- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 21 July 2014 15:21
- Hits: 2239
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ปิดลบเล็กน้อย 2.25 จุด ปิดที่ 1,533.41 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากถึง 64,967 ล้านบาท
ทั้งนี้เงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3 ตลาดเป็นวันที่ 2 คงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นเป็นวันที่ 9 อีก 797 ล้านบาท คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 3,013 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 16 อีก 4,493 ล้านบาท แม้ภาวะการลงทุนรอบเอเชียไม่เอื้อต่อการลงทุน
ทิศทางการลงทุนในวันนี้ MBKET คงมุมมองเป็น “กลาง” โดยแนวต้าน 1,535-1,540 จุด ยังไม่น่าผ่านในวันนี้ แม้ว่าแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติยังคงต่อเนื่อง แต่กองทุนในประเทศ คงการทยอยขายทำกำไร เพื่อปิดความเสี่ยงช่วงสั้นเช่นกัน อีกทั้งภาวะการลงทุนที่หมุนการลงทุนไปยังกลุ่มหลักในแต่ละรอบ หรือที่เรียกว่า Sector Rotation กลายเป็น 2 ปัจจัยที่ทำให้ SET INDEX ยังไม่ผ่านด่านสำคัญในมุมมองของ MBKET
หุ้นหลักในกลุ่ม ICT อย่าง ADVANC / INTUCH / DTAC ยังคงเผชิญกับแรงขาย ต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน ทั้งจากความล่าช้าในการประมูลคลื่นความถี่ บวกกับ ผลการดำเนินงานใน 2Q57 ที่ชะลอตัว Low Season บวกกับผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ขาดความโดดเด่น ขณะที่หุ้นขนาดกลางในกลุ่ม ICT มีความโดดเด่นมากกว่า แง่ของผลการดำเนินงาน 2Q57
ปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณียูเครน ทรงตัว
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ “คงการ Swing Trade เน้นการขายทำกำไรและถือเงินสดมากขึ้น หาก SET INDEX ขยับสู่ 1,540 จุด +/-“ พร้อมเก็งกำไรหุ้น Laggard เป็นหลัก
กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” SPCG/ SAMART
Portfolio
Top Pick in 3Q14: AAV/ AP/ IFEC / TRUE
HOLD: SCC/ SPALI/ TTA/ SAMART/ SPCG/ BLAND/ IFEC/ BTS
Speculative Buy: SPCG/ SAMART
Technical View
แนวรับ 1526 / 1520 จุด แนวต้าน 1540 จุด เข้าใกล้เป้าหมายสำคัญ มีสิทธิเกิดแรงขายทำกำไร
Action and Stock of the Day
SET INDEX ยังคงปิดยืนเหนือ 1,530 จุด
มุมมองต่อ SET INDEX ยังคงเป็น “กลาง” Upside gain ยังคงจำกัด ยืนเป้า 1,550 จุด
กลยุทธ์ Swing Trade ขึ้นแรงขาย ย่อตัวลงมาซื้อ
ตลาดหุ้นเอเชียวันศุกร์ปิดลบเป็นส่วนใหญ่ จากความกังวลในยูเครน เมื่อกลุ่มสนับสนุนรัสเซีย ยิงเครื่องบินพาณิชย์ของ Malasian Airpline ตก
สำหรับตลาดหุ้นไทย SET INDEX ปรับฐานลงทดสอบ 1,520-1,525 จุด จากคำสั่ง คสช. เลื่อนการประมูลคลื่น 4G ออกไปอีก 1 ปี ทำให้ ADVANC / INTUCH / DTAC ปรับตัวลงแรง กดดัน Sentiment ภาวะการลงทุนโดยรวม แม้ว่าจะเกิดการฟื้นตัวจากการสะสมหุ้นหลักในกลุ่มอื่น ที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าวก็ตาม ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ปิดลบเล็กน้อย 2.25 จุด มาอยู่ที่ 1,533.41 จุด มูลค่าการซื้อขายมากถึง 64,967 ล้านบาท
กลุ่มที่ปิดบวกเด่นสุดได้แก่ กลุ่มขนส่ง +1.87%, กลุ่มประกันภัย +1.38%, กลุ่มอสังหาฯ +1.34% ส่วนกลุ่มหลักอย่างกลุ่มธนาคาร -0.07, กลุ่มพลังงาน +0.99% และกลุ่ม ICT -3.43%
ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้
ตลาดหุ้นเอเชีย (7.41 น.) เช้านี้ Kospi เปิดแกว่งตัวออกด้านข้าง เพราะขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน
MBKET คงมุมมองการลงทุนเป็น “กลาง” ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แม้ว่า นักลงทุนต่างชาติยังคงทยอยสะสมหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง แต่สถาบันภายในประเทศ คงการขายทำกำไรต่อเนื่องเช่นกัน ทำให้ SET INDEX ขยับขึ้นได้อย่างจำกัด รวมถึง MBKET ประเมินจากปัจจัยพื้นฐานและ ปัจจัยแวดล้อมของการลงทุนแล้ว ยังขาดความโดดเด่น SET INDEX มีโอกาสผ่านด่าน 1,550-1,560 จุด ยังเป็นไปได้อย่างจำกัด ณ ปัจจุบัน SET INDEX สะท้อนถึง
•Valuation ของ SET INDEX ณ ปัจจุบัน ซื้อขาย PER14-15 สูงถึง 15.02x และ 13.13x ตามลำดับ เทียบกับค่าเฉลี่ยรายวัน 1SD ของ Forward 1Yr PER และ 2Yr PER ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า 14.35x และ 12.41x ตามลำดับ กล่าวคือ ณ ปัจจุบัน SET INDEX อยู่ในโซนที่แพง กว่า 1SD ในอดีต ย่อมมาพร้อมกับความผันผวนของ SET INDEX ที่มากขึ้น
•ราคาหุ้นหลักส่วนใหญ่ ขยับขึ้นมาสะท้อนปัจจัยพื้นฐานเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานใน 2Q57 ไปค่อนข้างมากแล้ว ดังจะเห็นได้จาก ราคา ณ ปัจจุบัน เทียบกับ ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2557 เหลือจำกัดมากยิ่งขึ้น
•แม้ว่านักลงทุนต่างชาติทยอยสะสมหุ้นหลักของตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง แต่สถาบันภายในประเทศ ทยอยขายทำกำไรเช่นกัน ทำให้ SET INDEX ขยับขึ้นได้อย่างจำกัด
และ Downside risk ของ SET INDEX จำกัดเช่นกัน เพราะปัจจัยแวดล้อมทั้งในและต่างประเทศ ยังไม่เกิดความเสี่ยง / สัญญาณเชิงลบ ที่จะกดดัน SET INDEX ทำให้ แนวรับ 1,515-1,520 จุด น่าจะทำงานได้อย่างแข็งแกร่งในมุมมองของ MBKET
ปัจจัยพื้นฐานต่อการลงทุนที่นักลงทุนจำเป็นต้องติดตามพัฒนาการจากนี้ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายด้านเศรษฐกิจจากทาง คสช. ซึ่งช่วยจำกัด Downside Risk ของ SET INDEX ประเด็นที่สำคัญ ได้แก่
•รายละเอียดของงบประมาณปี 2558 หลังกำหนดกรอบการขาดดุลไว้ที่ 2.5 แสนล้านบาท เท่ากับงบประมาณปี 2557 และงบเพื่อการลงทุน 4.5 แสนล้านบาท กำหนดวันสรุปร่าง วันที่ 29 ก.ค.
•ความชัดเจนของร่างรัฐธรรมนูญ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ คสช. ก่อนนำเสนอขึ้นทูลเกล้าฯ ในลำดับต่อไป
•นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐบาลชั่วคราว ที่จะขึ้นมารับตำแหน่งบริหารประเทศ ในระยะที่ 2 ของแผนที่ คสช.กำหนด road map 3 ระยะ หัวหน้าคสช.ยืนยัน เดือนก.ย.จะเห็นภาพชัดเจน
•ภาพรวมเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวเด่นใน 2H57 รวมถึงแรงเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงานใน 2Q57 ที่เริ่มทยอยประกาศอย่างต่อเนื่องในขณะนี้
การลงทุนในวันนี้ MBKET คาด SET INDEX คงกรอบการแกว่ง 1,530-1,540 จุด โดยเป็นการสลับลงทุนในหุ้นหลักระหว่างกลุ่ม โดยเฉพาะระหว่างกลุ่มธนาคาร / กลุ่มพลังงาน พร้อมกลุ่มที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มขยับเด่น หลังพักฐานในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่กลุ่ม ICT มีแนวโน้มปรับน้ำหนักการลงทุนหุ้นหลักภายในกลุ่ม
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ MBKET แนะนำให้ “คงการ Swing Trade ขึ้นแรงขาย ย่อตัวซื้อ” หรือเก็งกำไรแบบจำกัดวงเงินในหุ้น Laggard เป็นทางเลือก โดยหุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานใน 2Q57 จะเติบโตโดดเด่นทั้ง yoy และ qoq ได้แก่ SIM, SAMART, GFPT, TUF, SPCG, KCE, PTTEP, EGCO, HMPRO, GLOBAL
ปัจจัยสำคัญวันนี้
1.ประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับภาพการลงทุน ซึ่งยังต้องรอความชัดเจน
•คสช.อยู่ระหว่างการพิจารณาร่าง รธน. ฉบับชั่วคราว ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ตลาดคาดว่าจะเป็นภายในสัปดาห์นี้
•รายละเอียดงบประมาณปี 2558 หลังกำหนดกรอบการขาดดุลไว้ที่ 2.5 แสนล้านบาท และงบเพื่อการลงทุน 4.5 แสนล้านบาท ซึ่งเริ่มมีรายละเอียดมากขึ้น คาดว่าจะสรุปแผนในวันที่ 29 ก.ค. และนำเสนอต่อ คสช.พิจารณาวันที่ 6 ส.ค.
•แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม เฟส 2-3 ซึ่งเป็น Roadmap ขนาดใหญ่
•การปรับโครงสร้างพลังงาน ยังต้องหารือถึงรายละเอียดโครงสร้างการกำหนดราคาพลังงาน คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ คาดสรุปภายในสิ้นเดือนส.ค.
2.หุ้นพลังงานทางเลือกขยับเด่น: ล่าสุดปลัดกระทรวงพลังงาน เร่งจัดทำแผนการกำหนดอัตราเงินสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนตามต้นทุนที่แท้จริง หรือ FIT เพื่อนำเสนอต่อ กพช. ในปลายเดือนก.ค. โดยพลังงานแสงอาทิตย์ FIT ที่ 6.0 บาท/หน่วย ส่วนระบบ Feed in Tariff นั้นอาจพิจารณาปรับทบทวนรายปี แทนระบบปัจจุบันที่คงที่ตลอด 25 ปี
แม้ว่าตัวเลขดังกล่าว อาจจูงใจให้ผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานทางเลือก มีความสนใจลดลง แต่เกณฑ์ดังกล่าวเป็นเพียงข้อเสนอ ซึ่งต้องรอดูว่า การพิจารณาของ กพช. จะมีการปรับเปลี่ยน ลงในรายละเอียดมากน้อยเพียงใด แต่ประเด็นดังกล่าว ก็เป็นการเปิดทางให้แก่ผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานทางเลือก มีโอกาสได้งานที่เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่บางราย ได้ลงทุนตามใบอนุญาตเสร็จสิ้นไปแล้ว เช่น SPCG / IFEC เป็นต้น
3.ความตึงเครียดในยูเครน ทรงตัวจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา: ขณะที่ รัสเซีย ยังคงสงวนท่าทีของความขัดแย้งบนคาบสมุทร ยูเครน ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แกว่งในกรอบแคบ เป็นกลางต่อกลุ่มพลังงานในช่วงสั้นนี้
4.วันนี้ตลาดหุ้น Nikkei ปิดทำการ เนื่องในวัน Marine Day
วานนี้ วันก่อนหน้า
PER14 PER15 PER14 PER15
SET INDEX 15.02 13.13 14.95 13.10
PSE 19.28 16.69 19.32 16.73
JSE 16.43 13.98 16.35 13.92
KOSPI 10.31 8.98 10.25 8.93
TAIEX 15.37 14.08 15.38 14.14
Straits Time 14.59 13.35 14.57 13.34
SHCOMP 8.17 7.22 8.17 7.22
ที่มา: Bloomberg
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
1.SPCG : ราคาปิด 25.50 บาท ราคาเหมาะสม 27.60 บาท
a)MBKET คาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q57 เติบโตทั้ง yoy และ qoq พร้อมทำระดับสูงสุดใหม่ เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่รับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มครบทั้ง 36 แห่ง และทิศทางกำไร 3Q57 จะทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้โซลาร์ฟาร์มทั้ง 36 แห่งแบบเต็มไตรมาส
b)ราคาหุ้นมี Catalyst รออยู่ ใน 3Q57 ได้แก่
I.ผู้บริหารของ SPCG จะเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อสรุปการลงทุน Solar Farm ในญี่ปุ่น ขนาด 50-100 MW ซึ่งเป็น Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการ
II.จะมีการประชุมบอร์ดบริษัทในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลครั้งแรกราว 0.20 บาท / หุ้น
c)คาดกำไรสุทธิปี 2557 เติบโต +134.5% yoy เป็น 1,654 ล้านบาท และ +38.3% yoy เป็น 2,287 ล้านบาท
d)Valuation ยังไม่สูงมากนัก โดยซื้อขายระดับ PER 2557 ที่ 14.2 เท่า และลดลงเหลือ 10.3 เท่า ในปี 2558 และเชื่อว่านโยบายสนับสนุนพลังงานทางเลือกให้เพิ่มขึ้นเป็น 30% ของกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในปี 10 ข้างหน้า เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศจะเป็นปัจจัยผลักดันกำไรของบริษัทในระยะยาว
2.SAMART : ราคาปิด 21.70 บาท ราคาเหมาะสม 26.00 บาท
a)กสทช. จะมีการประชุมในวันพฤหัสนี้ (24 ก.ค.) เพื่อสรุปราคาคูปองทีวีดิจิตอล หลังเสร็จสิ้นการทำประชาพิจารณ์แล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เห็นว่าราคาที่ 1,000 บาทเป็นราคาที่เหมาสม โดยขั้นตอนต่อไปคือเสนอเรื่องให้ คสช.ภายในสิ้นเดือน ก.ค. และคาดว่าจะแจกคูปองได้ภายใน 15 ก.ย.
