WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ASIAwealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

จับตาตัวเลขการว่าจ้างงานสหรัฐ
  คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบวันนี้จากตัวเลขภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนแอในจีนและยุโรป แต่ตัวเลขภาคอุตสาหกรรมสหรัฐกลับออกมาดีและเมื่อรวมกับตัวเลขการว่าจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐที่จะประกาศคืนนี้ก็อาจจะเพียงพอที่จะทำให้ Fed ขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ได้ ปัจจัยภายในประเทศวันนี้รวมๆแล้วเป็นบวกเล็กน้อยตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือน พ.ค. บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยค่อยๆ ฟื้นตัว มาตรการภาษีล่าสุดที่มุ่งกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนในครึ่งปีหลังนี้น่าจะประสบผลสำเร็จในเวลาเดียวกับที่รัฐบาลเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานพอดี

หุ้นเด่นวันนี้ : TISCO (Bt44.25; ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 59 ของ AWS 51.00 บาท)
  บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) น่าจะยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากภาวะอัตราดอกเบี้ยของตลาดที่เอื้ออำนวย เนื่องจากธนาคารมีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้ออัตราดอกเบี้ยรับคงที่อยู่ในระดับสูงและต้นทุนการเงินที่ลดลงทำให้ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย (NIM) สูงขึ้น โดยในไตรมาส 1/59 NIM ของธนาคารปรับตัวดีขึ้นอย่างมากอยู่ที่ 3.9% จาก 3.1% ในไตรมาส 1/58 ถึงแม้ตลาดยานยนต์จะยังคงชะลอตัวในปัจจุบัน แต่ระดับ NIM ที่สูงขึ้นนี้จะช่วยชดเชยการเติบโตของสินเชื่อที่ยังซบเซา นอกจากนี้ TISCO วางแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ซึ่งให้อัตราผลตอบแทนสูงมากขึ้นผ่านโครงการสมหวัง เงินสั่งได้ ซึ่งให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถทุกประเภท โดยที่ธนาคารตั้งเป้าจะขยายสาขาของ “สมหวัง เงินสั่งได้” ในปีนี้ที่ 150 สาขา จาก 98 สาขาในปี 2558 ซึ่งธุรกิจดังกล่าวจะช่วยให้ NIM ของธนาคารแข็งแกร่งขึ้นไปอีก

 

     อีกทั้ง ธนาคารคาดว่าระดับการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญในปีนี้จะลดลงจากปีก่อนเนื่องจากธนาคารมีการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ผลกระทบจาก SSI ไม่น่าจะมีแล้ว ซึ่งการตั้งสำรองที่ลดลงนี้จะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตกำไรของธนาคาร เราคาดการณ์กำไรจะเติบโต 7.6% ในปี 2559 และ 13.6% ในปี 2560 อีกทั้ง TISCO ยังมีอัตราเงินปันผลตอบแทนค่อนข้างน่าสนใจที่ 5.4% Price Pattern ของ TISCO ยังมีแนวโน้มหลักที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิด Monthly Buy Signal โดยล่าสุด Price Pattern ของ TISCO ได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่แล้ว จึงทำให้กลับมาเกิดความแข็งแกร่งในระยะสั้นอีกครั้ง ซึ่ง Price Pattern ของ TISCO ยังรอเพียงการกลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่เพื่อให้มีความแข็งแกร่งในระยะกลางเพิ่มเข้ามาเท่านั้น โดยหาก Price Pattern ของ TISCO สามารถปิดตลาดรายสัปดาห์ได้เหนือ 46.50 บาท ก็จะทำให้กลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ TISCO ที่ยังมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) นั้น คาดว่ามีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 47.25 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 50.25 บาท โดย TISCO มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 42.75 บาท (Resistance: 44.75, 45.50, 46.25; Support: 43.50, 42.75, 42.00)

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :

      เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นสองเดือนติดต่อกัน รมว.กระทรวงพาณิชย์วานนี้ได้รายงานว่าดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปอ้างอิงบนพื้นฐานสินค้าและบริการ 450 รายการเพิ่มขึ้น 0.46% YoY และ 0.56% MoM ในเดือน พ.ค. โดยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาผลไม้และเนื้อสัตว์เนื่องมาจากภาวะภัยแล้งที่กระจายวงกว้าง ขณะที่ ดัชนีเราคาผู้บริโภคพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.78% YoY และ 0.05% MoM (Bangkok Post)
อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย นายวิรไท สันติประภพ กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงอยู่ในกรอบที่จะช่วยให้บรรลุอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายของธนาคารภายในสิ้นปีนี้ ธปท. ได้ประมาณอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและพื้นฐานอยู่ที่ 0.8% และ 0.9% ตามลำดับ ขณะที่ รมว. กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0-1% นายวิรไท ยังกล่าวเพิ่มเติมว่านโยบายการเงินของ ธปท. ยังคงมีความยืดหยุ่นด้านอัตราเงินเฟ้อที่เหมาะสม (Bangkok Post)


       เตือนเอกชนให้ลงทุนในครึ่งปีหลัง รมว. กระทรวงการคลังได้กล่าวกระตุ้นภาคเอกชนให้เริ่มลงทุนอย่างจริงจังในครึ่งปีหลังของปี 59 เนื่องจากรัฐบาลจะเริ่มลงทุนในโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในช่วงดังกล่าว โดยล่าสุด รัฐยังได้อนุมัติให้สามารถลดหย่อนภาษีได้เป็นสองเท่า และอนุญาตให้โครงการลงทุนยังไม่เสร็จสิ้นในปีนี้ก็สามารถได้รับสิทธิประโยชน์จูงใจทางภาษีเช่นกันเพื่อให้ภาคเอกชนลงทุนเพิ่มมากขึ้นและช่วยอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ (The Nation)


      ADVANC (Bt162.50, BUY, AWS 16TP Bt195.00) ถูก S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวสู่ BBB+ จาก A- จากการต้องจ่ายเงินชำระค่าใบอนุญาต 900 เมกะเฮิร์ตซ์ซึ่งต้องกู้มา (Bangkok Post) ความเห็น: ระดับหนี้น่าจะค่อยๆ ลดลง เมื่อ ADVANC เก็บเกี่ยวกำไรได้จากธุรกิจ 4จี
JAS (4.68 บาท) บริษัทลูกหรือ JASMBB ถูกปรับเป็นเงิน 199 ลบ. จากการผิดนัดชำระเงินค่าใบอนุญาต 900 เมกะเฮิร์ตซ์ ซึ่งสูงกว่าที่เสนอโดยคณะทำงาน กสทช. ครั้งแรกที่ 131 ลบ. โดยจะต้องจ่ายภายใน 16 มิ.ย. บริษัทสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ (The Nation) ความเห็น: เมื่อรวมกับเงินวาง 644 ลบ. ที่ริบไปแล้ว ยอดค่าเสียหายจะเท่ากับ 843 ลบ.หรือ 0.19 บาทต่อหุ้น


PTTEP กล่าวว่าจะ ให้ความร่วมมือกับพันธมิตรในการเข้าประมูลแหล่งก๊าซบงกช เพื่อเตรียมการสำหรับการหมดอายุสัมปทาน ในปี 2566 สำหรับแหล่งก๊าซอื่นยังไม่ได้เตรียมการสำหรับการแข่งขันประมูลหากรายเดิมไม่ต่อสัมปทาน แหล่งก๊าซขนาดใหญ่ 2 แหล่งคือเอราวัณ (ผู้ประกอบการ หลัก: เชฟรอน สหรัฐฯ) และบงกช (ผู้ประกอบการ หลัก: PTTEP ถือหุ้น 44.445%) ถือสัมปทานขุดสำรวจในอ่าวไทย จะหมดอายุสัมปทานในปี 2565-2566 ตามลำดับ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ โดย นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเมื่อวันจันทร์ให้รัฐบาลนำไปเปิดประมูลใหม่ การผลิตสองแหล่งรวมกัน 2.2 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือ 76% ของผลผลิตในอ่าวไทย อย่างไรให้เปิดการการเจรจาโดยตรงกับ เชฟรอนและ PTTEP เลยหากไม่มีผู้สนใจรายใหม่เข้าร่วมประมูล (The Nation, PTTEP) ความเห็น: แหล่งบงกช คิดเป็น 22% ของปริมาณซัพพลายก๊าซในประเทศไทย และคิดเป็นประมาณ 20% ของรายได้ PTTEP การที่ให้มีการเปิดประมูลใหม่ยังเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางด้านรายได้ในอนาคตและผลกระทบทางจิตวิทยาในการลงทุนหุ้น PTTEP ต่อไปในช่วงนี้


ต่างประเทศ

      ตลาดหุ้นทั่วโลกยกเว้นตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อวันพุธ จากความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลภาคการผลิตของจีนและยุโรป กิจกรรมภาคผลิตทั่วโลกยังคงชะลอตัวเช่นเดิมในเดือนก่อนโดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจากเอเชีย ยุโรป และอเมริกาแทบไม่กระเตื้องขึ้นเนื่องจากผู้ผลิตพยายามหาคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มมากขึ้น จากผลสำรวจที่เผยแพร่เมื่อวันพุธได้ระบุไว้ มีการคาดการณ์เมื่อไม่นานมานี้ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายใน 2-3 เดือนข้างหน้าและความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปได้ทำลายความเชื่อมั่นทางธุรกิจทั่วโลก (Reuters)
เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวเป็นอย่างมาก เพราะเกิดวิกฤตทางการเงินเป็นครั้งที่ 2 ในปี 2559 จากการติดอยู่ใน “กับดักการขยายตัวของเศรษฐกิจต่ำ” จากคำกล่าวขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เมื่อวันพุธ ซึ่งสนับสนุนให้รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ กระตุ้นการใช้จ่ายให้มากขึ้น (Reuters)
      ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลง จากความไม่แน่ใจว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. หรือไม่และการเลื่อนการขึ้นภาษีการขายออกไปซึ่งจะช่วยกระตุ้นค่าเงินเยน ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลง 0.5% อยู่ที่ระดับ 95.413 จุด ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเทียบกับเงินเยน โดยปรับตัวลงกว่า 1.0% ที่ระดับ 109.51 เยน (Reuters)
ราคาพันธบัตรสหรัฐปิดลดลง จากการดีดกลับในช่วงหลังของราคาหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 0.01% อยู่ที่ 1.846% ในช่วงท้ายของการซื้อขายเนื่องจากเทรดเดอร์หันไปให้ความสนใจต่อรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรและรายงานการว่างงานซึ่งจะประกาศในวันศุกร์นี้ (Reuters)

สหรัฐ :

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเล็กน้อยเมื่อวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันในช่วงท้ายของการซื้อขายและรายงานทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากเฟด (Reuters)
ภาคการผลิตสหรัฐขยายตัวเร็วกว่าที่คาดในเดือนพ.ค. ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐ (PMI) ของ ISM อยู่ที่ระดับ 51.3 ในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นจาก 50.8 ในเดือนเม.ย. นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีดังกล่าวจะอยู่ที่ 50.4 (Reuters)

ยุโรป :

    หุ้นยุโรปปรับตัวลงในวันพุธ จากข้อมูลภาคโรงงานของทั้งยุโรปและจีนที่ออกมาอ่อนแอขณะที่ภาคท่องเที่ยวถูกกดดันหลังสหรัฐออกประกาศเตือนว่ามีความเป็นไปได้ที่ยุโรปจะเป็นเป้าหมายก่อการร้ายในช่วงฤดูร้อนนี้ (Reuters)
     การผลิตและบริการในยูโรโซนยังคงชลอตัวในเดือน พ.ค. ตัวเลข Markit’s Eurozone final composite PMI ลดลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อเดือน พ.ค. มาอยู่ที่ 51.5 ไม่เปลี่ยนแปลงจากประมาณการครั้งแรกที่ 51.7 ในเดือน เม.ษ. (Reuters)
      ภาคการผลิตเยอรมันขยายตัวเร็วสุดในรอบ 4 เดือนในเดือน พ.ค. จากตัวเลข Markit’s Germany manufacturing PMI อยู่ที่ 52.1 ในเดือน พ.ค. สูงสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. และเพิ่มขึ้นจาก 51.8 ในเดือน เม.ษ. อย่างไรก็ตาม ตัวเลขยังต่ำกว่าการประมาณการในเบื้องต้นที่ 52.4 (Reuters)
ECB ถูกคาดหวังเป็นวงกว้างว่าจะยังคงนโยบายการเงินเช่นเดิม ในการประชุมนโยบายการเงินหลังวันนี้ (Reuters)
เอเชีย :

     ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ จะมีอิทธิพลต่อการประชุมสุดยอดด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียที่จะจัดขึ้นที่สิงคโปร์ ในวันศุกร์นี้ เป็นการเผยให้เห็นการแข่งขันระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่นำไปสู่การพิจารณาคดีตามกฎหมาย โดยอนุญาโตตุลาการถาวร ในกรุงเฮก ในกรณีพิพาทที่นำโดยฟิลิปปินส์ มะนิลากำลังแข่งกับปักกิ่งในการเรียกร้องพื้นที่ทางทะเล ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีสหรัฐฯ จะพยายามที่จะโน้มน้าวให้ประเทศในเอเชียที่สนับสนุนมะนิลา ในขณะที่ประเทศจีน ปฏิเสธอำนาจของศาลที่พยายามจะโน้มน้าวประเทศต่าง ๆ โดยละเว้นความเป็นกลาง ขณะที่นายกรัฐมนตรีของไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเปิดปราศรัยในงานนี้ และอาจจะถูกพิจารณาอย่างใกล้ชิดสำหรับยุทธศาสตร์การวางตัวของประเทศไทย (Reuters)
     ตัวเลข PMI ของจีน ออกมาผสมผสาน แสดงให้เห็นการเจริญเติบโตไม่มาก จากการแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัว PMI อย่างเป็นทางการของจีนในเดือนพฤษภาคมที่ไม่เปลี่ยนแปลง มาตั้งแต่เดือนเมษายน ที่ 50.1 เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ที่ 50.0อย่างไรก็ตาม PMI ภาคการผลิต Caixin ในเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 49.2 น้อยกว่าคาดการณ์ที่ 49.3 และน้อยกว่า 49.4 ในเดือนเมษายน หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 ชี้ให้เห็นว่าจีนซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลกกำลังดิ้นรนที่จะฟื้น (Reuters)
     นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Shinzo Abe ประกาศเมื่อวันพุธว่าตัดสินใจจะชะลอการขึ้นภาษีการขายออกไปสองปีครึ่ง โดยจะระงับแผนเก็บเข้าลิ้นชักไว้ก่อน เนื่องจากยังมีสัญญาณความอ่อนแอของเติบโตในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งการตัดสินใจแบบนี้อาจจะช่วยให้ Shinzo Abe ชนะคะแนนในการเลือกตั้งสภาสูง ในวันที่ 10 กรกฏาคม แต่ก็อาจจะยังมีความสงสัยเกี่ยวกับแผนการลดหนี้สาธารณะขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น (Reuters)


สินค้าโภคภัณฑ์ :

    ราคาน้ำมันในวันพุธปรับตัวลดลง แต่ก็ฟื้นจากระดับแย่สุดหลังแหล่งข่าวโอเปคกล่าวว่าโอเปคน่าจะพิจารณาคุมกำลังการผลิตในการประชุมวันพฤหัสที่เวียนนา ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 35 เซนต์ ปิดที่ 48.93 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลง 17 เซนต์ (-0.34%) ปิดที่ 49.72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล WTI ลดลง 1เซนต์ ปิดที่ 48.19 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังจากขึ้นไปถึง 48.95 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเทียบเท่าราคาในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2558 (Reuters)
ราคาทองคำกลับลดลงในวันพุธ หลังจากค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าหักล้างที่เคยอ่อนค่าไปตามตัวเลขการผลิตและหุ้นที่ฟื้นมาจากจุดต่ำสุด ขณะที่ตลาดก็พยายามประเมินว่า ราคาทองคำตลาดจรลดลง 0.4% ไปปิดที่ 1,210.31 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองร่วงไปแล้ว 6% ใน พ.ค. เป็นการลดลงมากสุดในรอบ 6 เดือน (Reuters)

Thailand Research Department
  Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
  Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
  Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 02 680 5077
  Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
  Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
  Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!