- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 03 June 2016 16:35
- Hits: 557
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)
Technical highlights
SET Index : แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1460 แนวรับสำคัญ 1400
ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1424.06 จุด เพิ่มขึ้น 8.30 จุด มูลค่าการซื้อขาย 46,265 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานฟื้นตัวกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1430 จุด หลังจากถูกขายที่บริเวณแนวต้านสำคัญเมื่อวันก่อน ถ้ายังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 1400 จุด
Daily: ปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1430 จุด แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเรายังคงคาดว่า แนวโน้มของ SET Index ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1460 จุด หลังจากมีการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มธนาคาร และสื่อสาร รวมไปถึงการเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มก่อสร้าง และอสังหาฯ เมื่อวาน ถือเป็นสัญญาณในเชิงบวกของการทะลุผ่านระดับ 1432 จุดขึ้นไป
กลยุทธ์ :SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1430 จุดอีกครั้ง หลังจากเกิดสัญญาณขายในระยะสั้นเมื่อวันก่อน แต่โอกาสในการปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับ 1430 จุดขึ้นไปมีเพิ่มสูงขึ้น หลังจากหุ้นในกลุ่มก่อสร้าง และอสังหาฯ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้ามาช่วย
Asia Fund Flow : 2 มิถุนายน 2559
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ขายสุทธิ 34 ล้านเหรียญ (3 มิ.ย.)
ตลาดหุ้นไต้หวัน ซื้อสุทธิ 192 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ซื้อสุทธิ 33 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ซื้อสุทธิ 5 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นไทย ซื้อสุทธิ 29 ล้านเหรียญ
Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
IVL สัญญาณขายทางเทคนิค ถ้าหลุดระดับ 32.00 จะมีแนวรับถัดไปที่ 30.00 32.00** / 31.00 33.50 / 34.00
AOT แนวโน้มลงทดสอบ 370-374 แนวต้าน 390 380 / 378 388 / 390
PTT เคลื่อนไหวในกรอบ 300-310 304 / 300 307 / 310
CK สัญญาณซื้อ แนวต้าน 28.00-28.50 แนวรับ 26.50 27.00 / 26.50 28.00 / 28.50
SCB สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 140 และ 144 แนวรับ 136 และ 134 136 / 135 140 / 144
PTTEP เคลื่อนไหวในกรอบ 78.00-80.00 แนวรับสำคัญ 76.00 78.00 / 77.00 79.50 / 80.00
BDMS สัญญาณขายระยะสั้น แนวโน้มลงทดสอบ 23.20 แนวต้าน 24.20 23.50 / 23.20 23.80 / 24.00
ADVANC แนวโน้มขึ้นทดสอบ 168 และ 175 แนวรับ 162 และ 160 162 / 160 165 / 168
SCC เคลื่อนไหวในกรอบ 480-490 แนวรับสำคัญ 470-474 เป็นจังหวะซื้อเพิ่ม 480 / 474 484 / 490
BBL ซื้อที่แนวรับ 162 แนวต้าน 166 และ 170 162 / 160 165 / 166
Samart Corporation (SAMART TB; THB 17.20) - ซื้อ
แนวต้าน : 17.80 และ 18.30
แนวรับ : 17.20 และ 17.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากฟื้นตัวเหนือจุดต่ำสุดเดิมทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นมาได้ ทาให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ SAMART โดยมีแนวรับที่ 17.20 และ 17.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 17.80 และ 18.30 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 16.70 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 16.00
Samart Telcoms (SAMTEL TB; THB 14.00) - ซื้อ
แนวต้าน : 15.00 และ 15.50 / แนวต้านสำคัญ 16.30
แนวรับ : 14.00 และ 13.80
