- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 16 June 2016 17:03
- Hits: 1406
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1434.89 จุด เพิ่มขึ้น 0.19% อย่างไรก็ตามเรายังคงกังวลเกี่ยวกับความผันผวนในตลาดประเทศพัฒนาแล้วที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากตลาดประเทศหลักๆ สหรัฐฯ เยอรมัน และญี่ปุ่น สัปดาห์นี้ต่างปรับตัวลงแรงจากความกังวลที่สหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยผลการสำรวจล่าสุดเสียงข้างมากเลือกที่จะออก การทำประชามติจะจัดขึ้นในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ นักลงทุนมองสถานการณ์ดังกล่าวว่า อาจปรับพอร์ตลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลงก่อนถึงวันทำประชามติตลาดหุ้นไทยก็อาจได้รับผลกระทบได้เช่นกัน ดังนั้นปัจจัยภายนอกในระยะนี้ดูเหมือนจะส่งผลต่อทิศทางของตลาดหุ้นไทยมากกว่า
สัญญาณทางเทคนิคของตลาดชีว่า ดัชนีดีดตัวขึ้นในช่วงสั้นๆราคาหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่รีบาวด์ขึ้นแต่ปริมาณการซื้อขายคาดลดลง สินทรัพย์เสี่ยงกำลังอยู่ภายใต้แรงกดดัน ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ S&P500 และยุโรปกำลังปรับตัวลงสวนทางกับราคาทองที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากการหวาดกลัวการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง
กลยุทธ์การลงทุน เราเลือกลงทุนเป็นหุ้นรายตัว และใช้สัญญาณทางเทคนิคเข้ามาช่วยจับจังหวะการซื้อขาย เราแนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นที่เกิดสัญญาณขายหรือการเปลี่ยนรูปแบบเป็นขาลง ปัจจุบันเราพบว่าเริ่มมีแรงขายจากสถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติ อาจส่งผลให้การปรับตัวขึ้นมีอัพไซด์จำกัด แนวโน้มตลาดสัปดาห์นี้ยังคงเหมาะกับกลยุทธ์การเทรด เมื่อใดก็ตามที่ตลาดหุ้นส่งสัญญาณพักตัวลดความร้อนแรงลง หุ้นขนาดเล็ก-กลางหรือหุ้นที่ยังไม่ได้ปรับตัวขึ้นมากนักจะปรับตัวได้ดีกว่าขณะที่ภาพรวม SET แกว่งตัวอยู่ในกรอบที่ให้ไว้ 1410-1440 จุด
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
DTAC (HOLD, TP/ Bt29)
(-) เราคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/59 กำไรสุทธิ 500 ล้านบาท ลดลง 64% YoY และ 60% QoQ แย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ กำไรที่ลดลงอย่างมากเนื่องจากการลดลงของรายได้บริการและการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายอย่างมาก ซึ่งได้แก่ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ค่าใช้จ่ายในการบริหารงานทั่วไป ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดรวมถึงภาวะการแข่งขัน 4 จีที่รุนแรงมากขึ้น เราจึงปรับประมาณการผลประกอบการปี 2559 ลง 16% และปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 29 บ.
(-) กลุ่มธนาคาร แบงค์ชาติเปิดตัว "พร้อมเพย์" ซึ่งช่วยลดค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน จากการประเมินเบื้องต้นกำไรของธนาคารทั้งระบบจะลดลงราว 11% ในปี 2017 คาด KTB, KBANK, BBL, TCAP, และ SCB จะโดนกระทบมากที่สุดราว 22%, 16%, 9%, 9% และ 8% ตามลำดับ และคาด BAY และ TMB จะกระทบ 9% และ 5% สำหรับ TISCO และ KKP จะได้รับผลกระทบน้อย ราว 1% เราแนะนำให้เลือกเล่นธนาคารที่ได้รับผลกระทบน้อยเช่น TMB และ KKP
(+) กลุ่มปิโตรเคมี เราเลือก PTTGC เป็น top pick ของกลุ่ม เพราะ 1) คาด high season ในครึ่งหลังของปี จะหนุนให้ส่วนต่างราคากว้างขึ้น 2) คาดราคาน้ำมันค่อยๆฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง ซึ่งราคาขายจะสามารถปรับตัวขึ้นได้เร็วกว่าต้นทุน 3) คาดว่ามาร์จิ้นของ aromatic และ PX มีแนวโน้มดีกว่าตลาดคาด เพราะการเลื่อนเปิดโรงงาน aromatic ขนาดใหญ่ในเอเซีย-แปซิฟิก 3 แห่ง ออกไป หนุนให้มาร์จิ้นเฉลี่ยดีขึ้น
News: หากที่สหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพยุโรป จะกระทบการนำเข้าสินค้าไก่ของไทยหรือไม่?
