- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 14 June 2016 17:22
- Hits: 604
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
ตลาดกาลังซึมซับผลประชามติของอังกฤษ (Brexit)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบ กังวลในผลประชามติของอังกฤษในการประเด็นการถอนตัวออกจาก EU ในวันที่ 23 มิ.ย. ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.74%, -0.94%, -0.81%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ กังวลในผลประชามติของอังกฤษในการประเด็นการถอนตัวออกจาก EU ในวันที่ 23 มิ.ย. ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -1.80%, -1.16%, -1.85%, -2.91%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 0.19 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 0.19 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.35 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานการเพิ่มขึ้นของแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาค หลัก ๆ มีแรงขายในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ พลังงาน แต่มีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มสื่อสาร ทั้งนี้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ที่ปรับตัวลดลง เป็นผลมาจากความกังวลในผลสำรวจล่าสุดที่ประชาชนชาวอังกฤษจะโหวตให้อังกฤษถอนตัวออกจาก EU ซึ่งก่อนหน้านี้คะแนนโหวตค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกันระหว่างโหวตให้อังกฤษอยู่เป็นสมาชิกของ EU ต่อไป เทียบกับคะแนนโหวตให้อังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกของ EU มีคำเตือนจากสหรัฐฯ เยอรมนี รวมถึงนายกฯ อังกฤษไปยังประชาชนขาวอังกฤษให้ตระหนักถึงผลกระทบที่อังกฤษจะได้รับ ถ้ามีการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิก EU ในอนาคต ซึ่งผลกระทบจะมีตั้งแต่การอ่อนค่าของค่าเงินปอนด์ ค่าเงินยูโร อัตราเงินเฟ้อในอังกฤษที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ เงินเยน ตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ และทองคำจะเป็นที่หลบภัยของนักลงทุนในระยะสั้น ผลกระทบต่อตลาดเงินนี้ ทำให้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลงเนื่องมาจากนักลงทุนต้องการปิดความเสี่ยงในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหลายในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก และเริ่มมีกระแสความกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดของนโยบายของธนาคารกลางต่าง ๆ ที่เริ่มมีเครื่องมือในการจัดการกับความผันผวนน้อยลง นอกจากนี้ตลาดยังรอดูผลการประชุมของเฟดในสัปดาห์นี้ เนื่องจากต้องการรอดูการเปิดเผยตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจ และแถลงการณ์หลังการประชุมของประธานเฟดเกี่ยวกับมุมมองของการปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต รวมทั้งแผนภาพ Dot plot ชุดใหม่ ซึ่งมีแนวโน้มที่เฟดน่าจะมีการปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ลง ซึ่งก่อนหน้านี้ธนาคารโลกได้ปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ
ในปีนี้ลงจากระดับ 2.7% สู่ระดับ 1.9% จากความเสี่ยงในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่วนแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ คงต้องรอฟังอีกครั้งว่าเฟดจะยังยืนยันการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้อีกหรือไม่ ด้านบลูมเบิร์กเปิดเผย ผลสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ คาดว่าเงินปอนด์จะต่ำกว่าระดับ 1.35 ดอลลาร์/ปอนด์ต่ำสุดตั้งแต่ปี 1985 (ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.42 ดอลลาร์/ปอนด์) หากอังกฤษตัดสินใจออกจาก EU แต่ถ้าอังกฤษตัดสินใจอยู่ใน EU ต่อ คาดว่าค่าเงินปอนด์จะกลับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1.50 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนผลกระทบต่อไทยในช่วงนี้จะผ่านทางตลาดหุ้นมากกว่าตลาดเงิน เนื่องจากทิศทางของดอลลาร์ยังไม่ชัดเจนจนกว่าจะผ่านการประชุมเฟดสัปดาห์นี้ และผ่านช่วงประชามติวันที่ 23 มิ.ย. ไป ส่วนผลกระทบด้านการค้าจะมีไม่มากเนื่องจากสัดส่วนการส่งออกไปอียู ณ ปัจจุบันมีประมาณ 10% ยังเป็นรองอาเซียน จีน และญี่ปุ่นอยู่พอสมควร ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะผันผวนในขาลง แต่ระดับความผันผวนน่าจะเบาลง
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ไม่ต่ำกว่าแถว ๆ 1,408 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไรได้
Saravut Tachochavalit, Analyst TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754 EMAIL : [email protected]
