- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 19 May 2016 18:22
- Hits: 557
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ซึมตัวลงทดสอบด่าน 1,400 จุด ด้วยแรงขายทำกำไร ADVANC หลังยื่นซองประมูลคลื่น 900MHz ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน เพื่อปิดความเสี่ยงกับรายงานการประชุมเฟดคืนนี้ ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 6.06 จุด มาอยู่ที่ 1,400.50 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 43,122 ล้านบาท
ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย 903 ล้านบาท แต่กลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 345 สัญญา และคงการขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 5 อีก 2,190-ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
รายงานการประชุมเฟดในปลายเดือนเม.ย. ส่งสัญญาณอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.
ติดตามรายงานการประชุม ECB
ช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
ตัวเลขการส่งออก - นำเข้าเดือนเม.ย.ของไทย
การประชุมครม. กับโครงการรถไฟรางคู่ 6 เส้นทาง
การประมูลคลื่น 900MHz วันที่ 27 พ.ค.
TRUE-T1 ซื้อขายวันสุดท้ายวันที่ 23 พ.ค.
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงบวก (วันที่ 4)
การซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์สำหรับตลาดหุ้นไทย เราประเมินว่า SET INDEX จะยังแกว่งในกรอบแคบต่อเนื่อง 1,390-1,410 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่น่าจะไม่อยากเพิ่มสถานะในช่วงนี้ กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัว จากทิศทางค่าเงินดอลลาร์ที่น่าจะกลับมาแข็งค่าอีกสักพัก
เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามการปรับตัวลงแรงของตลาดตราสารหนี้ไทย ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 อีก 4.68bps ปิดที่ 2.01% วานนี้ อาจเห็นการโยกเงินเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยได้เช่นกัน เพราะส่วนต่างระหว่าง Earnings Gap - 10Yr Thai Bond Yield แคบลงจาก 4.97% ช่วง 2 เดือนก่อนหน้า เป็น 4.66%
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า เราให้น้ำหนักกับตัวเลขการส่งออกเดือนเม.ย.ของไทย หากเป็นบวกเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ยิ่งเป็นการยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 3.0% และสร้างโอกาสที่ตลาดจะมีการปรับประมาณการ GDP ปีนี้ขึ้นได้เช่นกัน
รายงานการประชุมเฟดเดือนเม.ย. ส่งสัญญาฯอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. ส่งผลให้ Bloomberg consensus ล่าสุดประเมินโอกาสเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.เพิ่มเป็น 32% จากวันก่อนหน้า 12% เท่านั้น
Stock Pick of The Day
1. เก็งกำไร BBL: ราคาปิด 154.00 บาท ราคาเหมาะสม 178 บาท
a) เฟดส่งสัญญาณอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. ย่อมทำให้แรงกดดันต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของกนง.ในช่วงที่เหลือของปีนี้คลายตัวลง เป็นบวกต่อหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ในส่วนของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) จะทรงตัวถึงขยับขึ้นได้
b) ประเมิน NPLs ของ BBL ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ เพราะฐานลูกค้าหลักของ BBL เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่ SMEs เรามองว่าผลการดำเนินงาน BBL จะฟื้นตัวเป็นลำดับ ล้อไปกับภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ
c) QTD ใน 2Q59 กลุ่มธนาคารปรับตัวลง 8.62% เทียบกับ SET INDEX ลดลงเพียง 0.51% โดย BBL ปรับตัวลงแรงถึง 14.44% สูงสุดในบรรดาธนาคารขนาดใหญ่ ขณะที่ P/BV59 ต่ำเพียง 0.76x
2. สะสม BEM: ราคาปิด 6.45 บาท ราคาเหมาะสม 6.50 บาท
a) เรามีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงาน BEM ในช่วง 3 ไตรมาสข้างหน้า โดย 2Q59 คาดว่าจะเติบโต qoq จากผลของการ Refinance เงินกู้ได้เต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก
b) ขณะที่ 3Q59 จะเริ่มรับรู้รายได้จากการบริหารจัดการรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่จะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 ส.ค. รวมถึงการเปิดให้บริการทางด่วนเส้นศรีรัช เฟสที่ 2 ในเดือนก.ย. และผลของการเปิดให้บริการทั้ง 2 ส่วนจะสะท้อนเต็มไตรมาสใน 4Q59
c) นอกจากนี้ประเด็นที่จะเป็น upside ต่อประมาณการของเรา และตลาดคือ การเจรจาผู้เดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่ต้องสรุปภายในสิ้นเดือนพ.ค.หรือต้นเดือนมิ.ย.เป็นอย่างช้า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิต่อเนื่อง แต่ลดลงเหลือ US$18 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงเลือกลงทุนเป็นรายตัวมากกว่า ให้ภาพตลาดรวม
นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 903 ล้านบาท ส่งผลให้ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิ 12,311 ล้านบาทช่วง YTD
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิอีกครั้ง 345 สัญญา น่าจะเป็นการปิดสถานะ Long อีกครั้ง ส่งผลให้ยอดสุทธิ QTD สถานะ Long สุทธิลดลงเหลือ 225 สัญญา เมื่อ S50M16 กลับมาปิดสูงกว่า SET50 Index อีกครั้ง 0.57 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 0.37 จุด
และนักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ เป็นวันที่ 5 อีก 2,190 ล้านบาท รวม 5 วันทำการขายสุทธิ 20,865 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาพันธบัตรไทยลดลงเป็นวันที่ 4 และลดลงแรงต่อเนื่อง โดยพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 อีก 4.68bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้นถึง 11.13bps ปิดที่ 2.005%
Short-Selling วานนี้
ขยับขึ้นเป็นวันที่ 2 เป็น 1,057 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 823 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 ยังคงเน้นกลุ่มค้าปลีก - พลังงาน และขาย ICT เหมือนวันก่อนหน้า
การซื้อขายผ่าน NVDR คงการซื้อสุทธิ 899 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 603 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิ 3,210 ล้านบาท ทั้งนี้ NVDR ยังคงเลือกลดน้ำหนักกลุ่ม ICT ต่อเนื่อง และทยอยสะสมหุ้นหลักในกลุ่มพลังงาน - ค้าปลีก เช่นเดียวกับวันก่อนหน้า
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
รายงานการประชุมเฟดเดือนเม.ย. ส่งสัญญาณอาจขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.
หากเศรษฐกิจใน 2Q59 ดีขึ้นจาก 1Q59 รวมถึงอัตราเงินเฟ้อและภาวะการจ้างงาน
เป็นการส่งสัญญาณที่เฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์
อย่างไรก็ตาม ประธานเฟดบางท่านเท่านั้นที่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบัน จะทำให้อัตราเงินเฟ้อขยับขึ้นไปสู่เป้าหมาย 2.0% ได้ และกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวน้อยลง
ภาวะการจ้างงานที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะกลายเป็นปัจจัยที่สะท้อนถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดี และยังไม่มีท่าทีว่าจะปรับตัวลงด้วยเช่นกัน
ยุโรป
อัตราการว่างงานอังกฤษทรงตัว: ใน 1Q59 การว่างงานลดลง 2,000 ตำแหน่ง ทำให้อัตราการว่างงานทรงตัวที่ 5.1% สอดคล้องกับที่ Bloomberg consensus คาดการณ์ ขระที่การจ้างงานเพิ่มขึ้น 44,000 ตำแหน่ง ชะลอตัวจาก 4Q59 ที่ผ่านมา ส่วนค่าจ้างที่ไม่รวมโบนัสเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.1% ชะลอตัวจากค่าเฉลี่ย 3 เดือน สิ้นสุดเดือนก.พ.ที่เพิ่มขึ้น 2.2%
จีน
ราคาบ้านใน 70 เมืองหลักของจีนเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง: โดย 65 ใน 70 เมือง ราคาบ้านเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น yoy เทียบกับ เดือนมี.ค.ที่มีเพียง 62 เมืองเท่านั้น จำนวนเมืองที่เพิ่มขึ้นครั้งนี้สูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2556 มีเพียง 5 เมืองที่ราคาลดลง เทียบกับเดือนมี.ค.ที่มี 8 เมือง สะท้อนถึงมาตรการรัฐ ช่วยเร่งระบายอสังหาฯ ในเมืองขนาดเล็กไปได้ในระดับหนึ่ง พร้อมยืนยันให้มีการควบคุมตลาดบ้านในเมืองหลักอย่างเซี่ยงไฮ้ และเซินเจิน ซึ่งราคาบ้านเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น
ธนาคารกลางจีนดูดซับสภาพคล่องออกอีก 1 หมื่นล้านหยวน: วันที่ 18 พ.ค. ธนาคารกลางจีน ได้ดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบการเงินต่อเนื่องอีก 1 หมื่นล้านหยวน จากวันก่อนหน้าที่ดูดซับออกไปแล้ว 2 หมื่นล้านหยวน เพื่อเป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นต่อปริมาณเงินในระบบอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ
เอเชียแปซิฟิก
ปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของซาอุฯ ลดลงเป็นเดือนที่ 5: เดือนมี.ค. ระดับสต็อกน้ำมันดิบอยู่ที่ 296.7 ล้านบาร์เรล ลดลงจากเดือนก.พ.ที่ 305.6 ล้านบาร์เรล และจากระดับสูงสุดที่ 329.4 ล้านบาร์เรล ในเดือนต.ค. ทำให้ระดับดังกล่าวเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือน
ไทย
คลังมั่นใจ GDP ใน 2Q59 เติบโตเกิน 3%: ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจ 1Q59 ขยายตัว 3.2% yoy ดีกว่าที่คาด เนื่องจากการลงทุนภาครัฐเริ่มส่งผล ภาคเอกชนเริ่มมีความเชื่อมั่น และเมื่อ มาตรการระยะสั้น ปานกลาง ยาว รวมทั้งรัฐบาลเตรียมออกมาตรการดูแลบางส่วนเพิ่ม จึงคาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจ 2Q59 ขยายตัวเกิน 3% yoy นอกจากนี้ รัฐบาลยังเน้นช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อให้เข้าถึงแหล่งทุนเมื่อจดแจ้งกับกรมสรรพากรในการทำบัญชีเดียว
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530