- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 16 May 2016 18:12
- Hits: 708
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET lndex: แนวรับสำคัญ 1385 แนวต้าน 1400
SET lndex: 1395.15 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านระดับ 1400 จุดขึ้นไปได้ในช่วงเปิดตลาด แต่ยังคงมีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมาต่อเนื่อง ทำให้ปรับตัวลดลงมาปิดต่ำกว่า 1400 จุด ในขณะที่แนวรับสำคัญของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1385 จุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทนิค โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1360 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และมีแนวต้านที่ 1400 จุด
แนวต้าน : 1400 และ 1404
แนวรับ : 1394 และ 1390
JAS = 4.54 / 4.60, lVL = 30.00 / 31.00, AOT = 390 / 394, BDMS = 23.20 / 23.50, CPALL = 48.00 / 48.50
TMB Bank (TMB TB; THB 2.24) - ซื้อ
แนวต้าน : 2.36 และ 2.44
แนวรับ : 2.24 และ 2.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง และจุดต่ำสุดเดิม ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นมาในระยะสั้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 50
แนะนำซื้อ TMB โดยมีแนวรับที่ 2.24 และ 2.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.36 และ 2.44 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.16 ลงไป
Sherwood Chemicals (SWC TB; THB 10.10) - ซื้อ
แนวต้าน : 10.80 และ 11.50
แนวรับ : 10.10 และ 10.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวลดลงไปสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ SWC โดยมีแนวรับที่ 10.10 และ 10.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 10.80 และ 11.50 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 10.00 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 9.70
SET50 Index Futures
S50M16 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 895 เข้าใกล้แนวรับสำคัญที่ระดับ 884 บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 875 และ 860 และมีแนวต้านที่ 890 เราแนะนำกลับเข้าไป Open Short ถ้าปรับตัวลดลงหลุดระดับ 884 ลงไป
แนวต้าน : 890 และ 894
แนวรับ : 886 และ 884**
คำแนะนำ : เราแนะนำให้รอกลับเข้าไป Open Short ใน S50M16 ถ้าปรับตัวลดลงหลุดระดับ 884 ลงไป เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 875 และ 870
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50M16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 890 ขึ้นไป
AAVM16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 6.35-6.40 หลังจากเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคทะลุผ่านระดับ 6.00 ขึ้นมาได้ ซึ่งเราคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 6.50 และ 6.70 แต่ถ้าปรับตัวลดลงหลุดระดับ 6.00 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 5.60-5.70
แนวต้าน : 6.30 และ 6.40
แนวรับ : 6.25 และ 6.20
คำแนะนำ : เราแนะนำให้ Open Long ใน AAVM16 ที่แนวรับ 6.15-6.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบ 6.50
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า AAVM16 ปรับตัวลดลงหลุด 5.95 ลงไป
JASM16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 4.33 ขึ้นไปเป็นสัญญาณในเชิงบวก และปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเข้าใกล้แนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 4.50-4.54 ในขณะที่โครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นมีแนวต้านสำคัญที่ 4.80 การปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 4.50 ขึ้นไป ควรเน้นเป็นจังหวะขายทำกำไรสถานะ Long
แนวต้าน : 4.50 และ 4.54
แนวรับ : 4.40 และ 4.36
คำแนะนำ : เราแนะนำให้เน้นขายทำกำไร Open Long ใน JASM16 ที่แนวต้าน 4.50 ขึ้นไป เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบ 4.80 จะเป็นจังหวะ Open Short
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า JASM16 ปรับลดลงหลุดระดับ 4.32 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tamavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET....หุ้นที่มีแนวโน้มถูกปรับน้ำหนักขึ้นและลงใน MSCl Thailand
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทาง MSCI ได้ประกาศน้ำหนักการลงทุนในดัชนี MSCI ทั่วโลก โดยในตลาดหุ้นไทยหรือ MSCI Thailand ที่มีอยู่ประมาณ 30 บริษัท หลายบริษัทมีแนวโน้มที่จะถูกปรับขึ้นและหลายบริษัทที่อาจถูกปรับลง โดยเราสังเกตจากราคาหุ้นหรือดัชนีกลุ่ม ยกตัวอย่าง เช่นกลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ใหญ่และสื่อสารใหญ่ น่าจะอยู่ในข่ายที่อาจถูกปรับน้ำหนักลงต่อ หลังภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้ายังต้องเผชิญกับแรงกดหลายด้านอย่างการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การเพิ่มขึ้นของตัวเลข NPL หรือแนวโน้มการประมูล 4G รอบใหม่ที่อาจส่งต่อสถานะเงินสดหรือการลดอัตราการจ่ายปันผล ดังนั้นใน 2 กลุ่มนี้จึงมีโอกาสที่จะถูกลดน้ำหนักลงต่อ
สำหรับกลุ่มที่มีโอกาสในการถูกปรับเพิ่มน้ำหนัก น่าจะเป็นกลุ่มที่ภาพอุตสากรรมค่อยๆ ฟื้นตัว อย่างกลุ่ม ปิโตรเคมี พลังงาน ค้าปลีก อาหาร ซึ่งดูได้จากทั้งราคาหุ้น กำไรใน Q1/16 และปริมาณการซื้อขายที่คึกคักอย่างมาก หากมาดูหุ้นในกลุ่มเหล่านี้ในดัชนี MSCI Thailand จะพบว่าน่าจะเป็น PTT PTTEP PTTGC IVL CPF TU HMpRO นอกนั้นคือ GLOW ส่วนหุ้นที่มีแนวโน้มถูกลดน้ำหนัก คือ BBL ADVANC SCB TRUE KTB นอกนั้นจะเป็นหุ้นบันเทิงอย่าง BEC รวมทั้งชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์ อย่าง DELTA
แม้เราจะมองว่าหุ้นในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี จะได้รับการปรับน้ำหนักขึ้น แต่ดูเหมือนราคาหุ้นจะดีดตัวขึ้นไปรับข่าวพอสมควรแล้วประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกอาจจะยังผันผวนต่อ ดังนั้นหุ้นกลุ่มนี้อาจจะพักตัว ส่วนที่น่าสนใจ เรามองว่ากลุ่มผู้ผลิตอาหาร อย่าง CPF และ TU เนื่องจากมองภาพใหญ่อุตสาหกรรมยังไปได้ ผลการดำเนินงานออกมา ดีกว่าคาด และแนวโน้มค่า EPS (WoW%) ถูกปรับขึ้น ต่างกับกลุ่มพลังงานอย่าง PTT ที่ราคาหุ้นขึ้นมาเทรดที่ราคาเป้าหมายเฉลี่ยกลางและที่สูงกว่าในกรณีของ PTTEP และ IVL
หุ้นในกลุ่มที่เรากล่าวมา อาจจะกลับมาคึกคักอย่างครั้ง ในช่วงการ Rebalance คือวันที่จะมีผลบังคับใช้จริงในวันที่ 31 พ.ค. อย่างไรก็ตามเรายังมองว่าดัชนี SET หลังการประกาศของ MSCI ดัชนี SET จะทรงๆและปรับตัวลง เพราะรับข่าวการประกาศของ MSCI นอกจากนั้นยังต้องดูปฎิกริยาของการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลก หลังทาง MSCI ประกาศนำหุ้น A Share ของจีนเข้าไปคำนวณในดัชนี EM Market เพราะน้ำหนักของตลาดเกิดใหม่อื่นๆอาจถูกลดน้ำหนัก เรายังมองว่าโอกาสที่ดัชนี SET จะปรับตัวลงไปที่ 1350 จุดยังมีอยู่สูง
ในสัปดาห์นี้ทิศทางดัชนี SET จะยังคงอิงกับดัชนีในต่างประเทศและราคาน้ำมัน โดยตลาดต่างประเทศคาดคงแกว่งตัวในกรอบที่กว้างขึ้น แต่จะเป็นในเชิงลงมากกว่าขึ้นหลังสัญญาณดัชนีดาวโจนส์ทำท่าจะไปไม่ไหวและค่าเงินดอลลาร์เริ่มแข็งตัวรอบใหม่หลังตัวเลขค้าปลีกและความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น ส่วนราคาน้ำมันคาดยังมีสิทธิลงมาเล่นกันต่ำกว่า 45 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ หลังทางซาอุดิอาระเบียส่งสัญญาณว่าปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มจะเพิ่มสูงขึ้นอีก วันนี้มองดัชนี SET เปิดขึ้นมาจะปรับตัวลงตามดัชนีในต่างประเทศหลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาชะลอตัว ขณะที่หุ้นที่คาดว่าจะได้เพิ่มน้ำหนัก ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมารับข่าวไปมากแล้ว และตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ ๆ วันนี้มองแนวต้านที่ 1398-1402 จุด ส่วนแนวรับที่ 1388-1384 จุด ส่วนที่แนะนำ ซื้อเก็งกำไร วันนี้ คือ CPF หลังผลการดำเนินงาน Q1/16 ออกมาดีกว่าคาดมาก คือ EPS ที่ 0.51 บาท เทียบค่า EPS Mean ที่ 0.28 บาทหรือ (surprise 81.22%) ขณะที่นักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มค่า EPS WoW% เพิ่มขึ้น 8.6%
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,395.15 จุด เพิ่มขึ้น 0.46 จุด (+0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 24,469.18 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้มีแรงขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง หลังเปิดดีดขึ้นทดสอบบริเวณ 1405 จุด โดยมีแรงหนุนจากตลาดภูมิภาคที่ปรับขึ้นเป็นส่วนใหญ่หลังราคาน้ำมันปรับขึ้น บ้านเรามีแรงหนุนจาก GDp ใน 1Q59 ที่ขยายตัว 3.2% มากกว่าที่ตลาดคาด 2.8%
Afternoon Perspective
แนวโน้มตลาดบ่าย ผันผวน หลัง SET มีแรงขายทำกำไรออกมาหลุด 1400 จุดก่อนปิดตลาดในช่วงเช้า หากดัชนีกลับไปยืนเหนือ 1400 จุด ไม่ได้ มีโอกาสปรับตัวลงต่อ ทดสอบแนวรับถัดไป 1390-1385 จุด มองแนวต้าน 1400-1405 จุด
Technical Pick (PM) ...
TMB Bank (TMB TB; THB 2.24) - ซื้อ
Sherwood Chemicals (SWC TB; THB 10.10) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]