากการขายทำกำไร หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น และผลสำรวจซึ่งบ่งชี้ว่าชาวอังกฤษอาจเลือกที่จะอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไป
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +1,182 ล้านบาท สะสม YTD +29,091 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 21 - 24 มิ.ย. 2559
21/6/59 : ไม่มีเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ
22/6/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค.
สต็อกน้ำมัน
23/6/59 : ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน
(อัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุด 1.50%)
สหรัฐฯ เปิดเผย
ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนพ.ค.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมิ.ย.
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนพ.ค.
ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.
24/6/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนมิ.ย.
(7) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, ERW) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยล่าสุดสภาพัฒน์ฯ ปรับเพิ่มคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวปี’59 อยู่ที่ 33 ล้านคน จากเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6%
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.05 อยู่ที่ 1.67% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.04 อยู่ที่ 18.37
หุ้นแนะนำ : SPA
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788