- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 13 June 2016 17:23
- Hits: 1005
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'สัปดาห์นี้จับตาผลประชุมเฟด & บีโอเจ'
Stock Picks-Jun 2016 : Fundamental : CPALL, CPN, IVL, JASIF, LPH
Dark Horse : GLOBAL
Fundamental Pick -Today: JASIF
(ดู Theme ลงทุนด้านใน)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, TMT, JASIF, DIF, CPNRF, SC, QH, SIRI, BCP
Shot Sell-Prev : PTTEP 24%, TICON 14%, PTT 12%, KBANK 11%, ROBINS 11%, BBL 10%
Technical View ภาพตลาดเป็นลบเล็กๆ การซื้อใหม่/ถือต่อเน้นเป็นค่าบวก
Support Resistance Stop Loss
SET 1380,1360-50 1440-1450 ค่าลบ
SET50 880,860 920-930 ค่าลบ
Technical Picks - Today PACE, THANI, SPALI, PLAT, BJC, CBG, BCH, ROBINS
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : สัปดาห์นี้ติดตามผลการประชุมเฟด 14-15 มิ.ย.และผลประชุมบีโอเจ 15-16 มิ.ย. ซึ่งคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 0.5% และ -0.1% ตามลำดับไว้ก่อน แล้วค่อยพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศ & ภาวะเศรษฐกิจโลกเพื่อตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมปลายเดือนก.ค.59
ทั้งนี้ กระแสคาดการณ์เรื่องดอกเบี้ยสหรัฐและการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศขนาดใหญ่ทำให้ตลาดหุ้นจะผันผวนต่อเนื่องในปีนี้ และในประเด็นเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐ ควรระวังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรมิ.ย.ที่จะพุ่งขึ้น (จะรายงานศุกร์สัปดาห์แรกของเดือนก.ค.) ซึ่งทำให้กระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกลับมาอีกรอบ
นอกจากนั้นเหตุการณ์ก่อการร้ายที่มีถี่ขึ้นก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจเข้ามาเพิ่มแรงกดดันด้วย (ล่าสุดมีเหตุกราดยิงไนท์คลับในสหรัฐ มีผู้เสียชีวิตมากถึง 50 คน ปธน.โอบามาระบุว่าเป็นเหตุก่อการร้าย)รวมทั้งในระยะสั้นมากควรระวังการพักฐานของราคาน้ำมันดิบและหุ้นกลุ่มพลังงาน ปัจจัยติดตามคือ การกลับมาผลิตน้ำมันดิบของไนจีเรีย ซึ่งสัปดาห์ก่อนการผลิตลดลง 1.7 แสนบาร์เรล/วันเนื่องจากถูกโจมตีท่อส่งน้ำมัน และการอาจมีการปรับพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงก่อนการประชุมเฟด ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าถ้อยแถลงจะออกมาอย่างไร กลยุทธ์ : เลือกซื้อเก็งกำไร หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น JASIF
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นลบเล็กๆ แนวต้านระยะสั้น 1440-1450 จุด แนวตัดขาดทุน คือ ค่าลบ แนวรับให้ไว้ที่ 1380, 1360-1350 จุด กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไร/ถือต่อเน้นเป็นค่าบวก และการเก็งกำไรไม่ควรหวัง Gap มาก หากอ่อนตัวให้รอซื้อที่แนวรับ
การ SCAN หุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคดีและมีโอกาสปรับขึ้น พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ PLAT, BJC ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ RATCH, CENTEL, EASTW, RML, AP, TKS, RS, BCH, FSMART, KBS, GLOBAL หุ้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ PACE หุ้นที่หลุด List เป็น VNG
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- สหรัฐ : เหตุกราดยิงไนท์คลับในออร์แลนโด มีผู้เสียชีวิต 50 คน
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ระบุว่าเหตุกราดยิงไนท์คลับที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 50 คนเป็นการกระทำของผู้ก่อการร้ายและเป็นการกระทำที่แสดงถึงความเกลียดชัง และเป็นเหตุก่อการร้ายที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ 9/11
- สหรัฐ : ความเชื่อมั่นผู้บริโภคมิ.ย.ลดลง & ขาดดุลงบประมาณ 8M59 เพิ่มขึ้น
ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 94.3 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 94.7 ในเดือนพ.ค.