b)SAMART ได้ประโยชน์โดยตรงจากความคืบหน้าของคูปองทีวีดิจิตอล เนื่องจากเป็นผู้จำหน่าย Set Top Box รายใหญ่ของประเทศ และจะเป็นแรงผลักดันผลประกอบการใน 2H57 ให้เติบโตจากครึ่งปีแรก
c)คาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q57 ที่ 405-410 ล้านบาท เติบโตทั้ง yoy และ qoq ทำระดับสูงสุดใหม่ของบริษัท จากแรงหนุนของธุรกิจจำหน่ายมือถือของ SIM ที่คาดว่ากำไรสุทธิ 2Q57 จะทำระดับสูงสุดใหม่เช่นกัน จากยอดขาย DTV Smartphone และธุรกิจ MVNO มีผลขาดทุนลดลงต่อเนื่อง
d)มี Valuation ที่ยังค่อนข้างถูก โดยซื้อขายระดับ PER 2557 ที่ 11.6 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มสื่อสารที่ 15.0 เท่า และเชื่อว่าการเลื่อนประมูล 4G จะส่งผลให้หุ้นหลักในกลุ่มมือถือมีความน่าสนใจลดลง และอาจส่งผลบวกให้กองทุนในประเทศกระจายเงินเข้าสู่หุ้นตัวอื่นในกลุ่มสื่อสาร
e)และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี โดยคาดการณ์ปันผลปี 2557 หุ้นละ 1.00 บาท คิดป็น Dividend Yield 4.6%
What will DJIA move tonight? คืนนี้ไม่มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิ US$102 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$272 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 39.3 -78.3 10,846.4 9,188.0
KOSPI 0.0 247.1 4,910.0 4,875.1
JSE 40.7 45.3 4,863.9 -1,806.4
PSE -1.1 -4.0 1,060.8 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม -1.3 3.4 287.6 263.2
SET INDEX 24.8 58.1 -735.4 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
เม็ดเงินทุนต่างชาติสะสมหนาแน่นทั้ง 3 ตลาดเป็นวันที่ 2
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) +797 +1,866
SET50 Index Futures (สัญญา) +3,013 +580
SSF (สัญญา) +889 -2,726
Metal Futures (สัญญา) +1,065 +291
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +4,493 +9,557
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 9 ลดลงเป็น 797 ล้านบาท รวม 9 วันทำการ ซื้อสุทธิ 13,741 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยลดลงเป็น 24,541 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 3,013 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 3,593 สัญญา เทียบกับตลอด 3 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 5,824 สัญญา และตลอด 5 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 12,907 สัญญา จึงคาดว่าจะเป็นารทยอเปิดสถานะ Long ต่อเนื่อง แม้ว่า S50U14 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเล็กน้อยเป็น 7.19 จุด จากวันก่อนหน้า Discount กว้างถึง 9.57 จุด
Metal Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิเป็นวันที่ 2 เช่นกัน 1,065 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 1,356 สัญญา เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้า short สุทธิ 2,979 สัญญา น่าจะเป็นการทยอยปิดสถานะ Short สุทธิ เมื่อราคาทองคำในตลาดโลกแกว่งในกรอบแคบ US$1,300 +/-
ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงเลือกเข้าเก็งกำไรค่าเงินบาท ผ่านตลาดตราสารหนี้ ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 16 อีก 4,493 ล้านบาท รวม 16 วันทำการ ซื้อสุทธิมากถึง 106,523 ล้านบาท คาดว่าเป็นการทยอยสะสมพันธบัตรระยยาว อายุ 10 ปี ผลตอบแทนลดลง 2.02bps ปิดที่ 3.668%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็น 705 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 511 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
ADVANC 188.90 2.58% 216.51
SCB 85.39 7.65% 182.45
TMB 70.05 2.60% 2.86
BBL 50.45 6.14% 196.47
ITD 33.06 6.36% 5.09
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 19 ซื้อสุทธิชะลอตัวชัดเจน
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 19 ลดลงเหลือ 551 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 8,793 ล้านบาท (หากหักรายการ RATCH พบว่า NVDR ซื้อสุทธิ 338 ล้านบาท) รวม 19 วันทำการ ซื้อสุทธิ 34,157 ล้านบาท สรุปได้ดังต่อไปนี้
1.กลุ่มพลังงานซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 4 ลดลงเหลือ181 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 8,197 ล้านบาท (กระจุกตัวใน RATCH) ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 142 ล้านบาท กลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิ 119 ล้านบาท และกลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 113 ล้านบาท
2.ด้านกลุ่มอสังหาฯ ถูกขายสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 49 ล้านบาท ตามาด้วยกลุ่ม ICT ขายสุทธิ 41 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 448 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
DTAC 202.00 15.80 TRUE -153.12 3.83
AOT 131.74 12.69 ADVANC -141.40 7.40
SCC 120.45 30.12 LH -99.13 38.63
PTTEP 98.93 9.99 TMB -78.78 4.87
KTB 89.34 7.31 PSL -33.29 14.78
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong