- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 16 May 2016 18:08
- Hits: 541
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today's Report : AAV, BDMS, BLA, CENTEL, ERW, GPSC, MAJOR, SVI, TVO, VIBHA
Our Portfolio May 2016 : CK, ERW, GL, PIMO, TISCO
คาด SET ยังปรับตัวลงได้อีก ก่อนลุ้นรอบขึ้น ดังนั้นน่ารอซื้อลบเช่นเดิม
กลยุทธ์ : แม้ว่าสัปดาห์ที่แล้ว SET จะสามารถแกว่งทรงตัวได้ดีต่อเนื่องทั้งสัปดาห์ และมีจังหวะรีบาวด์กลับขึ้นมาได้ค่อนข้างแรงในช่วงท้ายสัปดาห์ให้เห็นบ้าง แต่ก็ยังมีแรงขายทำกำไรในจังหวะบวกกดดันอยู่ ซึ่งเราคาดว่าเพราะยังขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุนเพิ่ม ดังนั้นเรายังแนะนำให้รอเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วง SET ลบต่อไปก่อนดีกว่า แต่หลังจากซื้อแล้วแนะนำให้เน้นถือเพื่อลงทุนระยะกลาง-ยาวมากกว่าที่จะรีบร้อนทำกำไรไว
หุ้นเด่นทางเทคนิค : ERW, BJCHI, BDMS(buy back)
แนวโน้ม : SET แกว่งตัวผันผวนและปรับย้อนลบอีกครั้งเมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากว่ายังไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุนเพิ่ม ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็กลับมาอ่อนแอลงเล็กน้อย หลังจากฟื้นตัวขึ้นได้ดีในช่วงต้นสัปดาห์ โดยถูกกดดันจากรายงานที่ว่าแคนาดาเริ่มกลับมาผลิตน้ำมันดิบอีกครั้งหลังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟป่าในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้ความวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นยังมีอยู่ต่อเนื่อง นอกจากนี้ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งสุดในรอบ 1 ปี แม้ว่าจะช่วยผลักดันให้ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่สามารถปิดบวกได้ดีในช่วงค่ำวันศุกร์ แต่กลับกดดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวลดลงกว่า 1% เพราะนักลงทุนกังวลว่าข้อมูลดังกล่าวจะผลักดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าได้(14-15 มิ.ย.) ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเปิดทำการด้วยการปรับตัวลดลงอีก แม้ว่าจะไม่ได้รุนแรงนัก เพราะตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีของสหรัฐยังช่วยสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกได้บ้าง แต่ FSS คาดว่าน่าจะกดดันให้ SET ยังอยู่ในช่วงปรับตัวลงต่อเนื่องได้อีกมากกว่า ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงตลาดเป็นลบเช่นเดิมไว้ก่อน
แนวรับ 1392-1388, 1383-1380 จุด
แนวต้าน 1397-1400 , 1404-1410 จุด
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนในภูมิภาคไหลออกจากภูมิภาคแต่เริ่มเบาบางลงเหลือ US$29ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$135.6ล้าน และอินโดนีเซีย US$25.6ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไทย US$116.1ล้าน และฟิลิปปินส์ US$14.3ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค ตลาดกลับมากังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก Fed จะเกิดเร็วขึ้นหลังจากสหรัฐรายงานตัวเลขค้าปลีกที่แข็งแกร่ง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) กำไรของกลุ่ม Domestic play ยังฟื้นไม่ดีนัก กำไรสุทธิของบจ.ที่อยู่ใน FSS Coverage ประกาศเกือบครบแล้ว +27% Q-Q, -10% Y-Y การฟื้น Q-Q ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มพลังงานที่ขาดทุนสต็อกลดลงมาก ถ้าตัดกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และธุรกิจที่เกี่ยวกับ Commodity ออก พบว่ากลุ่ม Domestic plays ยังมีภาพของความอ่อนแอ กำไร -4% Q-Q, -6% Y-Y กลุ่มที่กำไร 1Q16 ไม่สดใสได้แก่ธุรกิจทีวีดิจิตอลและสื่อโฆษณา สื่อสาร (ทั้งมือถือและวางระบบ) ยานยนต์ ธุรกิจเครื่องดื่ม และรับเหมาก่อสร้าง ส่วนกลุ่มที่กำไรดีได้แก่กลุ่มไฟแนนซ์ กลุ่มที่เกี่ยวกับท่องเที่ยว ค้าปลีกที่เน้นตลาดบน เรายังคงมองว่ากำไรที่ฟื้นตัวไม่ทันกับราคาหุ้นที่ปรับขึ้นในช่วง 4 เดือนแรกจะทำให้การพักฐานยังมีต่ออีกระยะ การอ่อนตัวยังเป็นโอกาสสะสมกลุ่มไฟแนนซ๋ โรงพยาบาล โรงแรม วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น
(0) BLA ผลขาดทุนถึง 6.9 พันล้านบาทใน 1Q16 แย่กว่าคาดมาก จากการตั้งสำรองหนี้สินประกันชีวิต 1 หมื่นล้านบาทเพราะดอกเบี้ยในตลาดเงินที่ปรับลงถึง 0.8% ภายในไตรมาสเดียว เราปรับลดประมาณการปีนี้จากกำไร 3.2 พันล้านบาทเป็นขาดทุน 4.8 พันล้านบาท ปรับราคาพื้นฐานลงเหลือ 43 บาทจาก 56 บาท แต่ยังแนะนำซื้อ เพราะมองว่าผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แม้ดอกเบี้ยจะมีทิศทางลดลงในช่วงที่เหลือของปี แต่อาจชดเชยได้ด้วยกำไรจากพอร์ตลงทุน (หากขาย) และอาจเปลี่ยนนโยบายการตั้งสำรอง
(+) ERW กำไรที่แข็งแกร่งกว่าคาดใน 1Q16 (+86% Q-Q, +37% Y-Y) ทำให้เราปรับกำไรปกติปีนี้ขึ้นอีก 6% เป็นโตถึง 71% Y-Y ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 5.50 บาทจาก 5 บาท แนวโน้ม 2Q-3Q16 ซึ่งเป็น low season ตามปกติมักขาดทุน แต่ในปีนี้อาจมีกำไรจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังเติบโตอย่างโดดเด่น ยังคงแนะนำซื้อ
(+) AAV กำไรที่ดีเกินคาดมากใน 1Q16 จากความสามารถในการบริหารต้นทุนน้ำมัน ทำให้เราปรับกำไรปี 2016-17 ขึ้นเฉลี่ยปีละ 20% เป็นโต 74% Y-Y ปีนี้และ +4% Y-Y ปีหน้า โดยปรับค่าใช้จ่ายน้ำมันลงเฉลี่ยปีละ 8% ราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้นในระยะถัดไปมีผลกระทบจำกัดต่อผลประกอบการปีนี้เพราะบริษัท hedge แล้ว 70% และทยอย hedge สำหรับปีหน้า เราปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 6.90 บาทจาก 6.50 บาท ราคาหุ้นที่พักฐานตาม low season ใน 2Q-3Q จะเป็นโอกาสในการทยอยสะสม
(0) SVI กำไร 1Q16 อ่อนแอหนักตามคาด มีกำไรปกติเพียง 93 ล้านบาท ถ้าไม่รวม Siedel กำไรจากธุรกิจเดิมลดลงถึง 20% Q-Q บริษัทตั้งเป้าแก้ปัญหาสายการผลิตแล้วเสร็จใน 3Q16 เราจึงหวังว่าผลประกอบการจะดีขึ้นใน 2H16 แต่ก็ปรับลดกำไรปีนี้ลง 23% เหลือโต 17% Y-Y จากเดิมคาดโต 52% Y-Y ปรับราคาพื้นฐานลงเหลือ 5.10 บาทจาก 6.3 บาท ราคาหุ้นปรับลงมาจนต่ำกว่าเป้าใหม่ จึงแนะนำถือ จากเดิมหลีกเลี่ยง
(-) VIBHA กำไร 1Q16 อ่อนแอมาก -39% Q-Q, -19% Y-Y จากรายได้ของ CMR ที่หดตัวโดยเฉพาะในส่วนของประกันสังคม และมีแนวโน้มกดดันกำไรในไตรมาสถัดๆไป นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรของร.พ.วิภารามหลายแห่งที่ร่วมลงทุน ลดลง ทำให้ประมาณการของเรามี downside ขณะที่ราคาหุ้นเต็มมูลค่าของเราที่ 2.60 บาท ลดคำแนะนำเป็นขาย จากเดิมซื้อ