- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 03 June 2016 17:08
- Hits: 5166
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เลือกซื้อ/ถือตามค่าบวก
Top Picks-Fund Jan-12 : Fundamental : CPALL, CPN, IVL, JASIF, LPH
Dark Horse : GLOBAL
Top Picks -Fund Today: KAMART
(ดู Theme ลงทุนด้านใน)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, TMT, JASIF, DIF, CPNRF, SC, QH, SIRI, BCP
Shot Sell-Prev :TICON 13%
Technical View ภาพตลาดเป็นบวก และมีสิทธิปรับขึ้นต่อได้
Support Resistance Stop Loss
SET 1380-1370 1430-1440 หลุด 1410
SET50 880,860 920-930,940 หลุด 900
Technical Picks - Today SEAFCO, SPALI, CPN, ESSO, BCH, VIH, KAMART, CENTEL
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ...
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 1 พันกว่าล้านบาท สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 680 กว่าล้านบาทเมื่อวานนี้ โดยกลับมาเพิ่ม Position ในหุ้นขนาดใหญ่ที่ได้ลดพอร์ตไปก่อนหน้า เช่น กลุ่มที่พักอาศัย
สำหรับ วันนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 2/59 คาดว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรก็ฟื้นตัวต่อ ทำให้เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายหนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยก่อนปลายปีนี้ (โดยส่วนใหญ่มองว่าจะปรับขึ้นในการประชุมปลายก.ค.) อย่างไรก็ดี ประเด็นนี้ได้สะท้อนเข้าไปในตลาดแล้วพอควร สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ติดตาม คือ รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐประจำเดือนพ.ค.ที่จะออกมาในคืนนี้ (เวลาไทย) ด้านปัจจัยในประเทศ ยังมีข่าวและความเคลื่อนไหวรายบริษัทให้เข้ามาเก็งกำไร/ลงทุนได้ ปัจจัยที่ติดตามและเป็น Catalyst คือ การเปิดประมูลงานใหม่ภาครัฐ เช่น โครงการสุวรรณภูมิเฟส 2, โครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ กลยุทธ์ : การลงทุนหรือเก็งกำไรในช่วงนี้ยังคงเน้นเลือกเป็นรายบริษัท ส่วนภาพรวมตลาด เราประเมินกรอบล่าง-บนของ SET Index ในระยะ 1 เดือนไว้ที่ 1380-1370, 1350 จุด และ 1420-1430, 1440-1450 จุด หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น KAMART
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวก แนวต้านระยะสั้น 1430-1440, 1450 จุด แนวตัดขาดทุน คือ ค่าลบ หรือต่ำกว่า 1410 จุด การอ่อนตัวจะมีแนวรับเก็งกำไร 1380-1370 จุด กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรตามด้วยค่าบวกและไม่ควรหวัง Gap มาก
การ SCAN หุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคดีและมีโอกาสปรับขึ้น พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ QH, SENA, VIH, CENTEL ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ RATCH, GLOBAL, TNH, SIRI, BEM, SCN, AAV, WORK หุ้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ SEAFCO, SPALI, WHA, BCH หุ้นที่หลุด List เป็น PLAT
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- ECB ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยและวงเงิน QE ในการประชุม 2 มิ.ย.59
ที่คณะกรรมการ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% และคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยจะเริ่มเข้าซื้อพันธบัตรของภาคเอกชนในวันที่ 8 มิ.ย.
- ตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐยังแข็งแกร่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 267,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 พ.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 270,000 ราย และ ADP เปิดเผยว่าการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่ง โดยภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ส่วนภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลง 2,000 ตำแหน่ง
- จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐวันนี้
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐที่จะออกมาในคืนวันนี้ (เวลาไทย) โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 162,000 ตำแหน่ง มากกว่าในเดือนเม.ย.ที่ 160,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.9% จากระดับ 5.0% ในเดือนเม.ย.59
- ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกราว 0.3%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด +48.89 จุด หรือ +0.27% ดัชนี NASDAQ ปิด +19.11 จุด หรือ +0.39% ดัชนี S&P500 ปิด +5.93 จุด หรือ +0.28% หนุนโดยราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นหลัง EIA รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว และตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐยังสดใส
- ราคาน้ำมันดิบบวกในรอบ 5 วันทำการ...สต็อกน้ำมันดิบ US ลดลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 49.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 50.04 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยหนุน คือ รายงานของ EIA ที่ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 535.7 ล้านบาร์เรล ส่วนการประชุมกลุ่มโอเปกเมื่อ 2 มิ.ย.59 ผลออกมาว่าไม่มีข้อตกลงเกี่ยวกับการควบคุมเพดานปริมาณการผลิตน้ำมัน ได้แต่ตกลงว่าจะร่วมกันทำให้ตลาดมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของ DBSV และตลาด
- ราคาทองคำอ่อนตัวลง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 2.10 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ระดับ 1,212.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากมองว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในไม่ช้านี้เพราะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
-ไทย : ภาคอุตสาหกรรมยังขาดความเชื่อมั่น...ใช้เวลาในการฟื้นตัว
ธปท.เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนพ.ค.ว่าดัชนีอยู่ที่ 49.7 ติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง และยังคงต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนความเชื่อมั่นที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เพราะเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและจำกัดอยู่ในบางธุรกิจ ซึ่งต้องใช้เวลาในการพลิกฟื้นความเชื่อมั่น โดยปัจจัยที่เป็นตัวส่งสัญญาณ คือ การส่งออก ถ้าเติบโตได้ดีขึ้นก็จะทำให้ภาคอุตสาหกรรมของไทยพลิกฟื้นตามไปด้วย
-อุตสาหกรรมไก่ : อากาศร้อนจัดทำให้ Supply น้อย...ราคาขยับขึ้นได้
ประธานสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้เปิดเผยว่าสภาพอาอากาศร้อนจัดและขาดน้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการให้ไข่ของแม่ไก่และไก่เนื้อโตช้าลงเนื่องจากไก่กินอาหารน้อย นอกจากนั้นหลายพื้นที่ที่มีพายุลมแรงก็ทำให้ฟาร์มเกษตรกรรายย่อยในภาคใต้และภาคเหนือเสียหายด้วย ทางสมาคมฯให้ข้อมูลว่าปริมาณผลผลิตไก่ลดลงกว่า 10% และผลผลิตไข่ลดลง 15-20%
ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : ปริมาณผลผลิตไก่และไข่ที่ลดลงทำให้ปัญหา Oversupply ในประเทศผ่อนคลายลง และทำให้ราคาไก่สามารถยืนได้ที่ 37-38 บาท/กก. และมีแนวโน้มขยับขึ้นไปใกล้ 40 บาท/กก.ได้ นอกจากนั้นยังทำให้ราคาลูกไก่เพิ่มขึ้นเป็น 12.5 บาท/ตัวในเดือนพ.ค.59 จากประมาณ 11 บาท/ตัวในเดือนมี.ค.59 บริษัทจดทะเบียนที่ได้รับผลดี GFPT (ราคาพื้นฐาน 13 บาท) และ CPF (ราคาพื้นฐาน 34 บาท) - ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน Investment Digest
- SGP (ราคาปิด 14.50 บาท) : ราคา LPG ฟื้นตัวหนุนผลประกอบการ 2Q59
บริษัทให้ Guidance ว่าผลประกอบการไตรมาส 2/59 น่าจะดีขึ้น QoQ เพราะราคา LPG ขยับขึ้นจาก 325 ดอลลาร์/ตันในไตรมาส 1/59 เป็น 345 ดอลลาร์/ตันในปัจจุบัน ด้านปริมาณขายมีเป้าหมายว่าจะเติบโต 5% ในปีนี้ แต่ก็มีโอกาสที่จะปรับขึ้นเพราะความต้องการใช้ในจีนยังขยายตัวดี (ในช่วงไตรมาส 1/59 ปริมาณใช้ในจีน +60%YoY) บริษัทมีแผนขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยจะเน้นลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม เช่น อาหาร ห้างสรรพสินค้าที่เปิดสาขาต่อเนื่อง บริษัทจับมือกับพันธมิตรในเมียนมาร์เพื่อสร้างโรงบรรก๊าซ ใช้เงินลงทุนราว 100 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มสร้างโรงงานได้ในไตรมาส 3/59 ส่วนการประมูลคลังก๊าซที่เมียนมาร์กำลังรอผลการประมูล
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]