- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 17 June 2016 16:53
- Hits: 2413
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
มุมมองทางเทคนิคเรื่อง 'Brexit'
สัปดาห์นี้ต่างปรับตัวลงแรงจากความกังวลที่สหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยผลการสำรวจล่าสุดเสียงข้างมากเลือกที่จะออก การทำประชามติจะจัดขึ้นในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ นักลงทุนมองสถานการณ์ดังกล่าวว่า อาจปรับพอร์ตลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลงก่อนถึงวันทำประชามติตลาดหุ้นไทยก็อาจได้รับผลกระทบได้เช่นกัน สินทรัพย์เสี่ยงกำลังอยู่ภายใต้แรงกดดัน ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ S&P500 และยุโรปกำลังปรับตัวลงสวนทางกับราคาทองที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากการหวาดกลัวการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงดังนั้นปัจจัยภายนอกในระยะนี้ดูเหมือนจะส่งผลต่อทิศทางของตลาดหุ้นไทยมากกว่า ดังนั้นเราทำการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยทางเทคนิคโดยมีทางเลือก 2 ทางคือ
Scenario 1: Leave
อังกฤษ "ออก" จากสหภาพยุโรป SET อาจปรับตัวลง 5-8% จากจุดยอด 1450 จุด โดยประเมินแนวรับที่ 1360-1390 อาจปรับตัวก่อนวันการทำประชามติวันที่ 23 มิ.ย.2559 กลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะปรับตัวลงแรงจะเป็นกลุ่มที่เชื่อมโยงกับภาวะเศรษฐกิจในต่างประเทศ อาทิเช่น พลังงาน ปิโตรเคมี และอิเล็คทรอนิคส์
Scenario 2: Remain
อังกฤษ "อยู่ต่อ" SET คาดว่าจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1450 จุด หุ้นขนาดใหญ่ในดัชนี SET50 คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้โดดเด่นเนื่องจากเป็นกลุ่มที่รองรับกับกระแสเงินลงทุนได้ดี
โดยช่วงหลังการทำประชามติอาจเป็นโอกาศดีในการเข้าซื้อจากความชัดเจนและการที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมาในระดับที่น่าสนใจ โดยประเมินแนวรับบริเวณ 1360-1390 จุด
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) MINT เราไปเยี่ยมชมโครงการ 5 โปรเจคต์ใหญ่ของบริษัทที่จังหวัดภูเก็ตอาทิเช่น โรงแรมและรีสอร์ท บริษัทยังคงเน้นกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม มีการกระจายตัวของสัดส่วนรายได้ค่อนข้างดีและบริหารงานแบบมีอาชีพ MINT ยังคงเป็นหุ้นที่เราชอบมากที่สุดจากประเด็นสำคัญคือคาดการณ์กำไรไตรมาส 2/16 และ ไตรมาส 3/16 เติบโตสูงที่สุดในกลุ่ม โดยเรามองหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นหนุนจากกำไรพิเศษจากกิจการทิโวลี
ผลกระทบเรื่อง: Brexit หากค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลง จำนวนนักท่องเที่ยวในยุโรปจะลดลงหรือไม่?
ความคิดเห็น: เราคาดว่าผลกระทบไม่เยอะ เนื่องจากนักท่องเที่ยวจากยุโรปส่วนใหญ่เป็นลูกค้าพรีเมี่ยม ขณะที่สัดส่วนรายได้ของนักท่องเที่ยวในยุโรปคิดเป็น 30% คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 42 บ.
(+) BJC เราแนะนำ ซื้อ ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 46.5 บาท (เดิม 45 บาท) เพราะแผนการขยาย BIGC ที่มากกว่าคาด บริษัทตั้งเป้าจะขยาย 10 hypermarkets และ Mini BigC 200 สาขา ในปี 2017 (เราคาดเพียง 100 สาขา) ซึ่งส่งผลให้ประมาณการกำไรของเราปรับขึ้น 2-5% ในปี 2017-19 นอกจากนี้เรามองว่าหลังจากการควบรวม BIGC แล้ว บริษัทเป็น ผู้ค้าปลีกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในอาเซียน และมีการกระจายรายได้ไปทั่วภูมิภาค CLMV และประมาณการกำไรของเรายังไม่รวมถึง synergies ระหว่าง BJC และ BIGC มูลค่าราว 1,700 ล้านบาท ที่จะเกิดขึ้นในระยะ 3 ปีข้างหน้า
(0) NWR เราขอแนะให้ปิดสถานะ กระชับพอร์ตก่อน อิงรายงานกลยุทธ์ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2016 เราแนะนำให้เล่นรอบเกาะกระแสไปกับกลุ่มรับเหมา ในเชิงกลยุทธ์ระยะสั้น โดยคาดผลประกอบการที่มีแนวโน้มฟื้นตัว และการได้รับชำระเงินคดีคลองด่านจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น อย่างไรก็ดีราคาหุ้นไม่ได้ปรับตัวขึ้นตามคาด เพราะคดีคลองด่านมีแนวโน้มล่าช้ากว่าคาด และราคาหุ้นมีแนวโน้มขยับตัวไปตามกลุ่มรับเหมา ดังนั้นด้วยแนวโน้มงานประมูลภาครัฐฯที่คาดจะออกมาในช่วง 2H16 เป็นจำนวนมาก เราแนะนำให้กลับไปเล่นรับเหมาตัวใหญ่ เช่น CK STEC แทน
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์/ปัจจัยทางเทคนิค
รายงานวันนี้
หุ้น: BJC คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 46.50
ขึ้นแท่นเบอร์ 3 ของค้าปลีกในอาเซียน
ปรับประมาณการกำไรขึ้นจากการเร่งขยายสาขาของ BIGC
ผลประโยชน์ส่วนเพิ่มจากการควบรวมกิจการจะเป็นอัพไซด์เพิ่มเติม
นักวิเคราะห์: ไชยธร ศรีเจริญ, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: MINT คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 42.00
เราพบว่ามันยอดมากหลังลงพื้นที่โรงแรมและโครงการเพื่อขาย ของ MINT ที่ภูเก็ต พบว่าสินทรัพย์หรูจริง ลูกค้าคุณภาพ และระบบบริหารเยี่ยม
เราคาดเป็นช่วงโลว์ซีซั่นที่ทำกำไรได้ดีที่สุด กำไรเติบโต 15% QoQ ในไตรมาส 2/59
กำไรไตรมาส 3/59 จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของ Tivoli
คาดกำไรครึ่งหลังของปี 2559 และปี 2560 สดใส พร้อมธุรกิจมีการกระจายความเสี่ยงดีมาก
เรายังคงคำแนะนำที่ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายคำนวณด้วยวิธีคิดส่วนลดของเงินสด (DCF) ณ สิ้นปี 2559 ที่ 42 บาท แต่ราคาเป้าหมายปี 2560 เท่ากับ 47 บาท
นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
Technical Analysis
Security: THAI
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 20
Stop loss: < 18
Reason: หุ้นยังคงปรับตัวได้ดีกว่าตลาดขณะที่โครงสร้างระยะอยู่บนแนวทิศทางขาขึ้น เรายังคงลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่โดยมีเป้าหมายที่ 20
Security: GL
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 36
Stop loss: < 31
Reason: หุ้นส่งสัญญาณดีดตัวขึ้นอีกครั้งภายหลังจากปรับฐานลดความร้อนแรงของเครื่องมื่อทางเทคนิคลง ปัจจุบันราคาดีดตัวขึ้นจากแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 30 บ.หนุนด้วยสัญญาณบวกจาก Stochastic
Security: SEAFCO
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 12
Stop loss: < 10.6
Reason: หุ้นปรับตัวขึ้นโดดเด่นเมื่อเทียบกับดัชนีตลาด ปิดสูงและลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่ สอดคล้องกับวอลุ่มและยังปรับตัวขึ้นได้เด่นเมื่อเทียบกับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
Security: PTTEP
Position: ขาย
Reason: สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ถึงความเสี่ยงเมื่อราคาปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 80 บ. กรณีหลุดอาจส่งผลให้โครงสร้าง ระยะกลางเปลี่ยนเป็นลงสอดคล้องกับค่า RSI ลดลง
Security: IVL
Position: ขาย
Reason: หุ้นมีแนวโน้มเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้น เนื่องจากราคาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลางและสัญญาณลบในเครื่องมือ MACD
Security: SCC
Position: ขาย
Reason: สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ถึงความเสี่ยงเมื่อราคาปรับตัวหลุดเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลาง 470 สอดคล้องกับค่า RSI ลดลง
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค