- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 14 June 2016 17:51
- Hits: 1405
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
หาหุ้นจิ๋วแต่แจ๋วเล่นระหว่างรอดัชนีฯปรับฐาน
วันนี้คาดดัชนีฯ ลงต่อตามภูมิภาค แนวรับ 1,415/1,410 จุด แนวต้าน 1,428 จุด
สัปดาห์นี้ คาดปรับฐานลงทดสอบ แนวรับบริเวณ 1,415-1,400 จุด กลยุทธ์ แนะกระชับพอร์ต(หุ้นใหญ่) เพื่อรอประเมินการปรับฐานของดัชนีฯ ทั้งนี้พัฒนาการจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตลาดโลก ได้แก่ โพลการลงประชามติอังกฤษ ว่าจะอยู่ หรือ ออกจากการเป็นสมาชิกยูโร, สุนทรพจน์ ของเจ้าหน้าที่ ECB ตลอดสัปดาห์นี้ (พฤ-ศุกร์) ซึ่งตลาดหวังจะได้เห็น ท่าทีต่อมาตรการรองรับกรณี อังกฤษออกจากยูโรโซน, ถ้อยแถลงประธานเฟดในการประชุมเฟดวันพุธ ตลาดคาดคงดอกเบี้ย เพื่อรอประเมินสถานการณ์ยุโรป
รายเดือน (มิย.) แนวรับ 1,400 จุด คาดขึ้นก่อนในช่วงครึ่งแรกของเดือน และครึ่งหลังเดือนคาด ปรับฐาน แนะนำ เลือกเก็งกำไรรายตัว หุ้นกลาง-เล็ก ที่มีประเด็นบวกหนุน
หุ้นแนะนำวันนี้ CHG กระแสข่าวประกันสังคมจะจ่าย DRG เพิ่มเป็น 11,500 บาท +Earing upward revision / AAV วันนี้ลงแรง แนะนำ ซื้อสวนตลาดเล่นรีบาวด์ คาดความเสี่ยงด้านล่างของราคาหุ้นอิง PBV ที่ -1SD อยู่ที่ 5-5.10 บาท ส่วนแนวรับทางเทคนิค MA200 วัน อยู่ที่ 5.35 บ. / สะสมกลุ่ม Renewable energy (SUPER IFEC TSE BWG) เราจะเข้าพบ ผู้บริหาร กกพ. ในสุดสัปดาห์นี้ เพื่ออัพเดท แผนการออกใบ PPA โรงไฟฟ้า Renewable energy รอบใหม่
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+/-) PTTGC คาดผลกระทบจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน PTTPE ตั้งแต่วันที่ 17/5/16 จะค่อนข้างจำกัด โดยเราประเมินผลกระทบต่อคาดการณ์กำไรหลักของเราจะมีเพียง 3% เท่านั้น ในขณะที่ โรงงาน PTTPE จะกลับมาเปิดใช้งานได้ในช่วงกลางเดือนนี้ คาดหนุนให้กำไร 2H16 โดดเด่นกว่า 1H16 ในขณะที่เราคาดว่ามาร์จิ้นของ aromatic และ PX มีแนวโน้มดีกว่าตลาดคาด เพราะการเลื่อนเปิดโรงงาน aromatic ขนาดใหญ่ในเอเซีย-แปซิฟิก 3 แห่ง ออกไป หนุนให้มาร์จิ้นเฉลี่ยดีขึ้น พื้นฐานคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 70 บาท
(+) กลุ่มค้าปลีก เราคงน้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาด” โดยมองว่าจังหวะที่ราคาหุ้นปรับฐานเป็นโอกาสในการสะสมซื้อรอบใหม่ คาดปัจจัยหนุนใน 2H16 จะมาจาก กำลังซื้อที่มากขึ้นเพราะ 1) รายได้เกษตรกร (farm income) ที่สูงขึ้นจากราคาพืชผลเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ 2) การกระจายรายได้ผ่านการลงทุนภาครัฐ 3) ฤดูเก็บเกี่ยวในช่วง ปลายไตรมาส 3 และหนุนด้วย high season ของการท่องเที่ยวในไตรมาส 4 // เราเลือก BEAUTY, CPN, HMPRO และ ROBINS เป็น top buy และเราปรับคำแนะนำ CPALL ขึ้นเป็น ซื้อ เช่นกัน ปัจจุบันหุ้นกลุ่มนี้เทรดบน PE ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ซึ่งต่ำกว่า SET ที่เทรดสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต
(-) TISCO เราคงคำแนะนำ ขาย เพราะเรามองว่ามี downside risk จากสินเชื่อที่เติบโตน้อยกว่าคาดจากยอดขายรถยนต์ใหม่ที่น้อยลงและรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง ธนาคารรายงานตัวเลขสินเชื่อเดือน พ.ค. ลดลง 0.5% MoM และลดลง 4.0% นับแต่ตันปี ในกลุ่มธนาคารที่อิงสินเชื่อเช่าซือ เราแนะนำ KKP เพราะ PBV 0.8x จ่ายปันผล 7.3% เทียบกับ TISCO ที่ PBV 1.1x และปันผลเพียง 5.7%
(-) AAV กลุ่มแบเลเว็ลด์ ขายหุ้น AAV ยกล็อต 39% 1,891.58 ล้านหุ้น เฉลี่ยราคาหุ้นละ 4.20 บาท ให้กับนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของคิงเพาเวอร์ เรามองข่าวนี้เป็นลบต่อราคาหุ้นในระยะสั้น เรายังคงมองพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง และหากราคาหุ้นปรับตัวลงมายังคงมองเป็นโอกาสในการซื้อ
หุ้นมีประเด็น
(**) AAV ขาย Big lot 1.89 พันล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 4.20 บ. / ความเห็น เราคาดว่าราคาขายที่ให้ส่วนลดสูงถึง 30% จากราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน จะกดดันราคาหุ้น AAV ระยะสั้น แนะนำ ลงแรงให้ซื้อสวน แนวรับ 5.35 บาท ส่วนปัจจัยพื้นฐาน คาดกรณีที่ลงทดสอบ -1SD ของ PBV คาดความเสี่ยงด้านล่างอยู่แถว 5-5.10 บาท (ที่มา ตลท. และความเห็น BLS Research)
(+) CHG ข่าวประกันสังคมกลับมาจ่าย DRG (ระบบวินิจฉัยกลุ่มโรคร่วม เพื่อใช้กำหนดค่ารักษาล่วงหน้า ในระบบประกันสุขภาพ) ในอัตรา 11,500 บาท จาก เดิม 10,000 บาท คาดข่าวนี้จะหนุนให้แนวโน้มกำไร ดีขึ้นมากกว่าเราคาด และเรามีโอกาสจะปรับประมาณการกำไรขึ้นจากข่าวดังกล่าว ทั้งนี้ สัดส่วนคนไข้ในระบบประกันสังคมต่อรายได้รวม CHG อยู่ที่ 38% BCH 34% และ VIBHA 23% (ที่มาความเห็น BLS research)
(+) KTC รองผู้ว่า ธปท.แถลงข่าวการลงทะเบียนระบบ Any ID (คาด ระบบ Any ID จะหนุนยอดการใช้บัตร เครดิต และ เดบิต รวมถึง การโอนเงินผ่านระบบออนไลน์เพิ่มขึ้น เพื่อลดต้นทุนในการกำกับดูแล เงินสด ในระบบปีละ 7.3 หมื่นล้านบาท (ธนบัตร และ เหรียญ) และเพื่อให้การชำระเงินสอดคล้องกับ นโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล (ที่มา ธปท.)
(+) BANPU-W3 เข้าเทรดวันพรุ่งนี้ 15 มิย.(ที่มา ตลท.)
(+) BEM กรรมการมาตรา 35 เคาะแล้ว ให้เจรจาตรงกับ BEM เดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ชงบอร์ด รฟม.15 มิย.นี้ (ที่มา ไทยโพสต์)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) ข่าวหนุนหุ้นไทย ประชุม ครม.วันนี้ จะตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายระดับชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน บริหารจัดการน้ำ แก้ กม. ฯลฯ (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)
(0) อังคาร US Retail sale พค. คาด +0.3% จาก +1.3% m-m, US Import prices พค. คาด +0.8% จาก 0.3% m-m, EU area Industrial production เมย. คาด +0.5% จาก -0.8% m-m. (ที่มา Bloomberg)
(*) วันพุธ ประชุมธนาคารกลาง สหรัฐฯ คาดคงดอกเบี้ย กรอบ 0.25-0.5%, US Industrial production พค. คาด -0.2% จาก +0.7% m-m, เงินเฟ้อฝรั่งเศส, อินโดนีเซียรายงานดุลการค้า พค. คาด เกินดุล US$bn0.7, เงินเฟ้อ มาเลเซีย คาด +2% จาก +2.1% y-y, ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น พุธ-พฤ (ที่มา Bloomberg)
(*) วันพฤหัส US Consumer price (May) คาด +0.3% จาก +0.4% m-m, US Coure CPI พค. คาด +0.2% คงที่, EU group meeting, ECB's Nowotny speaks at EU Commission Panel in Vienna, เงินเฟ้อ EU HICP Inflation คาดคงที่ -0.1%, ประชุมธนาคารกลางอังกฤษ, ประชุมธนาคารกลางอินโดนีเซีย คาดคงดอกเบี้ย 6.75%
(*) ศุกร์ US Housing Starts (May) +1160k from 1172k, ประชุม รมว.คลังยุโรป, ECB' Coeure speaks in Berlin ECB' Draghi speaks in Munich
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel.(662)618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค