WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน



แม้ว่าส่วนที่ซื้อแล้วยังถือต่อไว้ได้ แต่ถ้าจะซื้อใหม่ยังน่ารอช่วงอ่อนตัว!!
  กลยุทธ์ : แม้ SET ยังมีจังหวะรีบาวด์เป็นบวกต่อเนื่องได้อีก แต่คาดว่าเป็นการสลับบวก หลังจากช่วงก่อนหน้าดัชนีปรับตัวลงมาค่อนข้างเร็วพอควร อย่างไรก็ตามยังมีความกังวลในประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และการตัดสินใจออกจาก EU ของอังกฤษ ทำให้ FSS คาดว่ากรอบบวกจะยังค่อนข้างจำกัด และเสี่ยงต่อการที่จะปรับตัวลงได้อีก ดังนั้นเรายังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงลบต่อ แต่ส่วนที่ซื้อไว้แล้วแนะนำให้เน้นถือต่อดีกว่า


  หุ้นเด่นทางเทคนิค : LPH, MONO, ROBINS(short)
  แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET ยังขยับขึ้นต่อเนื่องได้ดี โดยเฉพาะภาคบ่าย ถึงแม้ว่าในช่วงเช้าจะยังมีแรงขายช่วงบวกกดดันให้ดัชนีมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนอยู่ในกรอบบวกที่ค่อนข้างแคบก็ตาม โดยมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มแบงก์และ ICT เข้ามาช่วยหนุน หลังจากก่อนหน้านี้หุ้นทั้ง 2 กลุ่มนี้ยังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานก็แกว่งทรงตัวได้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงฟื้นตัวขึ้นอีก เพื่อรอลุ้นตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐ ที่จะประกาศในช่วงค่ำ ซึ่ง EIA เปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาด ทำให้ราคาน้ำมันขยับบวกเกือบ 2% หนุนตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่ให้ปิดบวกได้ดี รวมทั้งยังมีปัจจัยบวกจากข่าวที่ IMF และรมว.คลังยูโรโซน ได้อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้กรีซด้วย อย่างไรก็ตามแม้ว่าตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะเปิดบวกได้ต่อ แต่ก็มีกรอบจำกัดมากขึ้น และเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรกดดันให้หลายแห่งยังผันผวน ซึ่ง FSS คาดว่านักลงทุนยังรอติดตามแนวโน้มเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ(14-15 มิ.ย.) และแนวทางการพิจารณาถอนตัวจาก EU ของอังกฤษอยู่(ผลโหวต Brexit 23 มิ.ย.) ทำให้กรอบบวกของ SET ช่วงนี้น่าจะยังค่อนข้างจำกัด โดยยังต้องระวังแรงขายทำกำไรกดดันให้ตลาดแกว่งตัวผันผวนและย้อนลบอยู่


  แนวรับ 1395-1390, 1386-1376 จุด
  แนวต้าน 1399-1401 , 1403-1406 จุด
  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$295 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$134 ล้าน ไต้หวัน US$105.5 ล้าน ส่วนไทยเม็ดเงินไหลเข้า US$10.2 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนในวันนี้มีทิศทางกลับมาไหลเข้า กรีซได้รับอนุมัติเงินกู้งวดใหม่จาก IMF เพื่อนำไปจ่ายคืนให้กับเจ้าหนี้ในกลุ่มยูโรโซน สำหรับความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐคลายไปบ้างระดับหนึ่งหลังจากสหรัฐได้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (+) คลายกังวลเรื่องกรีซ แต่นักลงทุนยังรอคำแถลงเยลเลน รมต.คลังยูโรโซนและ IMF อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้กรีซ 1.03 หมื่นล้านยูโร ซึ่งจะจัดสรรล็อตแรก 7.5 พันล้านยูโรต้น มิ.ย. นี้ หลังสภากรีซผ่านมาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่แล้ว ความกังวลกรีซที่ลดลงทำให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น (ดอลลาร์อ่อนชั่วคราว) แต่นักลงทุนยังรอคำแถลงของ Yellen เพื่อหาสัญญาณช่วงเวลาของการขึ้นดอกเบี้ย
  (+) ราคาน้ำมันบวก 2% หลังสต๊อคน้ำมันสหรัฐลดลง 4.2 ล้านบาร์เรล ลดลงมากที่สุดในรอบ 7 สัปดาห์ ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นช่วงนี้มาจากความกังวลเรื่อง Supply ที่อาจลดลลงทั้งจากเหตุการณ์ที่แคนนาดา ลิเบีย ไนจีเรีย ซึ่งกระทบ Supply 3-4 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามการประชุม OPEC 2 มิ.ย. เรื่องการลด/ไม่ลดการผลิต
  (-) ส่งออกเดือน เม.ย. แย่กว่าคาด -8% Y-Y, -19% M-M ฉุดให้ 4M16 -1.24% Y-Y เนื่องจากรถยนต์กลับมาหดตัวแรง และอานิสงส์จากการส่งออกทองคำหมดไป ตลาดหลักเช่นสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น และอาเซียน หดตัวลงหมด สอดคล้องกับ PMI ที่ชะลอแทบทั่วโลกในเดือน เม.ย.-พ.ค. อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมของการส่งออกจะหดตัว แต่สินค้าเกษตรหลายชนิดกลับทยอยปรับขึ้นแบบ M-M ได้ค่อนข้างดี เช่นน้ำตาล ถั่วเหลือง ยางพารา ไก่ หมู กุ้ง เป็นต้น แต่ราคาของหุ้นเหล่านี้ถูกเก็งกำไรจนขึ้นมาใกล้เต็มหรือเกินมูลค่าไปแล้ว เหลือเพียง GFPT ที่ราคา laggard และยังมี upside
  (+) GFPT ราคาหุ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา underperform ทั้ง CPF และ TFG อยู่ถึง 32% และ 46% ทั้งที่ได้รับประโยชน์จากราคาไก่ที่ปรับสูงขึ้นเหมือนกัน ปัจจุบันราคาไก่ยังอยู่ในระดับสูง 37-38 บาท/กก. และ Demand จากตลาดต่างประเทศยังฟื้นตัวได้ดี ซึ่งเป็นผลดีต่อทั้ง GFPT และบริษัทร่วมคือ GFN และ McKey ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PE เพียง 11.3 เท่า ถูกที่สุดในกลุ่มผู้ผลิตไก่ เรายังคงราคาพื้นฐานที่ 16 บาทและแนะนำซื้อ
  (+) ADVANC เป็นผู้เข้าประมูล 4G 900MHz เพียงรายเดียวในวันพรุ่งนี้ คาดการประมูลใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ราคาที่ ADVANC จะประมูลได้คือ 75,806 ล้านบาท แม้จะทำให้ค่าตัดจำหน่ายใบอนุญาต ดอกเบี้ยจ่าย และค่าเสื่อมราคาจากการลงทุนในโครงข่าย 4G แต่จะชดเชยได้บางส่วนจากค่าเสื่อมของโครงข่าย 2G ค่า Regulatory และค่าโรมมิ่งกับ DTAC ที่จะหายไป ราคาหุ้นตอบรับข่าวร้ายไปมากแล้ว แนะนำซื้อลงทุน จากเงินปันผลปีนี้ที่คาด 8.5-10 บาท/หุ้น คิดเป็น yield 5.5-6.5% ราคาพื้นฐาน 180 บาท
  (-) ROBINS เราแนะนำขายทำกำไรหลังราคาหุ้นปรับขึ้นมาอย่างโดดเด่น +37% YTD สูงที่สุดในกลุ่มค้าปลีก (หุ้นในกลุ่มปรับขึ้นเฉลี่ย +13% YTD) สะท้อนกำไรที่ดีใน 1Q16 และการเติบโตทั้งปีนี้ไปแล้ว ถึงแม้จะมีโอกาสที่เราจะปรับราคาพื้นฐานขึ้น แต่คาดว่าจะไม่เกิน 60 บาทจากปัจจุบันที่ให้ไว้ที่ 56 บาท ซึ่งก็ถือว่าราคาหุ้นปัจจุบันเต็มมูลค่า ราคาหุ้นที่แข็งแกร่งในช่วงนี้จึงน่าจะเป็นจังหวะดีในการขายทำกำไรก่อนจะผ่านพ้นช่วง Rebalance ของดัชนี MSCI ในวันที่ 31 พ.ค. นี้

  (+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกได้ต่อเนื่องนำโดยหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในปีนี้
  (+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกได้แรงหลัง IMF ได้อนุมัติเงินกู้รอบใหม่แก่กรีซ ขณะที่ราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นอีกปัจจัยหนุน
  (+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใส
  (0) ค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยแ แต่โดยรวมยังเป็นการแกว่งตัวออกข้างในกรอบ 35.60-35.75 บาท/ดอลลาร์
  (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.94 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 49.56 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยว่าสต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด
  ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลงต่ออีก 5.40 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,223.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์จากตลาดหุ้นทั่วโลกที่พุ่งขึ้น รวมถึงยังคงได้รับแรงกดดันจากเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่คาดว่าอาจเกิดขึ้นในเดือน มิ.ย. นี้

Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch

 

 

loading...

 

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!