- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 26 May 2016 17:55
- Hits: 376
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
กลับไปเทรดเหนือ 1,400 จุด
KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ขึ้นต่อ ไปเทรดเหนือระดับจิตวิทยา 1,400 (วานนี้ขึ้นแรงกว่าคาด) หุ้นใหญ่โดยเฉพาะหุ้นพลังงานและปิโตรฯ ยังหนุนดัชนีฯ หลังราคาน้ำมัน WTi ขึ้นต่อใกล้ 50 เหรียญฯ ตามสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ลดลง 4.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว (ตลาดคาดลด 2.5 ล้าน) ขณะที่จิตวิทยาในฝั่งยุโรปแข็งแกร่งเช่นกันหลัง รมว.คลังยุโรปและ IMF อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้กรีซแล้ว เบิกจ่ายต้น มิ.ย. และน่าจะทำให้ปีนี้ตลาดไม่น่าจะกังวลต่อประเด็นของกรีซอีกในช่วงชำระหนี้ใน ก.ค. ด้านปัจจัยภายใน ความเชื่อมั่นของตลาดเพิ่มขึ้นในระยะสั้น สะท้อนจากเมื่อวานซึ่งตลาดหุ้นไทยไม่ตกใจต่อตัวเลขส่งออก เม.ย. ที่ลบมากกว่าคาดมาก ทั้งนี้ดัชนีฯ อาจชะลอความร้อนแรงช่วงปลายสัปดาห์ เพื่อรอถ้อยแถลงของประธานเฟดในคืนวันศุกร์ ซึ่งให้ความชัดเจนต่อตลาดเกี่ยวกับการตัดสินใจของเฟดในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย. ฝ่ายวิจัยยังคงกรอบดัชนีฯ ในไตรมาสสอง ที่ 1,370-1,440 อิงวิธี PE band
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร ASEFA, ANAN*
ASEFA (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) 1) จากการเข้าพบผู้บริหารวานนี้ i) Backlog สิ้นเดือน เม.ย. = 1.7 พันล้านบาท (+15% YoY) ii) โรงงานใหม่มีอัตราการใช้กำลังการผลิตระดับ 60-70% แล้ว iii) เบื้องต้นเราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 เป็นจุดต่ำสุดของปี และจะเร่งตัวขึ้นในไตรมาสที่เหลือของปีนี้ iv) เราคาดกำไรปีนี้ที่ 240 ล้านบาท (EPS 0.44 บาท) คิดเป็น PE 12.8 เท่า 2) โครงการย้ายสายไฟลงใต้ดิน และโครงการโซลาร์สหกรณ์ 280MW (ASEFA ทำตู้ระบบไฟฟ้า) เป็น Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการฯ 3) Valuation ไม่แพงด้วย PE 12.8 เท่า เทียบกับอัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ย 18% CAGR 2558 – 2561 4) รูปแบบราคามีโอกาสเป็น Double bottom หากไม่หลุดแนวรับที่ 5.50 บาท เบื้องต้นประเมินแนวต้านแรกที่ 5.90 บาท และถัดไปที่ 6.20 บาท (Stop loss 5.50 บาท) … วันนี้มีบทวิเคราะห์ Alert
ANAN* (เป้าพื้นฐาน 4.7 บาท) 1) ประเมินแนวต้านสั้นที่ 3.50 บาท หาก Breakout ผ่านได้ ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ±3.70 บาท, ±3.86 บาท ตามลำดับ แนวรับ 3.44 บาท (Stop loss 3.40 บาท) 2) Valuation น่าสนใจด้วย PE ปีนี้ 7.4 เท่า (ค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ ±8 เท่า) ขณะที่อัตราการเติบโตของกำไรสูงสุดในหุ้นกลุ่มอสังหาฯที่ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ (คาดกำไรปีนี้โต 28.7% YoY เทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มฯที่คาดจะเติบโตเพียง 1% YoY)
หุ้นในกระแส
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (SCB*, TISCO*) วันนี้ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ในภาพรวมอุตสาหกรรมฯเดือน เม.ย.ยังคงชะลอตัว (สินเชื่อทรงตัว MoM / ไม่โต YTD) อย่างไรก็ดีด้วยประเด็นเรื่องของ Valuation ที่น่าสนใจ (PE กลุ่ม 8.7 เท่า / PBV กลุ่ม 1.0 เท่า) นักลงทุนอาจพิจารณาทยอยสะสม แบงก์ใหญ่เลือก SCB* (แนวรับ ±125 บาท, แนวต้าน ±135 บาท) และแบงก์เล็ก TISCO* (แนวรับ ±42.5 บาท, แนวต้าน ±46.25 บาท)
กลุ่มส่งออก (KCE*, SVI*, SMT) จากประเด็นเรื่องโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในเดือน มิ.ย.นี้ จะทำให้ i) ค่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบดอกสหรัฐฯ และ ii) ส่งสัญญาณเรื่องเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีขึ้น คาดจะเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ ในเชิงพื้นฐานเลือก KCE* เป็นหุ้นเด่น และแนะนำ “เก็งกำไร” SMT ประเด็น XW 5:1 วันที่ 1 มิ.ย.นี้
กลุ่มการบริโภคในประเทศ (เน้นต่างจังหวัด) จากการเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนและปรากฏการณ์ El Nino จบลงแล้ว (อ้างอิงข้อมูล กรมอุตุฯประเทศออสเตรเลีย) ทำให้คาดว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยเฉพาะในต่างจังหวัด จะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น แนะนำ “สะสม” DCC, GLOBAL, DRT
กลุ่มพลังงานทดแทน เราแบ่งหุ้นออกเป็น 3 กลุ่มฯ ที่น่าสนใจในขณะนี้คือ i) หุ้นงานรับเหมาฯ เราประเมินด้วยปัจจัยเรื่องของขนาดรายได้ของบริษัทฯ (Size effect) PSTC จะเป็นหุ้นที่เด่นสุดในกลุ่มฯ และวางระบบไฟฟ้า เราประเมิน ASEFA ที่มี Market share 25-30% จะได้อานิสงส์จากโครงการนี้ ii) หุ้นที่เข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวล+ขยะ เราประเมินหุ้นที่เป็นม้ามืดอย่าง ECF (JV ร่วมกับ FPI) หากประมูลชนะจะมีแรงเก็งกำไร (Positive surprise) มากกว่าหุ้นที่คาดหวังในธุรกิจนี้อย่าง TPCH และโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมฯ ประเมิน BWG เด่นสุดในกลุ่มฯ และกลุ่มสุดท้าย iii) หุ้นที่ไปลงทุนในต่างประเทศ เลี่ยงความเสี่ยงเรื่องความล่าช้าของการประมูล FiT อย่าง IFEC จะเด่นสุดในกลุ่มฯ
หุ้นมีข่าว
(0) มูลค่าส่งออกเดือนเมษายนลดลง 8% มูลค่าส่งออกของไทยในเดือนเมษายนลดลง 8.0%YoY เหลือ 1.554 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่านำเข้าลดลง 14.9% YoY เหลือ 1.482 หมื่นล้านดอลลาร์ ดุลการค้าเกินดุล 721 ล้านดอลลาร์ (กระทรวงพาณิชย์) เราไม่แปลกใจที่มูลค่าส่งออกลดลงเนื่องจากเดือนมีนาคมภาคธุรกิจเร่งผลิตและส่งออกมากก่อนปิดสงกรานต์ ทำให้การส่งออกหดตัวลงในหลายอุตสาหกรรมและประเทศคู่ค้า มูลค่าส่งออกจะลดลงจนถึงเดือนกรกฎาคมเนื่องจากฐานราคาน้ำมันดิบปี ก่อนสูงกว่าราคาน้ำมันดิบในปัจจุบัน การลดลงของมูลค่าส่งออกและนำเข้ายังเป็นปัจจัยมาจากทางด้านราคาเป็นหลัก แต่ถ้าพิจารณาทางด้านปริมาณ ปริมาณส่งออกสินค้าเกษตรกลับเพิ่มขึ้น กระทรวงพาณิชย์รายงงานว่าปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นมูลค่าส่งออก 4 เดือนแรก มูลค่าส่งออก 1.2% YoY แต่ถ้าเทียบเป็นเงินบาทมูลค่าส่งออกขยายตัว 8.0% YoY เรายังคงคาดว่ามูลค่าส่งออกปี 2559 ในรูปของเงินดอลลาร์ฯ ยังจะหดตัว 2%
(+) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง; รองนายกฯ สมคิด เร่งการเปิดประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม สีชมพูและสีเหลือง โดยขีดเส้นภายในเดือนมิ.ย.นี้ (ที่มา: คมชัดลึก) เราประเมินรถไฟฟ้าสายสีส้มน่าจะเป็นเพียงเส้นทางเดียวที่สามารถเปิดประมูลได้ในเดือนมิ.ย. 59 เนื่องจากความพร้อมของแบบและผ่านการทำ EIA แล้ว ขณะที่เส้นทางสายสีชมพูและเหลืองยังอยู่ระหว่างการปรับรายละเอียดปลีกย่อยในเรื่องการประมูล อย่าไรก็ตาม การประมูลสายสีส้มสายเดียว ก็เพียงพอที่จะหนุนภาพรวมของกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากมีขนาดการลงทุนที่สูงถึง 1.1 แสนล้านบาท เรายังคงน้ำหนัก “มากกว่าตลาด” และเลือก CK* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม ราคาเป้าหมาย 36.50 บาท
(+) บอร์ด AOT* อนุมัติแผนขยายสนามบินเชียงใหม่ในช่วง 15 ปีข้างหน้า (บางกอกโพสต์) เราเห็นว่า ข่าวดังกล่าวเป็น catalyst บวกต่อ AOT ระยะกลาง ทั้งนี้ สนามบินเชียงใหม่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ที่ระดับ 8 ล้านคน ขณะที่จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการสนามบินเชียงใหม่ในปี 2558 อยู่ที่ระดับ 8.7 ล้านคน อีกทั้งยังมีการคาดการณ์ถึงจำนวนผู้โดยสารที่จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น สนามบินเชียงใหม่จึงต้องมีการขยาย โดยมีเป้าหมายการรองรับผู้โดยสารที่ระดับ 18-20 ล้านคนในปี 2030 เรายังคงแนะนำถือ โดยมีราคาเป้าหมายเท่ากับ 409 บาท
(+ SAT, AH) ยอดผลิตรถ เม.ย.พรวด (ข่าวสด) นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงภาวะตลาดรถยนต์ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาว่า ยอดผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศขยายตัว 31.63% จากช่วงเดียวกับปีก่อนเป็น 57,574 คัน
(+ GOLD) โกลด์ควงทีซีซีผุดบิ๊กมิกซ์ยูสมูลค่า 8.5 พันล. (ไทยโพสต์) นายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมลงทุนกับ บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยจัดตั้ง บริษัท เกษมทรัพย์ภักดี จำกัด ทุนจดทะเบียน 3,000 ล้านบาท บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 49% และทีซีซี แอสเซ็ทส์ ถือหุ้นสัดส่วน 51% ซึ่งบริษัทจะเป็นผู้บริหารและพัฒนาโครงการเอง
(+) JASIFทางโล่งแน่นอน แจสถูกปรับไม่กระทบ (ข่าวหุ้น) JASIF หรือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน ไม่ได้รับผลกระทบจาก JAS ถูกปรับ หลังกสทช.สรุปตัวเลขค่าเสียหายเบื้องต้นกว่า 140 ล้านบาท โบรกฯ แนะรีบซื้อ JASIF ช่วงราคาต่ำ รับปันผล 10.50%
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
IFEC (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท ... มีโอกาสปรับขึ้น) ราคาหุ้นฟื้นตัวที่แนวรับหลัก ประเมินแนวรับ 6.0 บาท แนวต้านเทรนไลน์ 6.35 บาท และหากยืนเหนือ 6.70 บาทได้ ประเมินจะเป็นการยืนยันการฟื้นตัวของราคา ... ทยอยซื้อพลังงานทดแทนในต่างประเทศ (ล่าสุดการซื้อโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่น ±100MW คืบหน้าแล้ว 90% ข่าวจากหุ้นอินไซด์รายวัน) และรับรู้กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ รร ดาราเทวี
AAV* (เป้า Consensus 6.68 บาท) ราคาฟื้นตัวที่แนวรับ ±5.9 บาท ตามคาด มีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ ±6.30 บาท แนะนำ “สะสม” โดยประเมินกรอบราคาในระยะกลางไว้ที่ 5.60 – 6.75 บาท ... ในเชิงพื้นฐานประเมิน Earnings momentum ในไตรมาส 2/59 ยังโต YoY จาก Load factor เฉลี่ยที่ 83% เทียบกับ 79% ในไตรมาส 2/58
SMT (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 7.82 บาท) ประเมินแนวรับ 6.5 บาท แนวต้าน 7.0 บาท ... กำหนด XW วันที่ 1 มิ.ย. นี้แจกวอร์แรนท์ฟรี 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 วอร์แรนท์ + ธุรกิจใหม่ประกอบโซลาร์เซลล์ คาดเฟสแรก (กำลังการผลิต 60MW) เริ่มรับรู้รายได้ใน 2H59
KCE* (เป้าพื้นฐาน 90 บาท) วานนี้ Breakout กรอบแนวต้าน 79 บาทขึ้นมาได้ สำหรับนักลงทุนที่เข้าซื้อตามที่เราแนะนำก่อนหน้า แนะนำ “Let profit run” รอขายแนวต้าน ±82 บาท ... คาด Fed ขึ้นดอกเบี้ย ส่งสัญญาณค่าเงินบาทอ่อน + เศรษฐกิจโลกฟื้น
BWG (เป้า Consensus 2.62 บาท) ประเมินแนวต้านแรกที่ 1.85 บาท หากผ่านได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2.0 และ ±2.1 บาท ตามลำดับ แนวรับ 1.76 บาท ... คาด COD โรงไฟฟ้าขยะ (อุตสาหกรรมฯ) เฟสแรกกำลังการผลิต 9MW ปลายไตรมาส 3/59 ถึง ต้นไตรมาส 4/59 + คาด กกพ เปิดใบอนุญาตโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมเพิ่มเติม หลังการประมูล FiT โรงไฟฟ้าชีวมวลเดือน มิ.ย.นี้
COM7 (เป้าเฉลี่ย Consensus 8.0 บาท, สูงสุด Consensus 9.0 บาท) หากวันนี้ยืนเหนือ 8.05 บาทได้ จะเกิดสัญญาณซื้อ แนะนำ “เก็งกำไรตาม” ประเมินเป้าหมายระยะกลางที่ ±8.50 บาท และประเมินแนวรับ 7.8 บาท (ค่าเฉลี่ย 10 วัน แบบ EMA) … ปลายปีนี้จะมีทั้ง iPhone 7 และ MacBook ใหม่ + คาดไตรมาส 2/59 เป็นจุดเริ่มต้นการโตแบบ Inorganic Growth
TKS (เป้า Consensus 10.8 บาท) ประเมินแนวรับ 8.40 บาท แนะนำ “สะสม” … ธีมเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มเป็นระบบชิปการ์ด และพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
EGCO* แนะนำ “ถือ” (ปรับลง) เป้าพื้นฐาน 202 บาท โครงการ NT1 ได้เซ็น tariff MOU ไปแล้วและน่าจะได้ PPA จากกฟผ. ในเร็วๆนี้ (เราคาดว่าภายใน 1-2 เดือน) ทำให้มี upside ในแง่ของผลตอบแทนของโครงการเพิ่มขึ้น แต่ถึงแม้ว่าฝ่ายวิจัยฯจะรวมประเด็นนี้ไว้ในประมาณการฯใหม่ และปรับราคาเป้าหมายขึ้น แต่ upside จากเป้าหมายใหม่เหลือเพียง +7.2% เท่านั้น จึงปรับลดคำแนะนำลงเป็น “ถือ”
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ค่าเฉลี่ยสี่เส้น 4-9-18-30 วันสำคัญที่ 1397 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1397 จุด อาจสิ้นสุดแรงผลักขึ้นและกดลงต่อเนื่อง แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1397 จุดนั้น อาจสะสมแรงผลักราคาให้ปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง
แนวรับวันนี้: 1396/1386 แนวต้านวันนี้: 1401/1412
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]