- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 07 June 2016 17:33
- Hits: 920
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: ระวังแรงขายทำกำไรบริเวณ 1450-1460
SET Index: 1448.62 ดัชนีในช่วงเช้ายังปรับขึ้นต่อเนื่องทำจูงสุดใหม่ที่ 1450 จุด เนื่องจากมีแรงหนุนจากปัจจัยภายนอก เราคงให้ระมัดระวังแรงขายทำกำไรบริเวณ 1450-1460 จุด ติดตามปัจจัยจากต่างประเทศ และทิศทางของค่าเงินบาท
แนวต้าน : 1450 และ 1460
แนวรับ : 1440 และ 1430
SCB = 140 / 144, TASCO = 25.25 / 27.00, PTT = 305 / 312, AOT = 384 / 396, KBANK = 175 / 179
BJC Heavy Industries (BJCHI TB; THB 6.40) - ซื้อ
แนวต้าน : 6.50 และ 6.60
แนวรับ : 6.30 และ 6.25
ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ด้วยปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้น ราคามีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านแรกที่เส้นค่าเฉลี่ยที่ 75 วันบริเวณ 6.50 บาท MACD ยังปรับตัวขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ และ RSI ปรับขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ BJCHI โดยมีแนวรับที่ 6.30 และ 6.25 และมีแนวต้านที่ 6.50 และ 6.60 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.20 ลงไป
Pace Development Corporation (PACE TB; THB 3.14) - ซื้อ
แนวต้าน : 3.24 และ 3.29
แนวรับ : 3.10 และ 3.06
ราคาหุ้นฟื้นตัวทางเทคนิค หลังปรับตัวลงต่อเนื่องในสัปดาห์ที่แล้ว และทำสุดต่ำสุดที่สูงขึ้น ราคามีแนวโน้มทดสอบแนวต้านเดิมที่ 3.24 บาท หากราคาทะลุผ่าน 3.20 บาท RSI มีสัญญาณกลับตัวขึ้นทดสอบระดับ 70
แนะนำซื้อ PACE โดยมีแนวรับที่ 3.10 และ 3.06 และมีแนวต้านที่ 3.24 และ 3.29 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.00 ลงไป
Analysts :
Pornvilai Santusatharom +662 657-9230 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...เริ่มเผชิญแรงขายเหนือ 1450 จุด
ผลการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐเมื่อคืนนี้ ได้ออกมาย้ำว่าพร้อมที่จะขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังไม่บอกเวลา ตลาดจึงคาดกันว่า ในการประชุม FOMC ในเดือนนี้ทาง FED จะยังคงดอกเบี้ย ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันเบนรท์สามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลการโจมตีท่อส่งน้ำมันในประเทศไนจีเรียรวมทั้งผลจากการรายงานของ API ปริมาณสต๊อกน้ำมันสหรัฐที่ลดลง 1.08 ล้านบารเรล์
เมื่อตลาดหุ้นรับข่าวในเชิงบวกว่าทาง FED จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ แต่หลังจากนี้แนวโน้มที่ทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐและทั่วโลก กลับมาผันผวนมีโอกาสเพิ่มขึ้น เพราะต่างขึ้นมาค่อนข้างสูงและเริ่มไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ ส่วนราคาน้ำมันที่ขึ้นมาเหนือ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลได้ ยังคงต้องรอดูตัวเลขปริมาณสต๊อกน้ำมันอย่างเป็นทางการของสหรัฐ โดยเรามองว่าปัจจัยที่ตลาดให้ความสนใจหลังจากนี้คือ ผลการลงประชามติว่าอังกฤษจะออกมาจากอียูหรือไม่ในวันที่ 23 มิ.ย.
สำหรับทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทย แม้ความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยในสหรัฐจะคลายตัวลง ขณะที่ราคาน้ำมันสามารถยืนเหนือ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลได้ แต่ด้วยราคาหุ้นในกลุ่มหลัก ขึ้นมาอยู่ในระดับสูง ตลาดขึ้นมาเล่นที่ค่า P/E ค่อนข้างแพงและยังไม่เห็นปัจจัยหนุนใหม่ๆ ส่วนแรงซื้อของต่างชาติเอง ยังไม่มากและเด่น ปัจจัยหนุนตลาดยังคงเป็นเม็ดเงินลงทุนในประเทศเป็นหลัก แม้ดัชนียังมีช่องให้ขึ้น แต่คงไม่มากเพราะตอนนี้ดัชนี SET ขึ้นมาเล่นที่ค่า +2 SD ขณะที่แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานคงมีไม่มาก กลยุทธ์การลงทุนจึงเน้นไปที่หุ้นรายตัวที่มีแนวโน้มถูกปรับกำไรต่อหุ้นหรือปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น
หุ้นใน SET 50 และ SET 100 ที่มีแนวโน้มถูกปรับ EpS เพิ่มหรือ Earning revision ratio ดูได้จากรูปด้านซ้ายและขวา โดยราคาหุ้นส่วนใหญ่ตอบรับไปมากแล้ว แม้กระทั่งหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อย่าง QH และ LH ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ขึ้นมา คงเป็นแรงซื้อที่มองกันว่าราคาหุ้นลงไปลึก ขณะที่มุมมองของนักวิเคราะห์ผ่านค่า Earning revision ratio ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ยังไม่มีการปรับค่า EPS ในเชิงบวก สะท้อนพื้นฐานของกลุ่มยังคงประคับประคองตัวมากกว่าที่จะดีขึ้น
วันนี้มองดัชนี SET จะขึ้นต่อไปทดสอบ 1450 จุด จากแรงหนุนของดัชนีในภูมิภาคและราคาน้ำมัน แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นน่าจะมีแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และสื่อสาร หลังดัชนี SET ขึ้นมาที่ระดับ +2SD วันนี้มองแนวต้านที่ 1448-1452 จุด ส่วนแนวรับที่ 1438-1434 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ERW และ GLOBAL หลังค่า EPS (WoW%) ถูกปรับขึ้น 2.22 และ 2.74% เทียบ EPS Mean
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,448.62 จุด เพิ่มขึ้น 5.20 จุด (+0.36%) มูลค่าการซื้อขาย 22,917.92 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศที่ส่วนใหญ่เป็นบวก หลังตลาดคลายกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงเวลาใกล้ๆ นี้ นอกจากนี้การอ่อนค่าของดอลลาร์อาจมีผลต่อเม็ดเงินต่างชาติที่จะไหลเข้ามา
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งตัวขึ้นต่อ SET ระยะสั้นปัจจัยลบเรื่องเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยถูกเลื่อนออก ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ในขณะที่ค่าเงินยูโรเองก็ไม่ใช่แหล่งพักเงินที่ดีในช่วงนี้เพราะตลาดยังกังวลต่อการโหวตของประเทศอังกฤษเพื่อออกจากกลุ่มยูโร ซึ่งโพลล่าสุดกลุ่มที่จะออก เริ่มมีคะแนนนำ ปัจจัยดังกล่าว จะหนุนให้เกิดเม็ดเงินไหลเข้าตลาดเกิดใหม่แทน ดังนั้นตลาดยังปรับตัวขึ้นต่อด้วยปัจจัยด้าน fund flow โดยมีเป้าด้านบนที่ระดับ 1467 จุด โดยหุ้นตัวรองๆในกลุ่มนำ น่าจะเริ่มมีแรงซื้อตามมาหลังหุ้นใหญ่นำขึ้นมาก่อน เรามองตัวรองๆอย่าง KTB BANPU THCOM LH QH PS TASCO ยังน่าสนใจ
Technical Pick (PM)
BJC Heavy Industries (BJCHI TB; THB 6.40) - ซื้อ
Pace Development Corporation (PACE TB; THB 3.14) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]