ความคิดเห็น: เราคาดว่าไม่กระทบเนื่องจากมีการทำสัญญาระยะยาว
(+) Quantitative Strategy (Seasonality) ตั้งแต่เราออกรายงานฉบับดังกล่าวในวันที่ 17/5/16 พอร์ตการลงทุนของเราให้ผลตอบแทน 3.6% ซึ่งสูงกว่าผลตอบแทนของดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) อยู่ 2.07% เราแนะนำให้นักลงทุนขายล็อคกำไรหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจนถึงปัจจุบันในระดับสูงกว่า 5% และขายหุ้นที่มีแนวโน้มให้สัญญาณหลอก (False Signal) จากหุ้นในลิสต์ของเรา ได้แก่ AP, BAT-3K, BLAND, BWG, EASTW, KCE, MACO, SMPC, และ TVO
(+) Quantitative Strategy (Earnings Plays) การโหวตออกจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit กำลังเป็นประเด็นที่ตลาดกังวลและสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามพอร์ตการลงทุนของเราซึ่งคัดเลือกหุ้นจากวิธีล่างขึ้นบน (Bottom-up) ยังคงสร้างผลตอบแทนได้ดี ตั้งแต่ วันที่ 2/5/16 พอร์ตจำลองของเราให้ผลตอบแทนราว 3.5% โอกาสในการชนะ (Odd of winning) ราว 75% แนะนำให้ถอด BEAUTY MALEE ROBINS และ TVO ออกจากมาก่อน
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์/ปัจจัยทางเทคนิค
รายงานวันนี้
หุ้น: DTAC คำแนะนำ: ถือ ราคาเป้าหมาย (บาท): 29.00
ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวของรายได้บริการในไตรมาส 2/59
เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/59 ที่ 500 ล้านบาทลดลง 64% YoY และ 60% QoQ
เราคาดแนวโน้มของการปรับลดเป้ารายได้บริการของบริษัทสำหรับปี 2559 ลงจากเดิม
เราปรับลดกำไรสุทธิปี 2559 ลงอีก 24 % และปรับลดราคเป้าหมายลงอีก 8% เหลือ 29 บาท
ยังคงคำแนะนำ ถือ เนื่องจากกำไรสุทธิที่คาดว่ายังคงอ่อนแอในช่วงครึ่งหลังปี 2559 และภาพอุตสาหกรรมที่ยังแข่งขันรุนแรง
นักวิเคราะห์: ประสิทธิ์ สุจิรวรกุล, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
กลุ่ม: ปิโตรเคมี คำแนะนำ: NEUTRAL ราคาเป้าหมาย (บาท): -
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มปิโตรเคมีในไตรมาส 3/59 เนื่องจากราคาและส่วนต่างราคาปิโตรเคมีมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
คาดส่วนต่างโอเลฟินล์ปรับตัวเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/59
ส่วนต่างราคาอะโรเมติกส์มีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่องในครึ่งหลังของปี 2559
PTTGC เป็นหุ้นที่เราชอบมากที่สุดในกลุ่ม
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
Technical Analysis
Security: THAI
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 20
Stop loss: < 18
Reason: หุ้นส่งสัญญาณดีดตัวขึ้นอีกครั้งภายหลังจากการดีดขึ้นจากแนวรับ และโครงสร้างระยะอยู่บนแนวทิศทางขาขึ้น ลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่หนุนด้วยปริมาณหุ้นสะสม OBV เพิ่มขึ้น
Security: TASCO
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 31
Stop loss: < 26.5
Reason: สร้างรูปแบบธงขนาดเล็ก Flag บ่งชี้ถึงการพักตัวและมีโอกาสปรับตัวขึ้นจากค่า RSI และวอลุ่มที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
Security: TWZ
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 0.4
Stop loss: < 0.3
Reason: หุ้นส่งสัญญาณดีดตัวขึ้นอีกครั้งภายหลังจากทะลุแนวต้าน 0.31 ขณะที่โครงสร้างระยะกลางมีแนวโน้มเปลี่ยนเป็นทิศทางขาขึ้น หนุนด้วยสัญญาณบวกจาก MACD
Security: SCC
Position: ขาย
Reason: สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ถึงความเสี่ยงเมื่อราคาปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 470 บ. กรณีหลุดอาจส่งผลให้โครงสร้างระยะกลางเปลี่ยนเป็นลงสอดคล้องกับ MACD ตัดเส้น signal line ลง
Security: EPG
Position: ขาย
Reason: แนวโน้มหลักราคายังเคลื่อนที่บนทิศทางขาลง แต่เริ่มมีสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงเมื่อราคาไม่ผ่านแนวต้าน 14 และกำลังปรับตัวลง ขณะที่ค่า MACD ส่งสัญญาณลบ
Security: PLAT
Position: ขาย
Reason: โมเมนตัมการขึ้นเริ่มชัลอตัวปัจจุบันพบว่าหุ้นถูกขายทำกำไร ปิดต่ำและ MACD เริ่มปรับลง กรณีหลุดเส้นค่าเฉลี่ยที่ราคา 6.5 อาจส่งผลให้หุ้นปรับตัวลงแรง
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค