- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 17 May 2016 18:28
- Hits: 1314
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ทิศทางตลาด
มีโอกาสปรับขึ้น? แต่คาดอยู่ในกรอบจำกัด ภายใต้ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน และคาดยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่อง จากความต้องการที่สูงขึ้น ขณะที่ปริมาณผลิตเริ่มลดลง ซึ่งคาดส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามคาดอยู่ระหว่างรอผลประชุมของเฟด (เมื่อ 26 – 27/4/59) เช้า พฤ. ตามเวลาไทย ว่าจะมีการส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ย?
ขณะที่ประเด็นในประเทศ คาดยังได้รับปัจจัยหนุนจาก Fund Flow หลังต่างชาติกลับเข้ามาซื้อสุทธิต่อเนื่อง อีกกว่า 570 ล้านบาท แนะติดตามหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ และการเพิ่มประมาณการ GDP ปี’59 ของสภาพัฒน์ จากเดิม 2.8 – 3.8% เป็น 3.0-3.5% หลัง 1Q/59 ขยายตัว 3.2% ดีกว่าคาด จากปัญหาภัยแล้งและรายได้เกษตรกรที่คาดดีขึ้นตามลำดับ และยังได้รับปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของภาครัฐ
อย่างไรก็ตามระวังแรงขายทำกำไร หลังหมดช่วงประกาศผลการดำเนินงาน – 1Q/59
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มการบินและสนามบิน เช่น AOT, BA, AAV
(2) กลุ่มพลังงาน PTT และ PTTEP จะมีแรงเก็งกำไรตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น
(3) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC, TPIPL
(4) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, ERW) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยล่าสุดสภาพัฒน์ฯ ปรับเพิ่มคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวปี’59 อยู่ที่ 33 ล้านคน จากเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6%
(5) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่อง จากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
(6) กลุ่มโรงกลั่น มีโอกาสรีบาวน์ หลังจากผลการดำเนินงาน 1Q/59 ออกมาดีกว่าคาด แนะจับตา IRPC, TOP และ SPRC
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA +175.39, NASDAQ +57.79, S&P +20.05, FTSE +12.90 และ CAC -7.71 ขณะที่ DAX ปิดทำการ เนื่องในวัน Whit Monday ภายหลังโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่าตลาดได้เข้าสู่ภาวะขาดแคลนน้ำมันเร็วกว่าที่คาดไว้ จากความต้องการที่สูงขึ้น ขณะที่การผลิตเริ่มชะลอตัวลง จากภาวะชะงักงันของการผลิตน้ำมันในไนจีเรีย เวเนซุเอลา สหรัฐ และจีนนั้น ส่งผลให้การผลิตน้ำมันลดลงอย่างมากนับแต่เดือนมี.ค. ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ ซึ่งส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ ยังไม่ดีมาก โดย (1) ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) – พ.ค. ติดลบ 9.0 ลดลงจาก 9.6 เมื่อเม.ย. และสวนทางกับที่คาดว่าจะอยู่ที่ 7.2 และ (2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน – พ.ค. ทรงตัวเป็นเดือนที่ 4 อยู่ที่ระดับ 58
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. +US$1.51 อยู่ที่ US$47.72 ต่อบาร์เรล หลังโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่าตลาดได้เข้าสู่ภาวะขาดแคลนน้ำมันเร็วกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้น ขณะที่การผลิตเริ่มชะลอตัวลง จากภาวะชะงักงันของการผลิตน้ำมันในไนจีเรีย เวเนซุเอลา สหรัฐ และจีนนั้น ส่งผลให้การผลิตน้ำมันลดลงอย่างมากนับแต่เดือนมี.ค. นอกจากนี้ยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI ในปีนี้ โดยคาดอยู่ที่ 45 ดอลลาร์ในช่วง 2Q/59 และ 50 ดอลลาร์ ในช่วง 2H/59 รวมถึงจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐฯ ล่าสุดลดลง 10 แท่น อยู่ที่ 318 แท่น
อย่างไรก็ตามยังอยู่ระหว่างการประชุมรอบใหม่ระหว่างกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปก และนอกกลุ่มโอเปก) ในเดือนมิ.ย. เพื่อหารือในประเด็นการตรึงกำลังการผลิต
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
21.25 1.8 3.4
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 48,213.30
สถาบัน 788.23
บัญชีหลักทรัพย์ 806.16
ต่างประเทศ 578.15
ในประเทศ -2,172.54
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.05 อยู่ที่ 1.75% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.36 อยู่ที่ 14.68
หุ้นแนะนำ : TWPC
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788