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยมในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ SAMTEL โดยมีแนวรับที่ 14.00 และ 13.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 15.00 และ 15.50 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 13.50 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 12.50
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...EPS growth กลุ่มหลักยังไม่ดีขึ้น
แรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์โดยเฉพาะธนาคารใหญ่ น่าจะมาจากเหตุผลที่มองกันว่าอัตราการทำกำไรของกลุ่มในปีนี้กำลังลงมาเล่นที่จุดต่ำสุด ซึ่งตอนนี้ค่า EPS growth ของกลุ่มอยู่ที่ 1.82% เทียบ 5.26% ในเดือน เม.ย. อัตราการทำกำไรที่ต่ำลง มาจาก แรงกดดันของ NIM สินเชื่อขยายตัวต่ำ และการเพิ่มขึ้นของ NpL จนต้องตั้งสำรองเพิ่ม อัตราการทำกำไรที่ต่ำขนาดนี้ หากเศรษฐกิจไม่ดีขึ้นก็มีสิทธิที่จะติดลบได้ แต่ข้อมูลที่เป็นอยู่ในตอนนี้ภาวะเศรษฐกิจ ยังทรงๆ และไม่ทรุดตัวลง จนนำไปสู่การคาดการณ์ว่ากำไรของกลุ่มน่าจะถึงจุดต่ำสุด จนมีแรงซื้อหุ้นธนาคารใหญ่เข้ามา แต่หลายธนาคารราคาหุ้นขึ้นมาถึงราคาเป้าหมายเฉลี่ยกลางของนักวิเคราะห์ อย่าง SCB KBANK และ BAY
แม้จะมีแรงซื้อหุ้นธนาคารใหญ่เข้ามา แต่กรอบการขึ้นน่าจะมีจำกัดเหมือนกัน เนื่องการที่จะให้ราคาหุ้นขึ้นไปมากกว่านี้ยังต้องรอให้อัตราการขยายตัวของกำไรต่อหุ้นเพิ่มมากกว่านี้ ส่วนอัตราการทำกำไรของกลุ่มค้าปลีก เริ่มทรงๆตัว ขณะที่ราคาหุ้นขึ้นมาแรงมากๆ ตอบรับผลดำเนินงาน Q1/16 ของกลุ่มที่ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด ดังนั้นเราจึงมองว่าราคาหุ้นน่าจะเริ่มเผชิญแรงขาย กลุ่มสื่อสารอัตราขยายตัวของกำไรต่อหุ้นในปีนี้ ยังติดลบ ขณะที่ราคาหุ้นก็ลงไปตอบสนองข่าวในเชิงลบเช่นกัน การเข้าเล่นหุ้นในกลุ่มนี้น่าจะคล้ายๆกับธนาคารพาณิชย์ แต่จะต่างตรงที่หุ้นในกลุ่มนี้ที่มีแรงซื้อเข้ามาจะเป็นหุ้นให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง
วันนี้ถือว่าเป็นวันที่นักลงทุนต่างเฝ้ารอตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ คือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร หากออกมาดีกว่าคาด ในการกล่าวสุนทรพจน์ของประธาน FED ในวันที่ 6 มิ.ย.ทาง FED อาจส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยได้ โดยเปอเซ็นต์การขึ้นในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 28% ขณะที่ในการประชุมเดือน ก.ค. มีสูงมากกว่า 60% แล้ว ช่วงที่ตลาดกำลังรับข่าวว่าทาง FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย ตลาดหุ้นทั่วโลกมักจะผันผวน หากกลับไปดูข้อมูลในอดีต ช่วงการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกๆ ตลาดหุ้นทั่วโลกจะตอบสนองในเชิงลบเสมอ จนกว่าจะเริ่มซึมซับข่าว
ณ. ภาวะที่เป็นอยู่ ตลาดหุ้นไทยถูกขับเคลื่อนมาอยู่ในตำแหน่งไม่ใช่ถูก ปัจจัยที่เคยหนุนเริ่มทรงๆ อย่างราคาน้ำมันและปิโตรเคมี หุ้นที่เคยโดดเด่นและผลักดันตลาด เริ่มมีแรงขายออกมา เพียงแต่ยังไม่มาก สถานการณ์ตอนนี้ เรามองว่าไม่ใช่เวลาที่จะซื้อหุ้นเพิ่ม จนกว่าจะเห็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าทาง FED ขึ้นดอกเบี้ย การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ คงไม่มีผลอะไรกับดอกเบี้ยของไทยในช่วงสั้น แต่ผลของการขึ้นดอกเบี้ยในสหรัฐที่จะกระทบ คือ ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งตัวขึ้น จนไปกดดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์และค่าเงินเอเชียให้อ่อนตัวลง ผลที่เคยเกิด ในช่วงที่ FED ขึ้นดอกเบี้ยในปี 1994-1995 1999-2000 และ 2004-2005 ดัชนีกลุ่มชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ มักจะคึกคักและปรับตัวขึ้น
วันนี้คาดดัชนี SET จะยังเคลื่อนไหวในลักษณะซึมลงไปเล่นต่ำกว่า 1400 จุด เพื่อรอดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐและการแถลงของประธาน FED ในวันจันทร์ที่จะถึง หากตัวเลขออกมาดีกว่าคาด และผลการแถลงของประธาน FED ออกมาในทำนองพร้อมที่จะขึ้นดอกเบี้ย มีความเป็นไปได้ที่สัปดาห์หน้าดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกจะผันผวน แต่หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด สถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกจะปรับตัวขึ้นแต่ไม่แรง และดัชนี SET จะขึ้นไปเล่นที่กรอบ 1420-1430+/- จุด หุ้นที่แนะนำ ซื้อเก็งกำไร คือ QH และ CKP
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์: วันนี้คาดดัชนี SET จะยังเคลื่อนไหวในลักษณะซึมลงไปเล่นต่ำกว่า 1400 จุด เพื่อรอดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐและการแถลงของประธาน FED ในวันจันทร์ที่จะถึง หากตัวเลขออกมาดีกว่าคาด และผลการแถลงของประธาน FED ออกมาในทำนองพร้อมที่จะขึ้นดอกเบี้ย มีความเป็นไปได้ที่สัปดาห์หน้าดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกจะผันผวน แต่หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด สถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกจะปรับตัวขึ้นแต่ไม่แรง และดัชนี SET จะขึ้นไปเล่นที่กรอบ 1420-1430+/- จุด หุ้นที่แนะนำ ซื้อเก็งกำไร คือ QH และ CKP
Themes play :
KTC : เราแนะนำ ซื้อ KTC โดยมีราคาเป้าหมาย 123 บาท โดย KTC ต้องการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจบัตรเครดิตด้วยการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรและลูกหนี้บัตรเครดิตเป็น 51% ภายในสองสามปีข้างหน้า ส่วนปีนี้ ผู้บริหารตั้งเป้าเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตรอีก 15% แม้จะมีศักยภาพเติบโตสูงสุดถึง 20% จากการทำแคมเปญทางการตลาดอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี โดยเราเชื่อว่า KTC ต่างบริษัทบัตรเครดิตชั้นนำรายอื่นจากการใช้กลยุทธ์แบ่งส่วนตลาด (segmentation) และการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เรามองว่าปัจจัยผลักดันราคาหุ้นจะมาจากการที่ตลาดปรับเพิ่มประมาณการ ปัจจุบัน KTC ซื้อขายอยู่ที่ P/E 9.8x และ P/BV 2.3x ในปี FY16 ซึ่งเรามองว่าน่าสนใจเมื่อประเมินจากอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4.1% และ ROE ที่สูงถึง 25.5%
ประเด็นในสัปดาห์
3 มิ.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Change in Nonfarm Payroll เดือนพ.ค. โดยตลาดคาด 160,000 ราย จากเดือนก่อนหน้าที่ 160,000 ราย
3 มิ.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Unemployment rate เดือนพ.ค. โดยตลาดคาด 4.9% จากเดือนก่อนหน้า +5.0%
3 มิ.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Durable Goods orders เดือนเม.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ +3.4%
3 มิ.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Factory orders เดือนเม.ย. โดยตลาดคาด +0.8% จากเดือนก่อนหน้าที่ +1.1%
7 มิ.ย. : ยุโรปประกาศตัวเลข GDP SA YoY ไตรมาส 1/59 จากไตรมาสก่อนหน้าที่ +1.5%
8 มิ.ย. : จีนประกาศตัวเลข Export YoY เดือนพ.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ -1.8%
9 มิ.ย. : จีนประกาศตัวเลข CPI YoY เดือนพ.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ +2.3%
Opportunity Day
6 มิ.ย. : MEGA NCH ASP SMART INET
7 มิ.ย. : PJW PSTC CNT BAFS
8 มิ.ย. : LHK EPG IMPACT S DAII
9 มิ.ย. : DRT APCO TSC A TKT
10 มิ.ย. : ADVANC JUBILE ARROW TNP BTS
13 มิ.ย. : CENTEL EFORL IEC K
14 มิ.ย. : GUNKUL TPCH TACC FSMART
15 มิ.ย. : UREKA UAC MILL SCN SWC MBKET
Fundamental Stock :
BANKS : Sector Note (คำแนะนำ : Underweight)
Technical Pick:
กลยุทธ์ : SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1430 จุดอีกครั้ง แต่มีโอกาสในการปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับ 1430 จุดขึ้นไปมีเพิ่มสูงขึ้น
Samart Corporation (SAMART TB; THB 17.20) - ซื้อ
Samart Telcoms (SAMTEL TB; THB 14.00) - ซื้อ
SET Index : แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1460 แนวรับสำคัญ 1400
Retail Research Team