สหรัฐขาดดุลงบประมาณ 5.25 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ส่วนในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณปัจจุบัน สหรัฐมีการขาดดุลงบประมาณ 4.071 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11%YoY
+ สหรัฐ : เฟดประชุม 14-15 มิ.ย.นี้
คณะกรรมการ FOMC จะประชุมกัน 14-15 มิ.ย.นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่เดิม 0.50% จับตาถ้อยแถลงหลังประชุมเพื่อ ที่จะจับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในระยะต่อไป ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแล้ว ทาง DBS Group Research ประเมินว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ค่อนข้างแน่นอน และมีโอกาสที่จะปรับขึ้น 3 ครั้งมากขึ้น
+ ญี่ปุ่น : BOJ ประชุม 15-16 มิ.ย.59
ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะมีการประชุมวันที่ 15-16 มิ.ย.นี้ ผลสำรวจรอยเตอร์ระบุว่าคณะกรรมการจะคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินไว้ที่เดิมก่อน (อัตราดอกเบี้ยติดลบที่ -0.1% เพิ่มฐานเงิน 80 ล้านล้านเยนต่อปี) แต่มีโอกาสที่จะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 28-29 ก.ค.59 เพื่อให้เงินเยนไม่แข็งค่ามากเกินไป และหนุนการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้เงินเยนแข็งค่าขึ้นราว 11%YTD เมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ
+ อังกฤษ : ติดตามผลการลงประชามติ 23 มิ.ย.นี้ว่าจะถอนตัวจาก EU หรือไม่
ชาวอังกฤษจะลงประชามติเกี่ยวกับการถอนตัว/ไม่ถอนตัวจาก EU ในวันที่ 23 มิ.ย. นี้ แต่หลายประเทศรวมถึงเยอรมนีออกมาหนุนให้อยู่ใน EU ต่อ เช่นเดียวกับนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเตือนว่า ถ้าอังกฤษถอนตัวออกจาก EU จะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนสูงอยู่ที่ราว 4,300 ปอนด์ (6,200 ดอลลาร์) และปัญหาการอพยพเข้าเมืองของคนต่างถิ่นซึ่งเป็นปัญหาใหญ่จะไม่สามารถแก้ไขได้
- จีน : FDI เดือนพ.ค.ลดลง 1%YoY
กระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนเดือนพ.ค.59 อยู่ที่ 5.677 หมื่นล้านหยวน (8.89 พันล้านดอลลาร์) ลดลง 1%YoY ส่วน FDI เดือนม.ค.-พ.ค.59 (5M59) อยู่ที่ 3.4355 แสนล้านหยวน (5.419 หมื่นล้านดอลลาร์) +3.8%YoY นับว่าการลงทุนโดยตรงในช่วง YTD ปีนี้ยังซบเซา
- ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง เพราะกังวลราคาน้ำมันอ่อน
ดัชนี DJIA ปิดที่ 17,865.34 จุด (-119.85 จุด หรือ -0.67%) ดัชนี NASDAQ ปิด -64.07 จุด หรือ -1.29% ดัชนี S&P500 ปิด - 19.41 จุด หรือ -0.92% ปัจจัยกดดัน คือ วิตกราคาน้ำมันดิบร่วงลงต่ำกว่า 50 ดอลลาร์/บาร์เรล รวมถึงมีความไม่แน่นอนว่าอังกฤษจะถอนตัวจากสหภาพยุโรปหรือไม่ (จะลงประชามติกัน 23 มิ.ย.นี้)
- ราคาน้ำมันดิบอ่อนลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 1.49 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 49.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนส.ค.ดิ่งลง 1.41 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 50.54 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากกังวลอุปทานที่จะเพิ่มขึ้นหลังราคาน้ำมันดิบสูงขึ้น โดยเบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้น 3 แท่นเป็น 328 แท่นในสัปดาห์ก่อน
+ ราคาทองคำพุ่งขึ้นก่อนการประชุมเฟด
วันศุกร์สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 10.40 ดอลลาร์ หรือ +0.82% ปิดที่ระดับ 1,272.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
CPALL (ราคาปิด 48.25 บาท, ราคาพื้นฐาน 60 บาท) : อีกบริษัที่ได้ประโยชน์จากบอลยูโร
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปครั้งที่ 15 หรือบอลยูโร 2016 ได้เริ่มแล้ว โดยจะมีในช่วงวันที่ 10 มิ.ย.-10 ก.ค.59 ซึ่งคาดว่าจะแฟนบอลจำนวนมากจะติดตามดูกันอย่างใกล้ชิดในช่วงนี้ เม็ดเงินจะสะพัดมากขึ้นทั้งในกลุ่มสื่อ, โฆษณา, อาหาร, ไฟฟ้าที่ต้องใช้มากขึ้น ฯลฯ และ CPALL เป็นหนึ่งในบริษัทที่เราคาดว่าจะได้อานิสงค์ทางบวกจากการที่เป็นร้านสะดวกซื้อที่มีทั้งสินค้าอุปโภค บริโภคและอาหารพร้อมรับประทานซึ่งเปิดให้บริการ 24 ชม. เราคาดว่ายอดขายต่อสาขาในช่วง 30 วันที่มีบอลยูโร 2016 จะเพิ่มขึ้นดี สำหรับ 1Q59 ยอดขายสาขาเดิมเติบโตได้ 2.6%YoY และเปิดสาขาใหม่ตามแผนที่ 211 สาขา ทำให้ยอดขายไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 10%YoY อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์สูงที่ 21.6% เราคาดว่าบริษัทยังคงมีการเติบโตได้ต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยมาจากการเปิดสาขาใหม่ปีละ 700-800 แห่ง/ปี การปรับ Product Mixed การทำสินค้า House Brand เพิ่มขึ้น และการปรับผลิตภัณฑ์ในสาขาต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัด บริษัทมี Economy of Scale สูงเนื่องจากมีจำนวนสาขาจำนวนมากและกระจายไปทั่วประเทศ เราแนะนำซื้อ โดยเฉพาะจังหวะราคาหุ้นอ่อนตัว ให้ราคาพื้นฐาน 60 บาท
+ JASIF (ราคาปิด 10 บาท, ราคาพื้นฐาน 11 บาท) :
TTB ผู้เช่าโครงข่ายหลักของกองทุนฯไม่ได้ถูกลงโทษหลัง JAS ไม่จ่ายค่าใบอนุญาต 4G ที่ชนะประมูล และกองทุนมีอายุสิทธิการเช่าเหลืออีก 11 ปี แต่มีโอกาสที่ TTB จะต่อสัญญาเช่าอีก กองทุนมีรายได้แน่นอน ฐานะการเงินดีมาก (ไม่มีหนี้) และจ่ายปันผลสูง โดยให้ Dividend Yield ปี 59-60 ราว 9-10% ต่อปี (จ่ายทุกไตรมาส)
MINT (ราคาพื้นฐาน 42 บาท) : ผู้ถือหุ้นใหญ่ปรับโครงสร้างถือหุ้นภายใน ไม่กระทบปัจจัยพื้นฐานบริษัท
นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการบริษัท หุ้นบริษัท MINT ได้ขายหุ้น MINT ออก 14% ให้กับ ZALL HOLDINGS LIMITED แต่เป็นการปรับโครงสร้างการถือหุ้นภายในของกลุ่มนายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค และสัดส่วนการถือหุ้นรวมของกลุ่มยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จึงไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจควบคุมบริษัท และไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างการบริหารจัดการ ตลอดจนนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด
JMT (Not Rated) : รับโอนสิทธิเรียกร้องใน NPL จาก KBANK มูลค่าหนี้ 4.9 พันล้านบาท
JMT ได้ลงนามในสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้ด้อยคุณภาพ ของสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลกับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK โดยสัญญามีมูลค่าหนี้คงค้างตามสิทธิ์ เท่ากับ 4,897 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]