- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 09 June 2016 16:18
- Hits: 562
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET บวกยังเน้นถือรอขายสูง แต่ถ้าซื้อเพิ่มน่ารอช่วงแกว่งย้อนอ่อนตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัวด้านลบเกือบทั้งวัน หลังจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อกลับในช่วงชั่วโมงสุดท้าย โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดว่าเนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มขยับบวกต่อเนื่องอีกครั้งในภาคบ่ายวานนี้
แนวโน้มวันนี้ : คาดว่า SET ยังมีลุ้นบวกต่อได้ หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสามารถขยับบวกถึงเกือบ 2% จากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ร่วงลงมากกว่า 3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ค่าเงินบาทก็ยังคงแข็งค่าขึ้นจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนแอลง เนื่องจากนักลงทุนปรับลดคาดการณ์เกี่ยวกับการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมกลางเดือนนี้ (14-15 มิ.ย.) อย่างไรก็ตาม FSS ยังแนะนำให้ระวังแรงขายทำกำไรช่วงบวกกดดันตลาดให้ผันผวนและปรับพักตัวลงได้อยู่ จากการขยับขึ้นมาค่อนข้างแรงและเร็วเกินไปในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับการบวกขึ้นของตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ก็ไม่ได้กว้างมากนัก และบางแห่งยังมีจังหวะปรับลดลงให้เห็นด้วย
กลยุทธ์ : หลังจาก FSS แนะนำให้ทยอยซื้อช่วง SET ลบแล้ว จากนี้ไปให้เน้นถือเพื่อรอรอบบวกใหญ่ โดยมีเป้าหมาย 1500 จุดหรือใกล้เคียง อย่างไรก็ตามถ้าจะเลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อเพิ่มอีก ยังน่ารอช่วง SET อ่อนตัวลงเช่นเดิม
แนวรับ 1443-1440, 1436-1430 จุด
แนวต้าน 1446-1450 , 1455-1462 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : RS, GTB, SPALI(short)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่น US$747ล้าน ส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวันและเกาหลีใต้ US$395ล้าน และ US$269ล้าน ตามลำดับ ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$37.5ล้าน แต่ไหลออกจากอินโดนีเซียประเทศเดียว US$4.1ล้าน แนวโน้มเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค และค่าเงินดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงต่อจากการคาดการณ์ Fed ยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้และเดือนหน้า ขณะที่กลุ่มพลังงานน่าจะหนุนตลาดให้ปรับขึ้นต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) World Bank ปรับ GDP ไทยขึ้นเป็น +2.5% ขณะที่ปรับ GDP โลกลงเหลือ +2.4% จาก +2.9% ที่ประมาณการต้นปี ส่วนใหญ่ปรับลดประเทศในกลุ่มละตินอเมริกาและประเทศที่พึ่งน้ำมันและ Commodity มากเช่นรัสเซีย อาร์เจนตินา บราซิล แต่ไม่น่า surprise ตลาดเพราะเป็นทิศทางเดียวกับ IMF และ OECD ที่ปรับลงเมื่อ 2 เดือนก่อน
(+) น้ำมันปรับขึ้นต่อ 2% หลัง EIA ระบุสต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐลด 3.2 ล้านบาร์เรล และจีนนำเข้าน้ำมันดิบสูงสุดในรอบ 6 ปีในเดือนพ.ค. ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าจากคาดการณ์ว่าเฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในระยะนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันขยับขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานให้ปรับขึ้นต่อ (PTT, PTTEP, PTTGC)
(0) ธนาคารกลางเกาหลี surprise ตลาดโดยลดดอกเบี้ยเหลือ 1.25% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์จาก 1.5% หวังช่วยธุรกิจ Shipping ที่ถูกกระทบจากราคาน้ำมันตกต่ำปรับโครงสร้างหนี้ และทำให้ค่าเงินวอนอ่อนลงเพื่อกระตุ้นส่งออก แต่เชื่อว่าไม่มีผลต่อทิศทางดอกเบี้ยของกนง.ที่น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไปจนตลอดปีนี้
(+) “สมคิดแฟคเตอร์” เดินหน้าเร่งลงทุน รองนายกฯ สมคิด กล่าวในงานปาฐกถา ‘แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2559’ วานนี้ ย้ำเร่งลงทุน วางโครงการ 5 ปี 5.5 ล้านล้านบาท แต่เบิกจ่ายปีนี้ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะช่วยดัน GDP ได้ 0.4-0.6% ประเดิมเปิดประมูลรถไฟ 3 เส้นทางเดือน มิ.ย.นี้ ได้แก่สายสีชมพู สีเหลือง และสีส้มตะวันออก หากทำได้ตามเป้า กลุ่มรับเหมาซึ่ง underperform ตลาดมากที่สุดโดย -4.4% YTD เทียบ SET +12% YTD จะน่าสนใจมากขึ้น เรายังคงชอบ CK, BEM, SCC
(+) ภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลกระทบ TACC น้อยสุด ก.คลังจะสรุปว่าจะเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงหรือไม่สิ้น มิ.ย. นี้ จากที่ไม่มีการเก็บภาษีมาก่อน โดยอาจจัดเก็บอัตรา 20% ของราคาขายปลีก (ถ้าปริมาณน้ำตาลมากกว่า 6-10 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร) และ 25% (ถ้ามากกว่า 10 กรัม) บริษัทที่อาจกระทบมี ICHI, OISHI, CBG, TIPCO, MALEE ส่วน SAPPE กระทบเพียง 8% ของรายได้ ส่วน TACC กระทบน้อยสุดเพราะเครื่องดื่มหลักอยู่ในรูปผง มีเพียงชาผลไม้ Zenya บรรจุขวดที่มียอดขายในประเทศไม่ถึง 1% เรายังแนะนำเก็งกำไรแม้จะใกล้ราคาพื้นฐานที่ 6 บาทเพราะแนวโน้มกำไร 2Q16 ดีเพราะ High season และได้เป็น Supplier ทั้ง 4 โถกดเครื่องดิ่มตลอดทั้งไตรมาส
(-) BR ภาวะ Oversupply ของเป็ดในยุโรปที่ยังไม่ดีขึ้นกระทบ BR ค่อนข้างมากเพราะมีฐานการผลิตเป็ดในเนเธอร์แลนด์ซึ่งทำรายได้ 30% ของกลุ่ม และไม่สามารถลดกำลังการเลี้ยงที่ 5 ล้านตัว/ปี เพราะเป็น Contract Farming 100% แผนลงทุนฟาร์มเป็ดที่จีนถูกเลื่อนไปไม่มีกำหนด แผนลงทุนที่อินโดนีเซียอยู่ระหว่างเซ็นสัญญาร่วมทุนกับ Local partner หากแล้วเสร็จปีนี้ จะรับรู้รายได้อย่างเร็วในปี 2018 แนวโน้มกำไรทั้งปีน่าจะลดลงไม่ต่ำกว่า 22% เพราะ 1Q16 ทำได้เพียง 94 ล้านบาท หากอิง PE 12-14 เท่า จะได้ราคาเป้าหมาย 5.60 - 6.50 บาท Downside ที่มีมากกว่าทำให้เราแนะนำหลีกเลี่ยง
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้และยืนเหนือระดับ 18,000 จุดเป็นครั้งแรงตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนส่วนใหญ่ปิดในแดนลบแม้ราคาน้ำมันดิบจะปรับขึ้น แต่ตลาดยังกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกหลัง World Bank ปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้ลง
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสม ส่วนตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง ไต้หวันปิดทำการเนื่องในเทศกาลเรือมังกร
(+) ค่าเงินบาทยังแข็งค่าขึ้นต่ออีกเล็กน้อย ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.00-35.12 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 0.87 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 51.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็กระดับสูงสุดของปีนี้หลัง EIA เปิดเผยตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบร่วงลง ขณะที่ฝั่งอุปทานยังถูกกดดันจากฝั่งไนจีเรีย
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. พุ่งขึ้น 15.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,262.30 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่า โดยตลาดคาดว่า FED จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
9 มิ.ย. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ค.)
- จีน: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BoK) ประชุม
- สหรัฐ: ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
10 มิ.ย. - ตลาดหุ้นจีน ไต้หวัน ปิดเนื่องในเทศกาลบ๊ะจ่างและ Dragon Boat
12 มิ.ย. - จีน: ยอดค้าปลีก (พ.ค.)
14-15 มิ.ย. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
14 มิ.ย. - สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (พ.ค.)
15 มิ.ย. - ยูโรโซน: ดุลการค้า (เม.ย.)
16 มิ.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง BI) ประชุม
- สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch