WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET lndex: กังวลที่จุดสูงสุดเดิม 1430-1432
  SET lndex: 1424.21 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวต้านสำคัญที่ระดับ 1430 จุดก่อนที่จะอ่อนตัวลงจากการปรับตัวลดลงจากแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน และสื่อสาร อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาแรงซื้อหุ้นในกลุ่มธนาคารที่ยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงทาให้ แนวโน้มหลักยังมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่ทะลุผ่าน 1432 จุดขึ้นไปได้ และมีแนวต้านถัดไปที่ 1455-1460 จุด แต่ความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1420 จุดลงไปทดสอบระดับ 1400 จุด อาจจะมาจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน
  แนวต้าน : 1428 และ 1430
  แนวรับ : 1422 และ 1420**

SCB = 136 / 138, PTTEP = 77.00 / 78.00, lVL = 33.50 / 34.50, TKN = 14.60 / 15.00, AAV = 6.30 / 6.40

Ananda Development (ANAN TB; THB 3.68) - ซื้อ
  แนวต้าน : 3.80 และ 3.90 / แนวต้านสำคัญ 4.00
  แนวรับ : 3.68 และ 3.64
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
  แนะนำซื้อ ANAN โดยมีแนวรับที่ 3.68 และ 3.64 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.80 และ 3.90 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.56 ลงไป

Bumrungrad Hospital (BH TB; THB 194.00) - ซื้อ
  แนวต้าน : 200 และ 205
  แนวรับ : 194 และ 193
  ราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไร แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง หลังจากเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคที่ค่อนข้างแข็งแกร่งทะลุผ่านแนวโน้มขาลงในระยะสั้นขึ้นมาได้ ทำแนวโน้มหลักยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวลดลงหลังกทดสอบระดับ 50
  แนะนำซื้อ BH โดยมีแนวรับที่ 194 และ 193 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 200 และ 205 เป็นจุดขายทำกำไร
  ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 191 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 184 และ 180

SET50 Index Futures
  S50M16 ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 910 ลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 908 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในระยะสั้นขึ้นมาได้ ซึ่งเรายังคงคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 920 และ 940 แต่ถ้าปรับตัวลดงหลุดระดับ 908 ลงไป ควร STOP LOSS สถานะ Long เปลี่ยนเป็น Open Short
  แนวต้าน : 910 และ 914
  แนวรับ : 908** และ 905
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน S50M16 เอาไว้ที่แนวรับ 910-912 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 930 และ 940
  STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50M16 ปรับตัวลดลงหลุด 908 ลงไป

JASM16
  เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณแนวต้านสำคัญ 4.70 หลังจากพยายามปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านขึ้นไป แต่เราคาดว่า น่าจะเป็นแนวต้านสำคัญของกรอบแนวโน้มขาขึ้น และมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ระดับ 4.50 และ 4.30 บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน จึงแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะขายสถานะ Long ออกมาก่อน
  แนวต้าน : 4.67 และ 4.70
  แนวรับ : 4.60 และ 4.50
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ขายทำกำไรสถานะ Long ใน JASM16 ที่แนวต้าน 4.67-4.70 เพื่อเปลี่ยนเป็นสถานะ Short โดยมีแนวรับที่ 4.50 และ 4.30
  STOP LOSS สถานะ Short ถ้า JASM16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 4.80 กลับขึ้นไป

TMBM16
  ฟื้นตัวหลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 20 วัน ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2.40 และ 2.50 และมีแนวรับสำคัญ 2.28 ถ้าหลุดจะมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 2.00 อีกครั้ง
  แนวต้าน : 2.40 และ 2.44
  แนวรับ : 2.30 และ 2.28
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน TMBM16 ที่แนวรับ 2.28-2.30 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.40 และ 2.50
  STOP LOSS สถานะ Long ถ้า TMBM16 ปรับตัวลดลงหลุด 2.27 ลงไป

Analysts :
Teerasak Tamavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET...ไร้ปัจจัยหนุน
  หลังการทำ MSCI rebalancing พบว่าหุ้นในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี ค้าปลีก กลับมีแรงขายออกมาค่อนข้างมาก หลังราคาหุ้นเหล่านี้ปรับตัวขึ้นมาอย่างมากนับตั้งแต่วันประกาศในวันที่ 6 พ.ค. ส่วนกลุ่มที่กลับมาค้ำตลาดและมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์และสื่อสาร ซึ่งน่าจะมาจาก ราคาหุ้นปรับตัวลงไปลึกและการ Cover short คืนของนักลงทุนต่างชาติ สภาพที่มีแรงขายหุ้นพลังงาน ปิโตรเคมี ค้าปลีก แต่มีแรงซื้อ สื่อสารและธนาคาร เข้ามา ส่งผลให้ดัชนี SET แกว่งตัวในกรอบไม่กว้าง
  ดัชนี SET พยายามดีดตัวขึ้นมาใกล้ที่ 1430+/- จุด แต่ก็ยังหาประเด็นในการผ่านขึ้นไปไม่ได้ เนื่องจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่พอมีศักยภาพในการนำขึ้นอย่าง พลังงานและปิโตรเคมี กลับมีแรงขายหุ้นออกมา จากการที่ราคาน้ำมันไม่สามารถผ่าน 50 ดอลลาร์/บาร์เรลได้ ส่วนแรงซื้อหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์และสื่อสาร พอที่จะหนุนตลาดให้ขึ้นแทนพลังงานได้ แต่การซื้อเป็นเพียงการ Cover short ช่วงสั้นเท่านั้น ดังนั้นยังต้องรอให้ราคาน้ำมันขึ้นทะลุยืนเหนือ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยประเด็นที่นักลงทุนจับตามอง คือ การประชุมกลุ่ม OPEC ในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตามหากมาดูมุมมองของนักวิเคาระห์ผ่านราคาน้ำมันเบรนท์ พบว่า นักวิเคราะห์มองราคาน้ำมันเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่แค่ 43.6 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 42.3 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ โดยนักวิเคราะห์มองราคาน้ำมันที่ขึ้นมาในตอนนี้เป็นผลจาก Supply disruption ในแคนาดา ไนจีเรีย ลิเบียและเวเนซูเอลล่า ซึ่งมีผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันหายไปประมาณ 4 ล้านบารเรล์/บาร์เรล
  ปัจจัยหนุนดัชนี SET ในตอนนี้ คือทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกยังไปได้ดี ราคาน้ำมันทรงตัวใกล้ 50 ดอลลาร์ต่อบารเรล์และสภาพคล่องภายในสูง ส่วนประเด็นที่เริ่มกดดันตลาดที่สำคัญที่สุด คือ ตลาดหุ้นไทยแพง โดย ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าขึ้นไปเล่นที่เกือบจุดสูงสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนล่าสุดออกมาในเชิงชะลอตัว หลังหมดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เรามองว่ากรอบการขึ้นของดัชนี SET ยังไปไม่ได้ไกล คืออยู่ที่ประมาณ 1430+/- จุด โดยนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมีและอาหาร ปรับตัวขึ้นมาถึง 28-20% ส่วนธนาคารพาณิชย์ 10% พอๆ กับดัชนี SET ขณะที่สื่อสารประมาณ 8% โดยสรุปกลุ่มหลักๆ ดีดตัวขึ้นมาหมดแล้ว
  ทิศทางดัชนี SET ในอาทิตย์นี้เมื่อขึ้นไปแตะ 1430+/- จุด น่าจะเริ่มมีแรงขายหุ้นออกมา หลังมองตลาดอาจจะได้รับผลกระทบจากความกังวลทิศทางดอกเบี้ยในสหรัฐและการลงประชามติจะอยู่หรือไปของอังกฤษ ส่วนมุมมองของบรรดากองทุนทั่วโลกในเดือน พ.ค. ปรากฏว่าบรรดากองทุนได้ลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นลง เพิ่มพันธบัตรและถือเงินสดเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นความกังวลของตลาดต่อ 2 ประเด็นข้างต้น
  วันนี้ มองดัชนี SET ค่อยๆ ซึมตัวลงมา ตามตลาดหุ้นต่างประเทศและราคาน้ำมันปรับตัวลงในเชิงลบ นอกนั้นเป็นผลจากตลาดหุ้นไทยขึ้นไปเล่นที่ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าใกล้จุดสูงสุดที่ 14.3 เท่า วันนี้มองแนวต้านที่ 1428-1432 จุด ส่วนแนวรับคือ 1420-1415 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร AAV BTS และ INTUCH

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

Morning Market Summary...
  SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,424.21 จุด ลดลง 0.07 จุด (-0.00%) มูลค่าการซื้อขาย 21,322.35 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่มาหนุน ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่แกว่งลง ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ และการประชุมโอเปค-ECB (2 มิ.ย.)

Afternoon Perspective...
  แนวโน้มตลาดบ่าย คาดผันผวนในกรอบ หลัง SET ไม่ผ่าน 1430 จุด ระวังแรงขายปิด gap บริเวณ1412 หากดัชนีหลุด 1420 จุด จับตาทิศทางราคาน้ำมัน หากปรับตัวลง อาจกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน

Technical Pick (PM) & Cash Balance...
  Ananda Development (ANAN TB; THB 3.68) - ซื้อ
  Bumrungrad Hospital (BH TB; THB 194.00) - ซื้อ
  Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : SOLAR, AJ*, TKN* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]

 

 

loading...

 

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!