- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 12 May 2016 19:14
- Hits: 778
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Cautious optimism
เมื่อวานดัชนีฯลงผิดคาด จากแรงขายหุ้นแบงก์ (แนวโน้มดอกเบี้ยทรงกับลงเป็นลบต่อ NIM กลุ่มแบงก์) สื่อสารฯ (เมื่อวาน THCOM ลงแรง วิตกหนี้สูญจากลุ่มลูกค้าทีวีดาวเทียมในประเทศ) ส่วนกลุ่ม เช่าซื้อ-ตัวเล็ก (LIT GL ฯลฯ) บวกสวนรับข่าว กนง. คงดอกเบี้ยในระดับต่ำที่ 1.5%
วันนี้คาด ซึมลง แนวรับ 1,375 จุด แนวต้าน 1,394 จุด จากโมเมนตั้มเมื่อวานที่แย่กว่าคาด และงบกลุ่มบ้าน สื่อสารฯ เมื่อวานออกมาแย่ลง ส่วนแบงก์ TISCO รายงานสินเชื่อแย่ลงต่อเนื่อง ในทุกประเภทสินเชื่อฯ คาดสะท้อนแนวโน้มแบงก์อื่นสินเชื่อชะลอลงเช่นกัน, ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด 1-2 วันนี้ (-) ตัวเลขเศรษฐกิจภูมิภาคสัปดาห์นี้ส่วนใหญ่ชะลอลง (GDP และ ส่งออก), (+/-) MSCI ประกาศผล ทบทวนดัชนีฯ หุ้นเข้าออก และน้ำหนักเปลี่ยนแปลง รอบครึ่งปี คาดการเปลี่ยนแปลงจะมีนัยยะกว่ารอบรายไตรมาส (รู้วันศุกร์)
สัปดาห์นี้ ให้น้ำหนักดัชนีฯลุ้นรีบาวด์สั้น ตามแนวรับ 1,380/1,370 จุด ปรากฎว่า รีบาวด์ตามแนวรับได้จริง แต่ไปได้ไม่ไกล เราคาดว่าสัปดาห์หน้า หลังสิ้นสุดฤดูกาลประกาศงบ ซึ่งหุ้นบูลชิพส่วนใหญ่ไม่ได้ดีกว่าคาด ส่งผลมีโอกาสปรับฐานต่อตามแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ (Sell on fact) คาดกรอบสัปดาห์หน้า 1,370/1,365 ต้าน 1,404 จุด
รายเดือน การปรับฐานในเดือน พค. คาดแนวรับ 1,380/1,370 จุด (หลุด 1,365 จุด เลิก) แนะนำ เลือกเก็งกำไรรายตัว investment theme: อัพเดท (10 พค.) งานประมูลภาครัฐฯ BTS NWR TMC, หุ้นมีโอกาสปรับประมาณการณ์กำไรขึ้น-กำไรดีกว่าคาดการณ์เดิม COM7 RS, พลิกจากขาดทุนเป็นมีกำไร SMT IFEC, ปันผลสูง BTSGIF, บาทเริ่มอ่อน (ฝรั่งเริ่มขายหุ้น) ส่งออก SMT GFPT
หุ้นแนะนำวันนี้ EGCO (Defensive plays ลุ้นติด MSCI ประกาศเย็นนี้รู้ผลพรุ่งนี้ คาดกำไร 1Q16 เกือบ 2 พันล้านบาท โตสูงเกิน 50% y-y และ 90% q-q ส่วนกำไรสุทธิทั้งปีนี้เราคาด 8.3 พันล้านบาท โต 100% จากปีก่อนที่กำไรเพียง 4 พันล้านบาท, เดือน มิย.นี้จะ COD โรงไฟฟ้าขนอม #4 แล้ว กำลังการผลิตไฟ 930MW หนุนโมเมนตั้มกำไรครึ่งปีหลังโตดีกว่าครึ่งแรก
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(*) TRUE-T1 อายุ 12-23 พค. ราคาใช้สิทธิ 7.15 บ. คาดกรอบราคาเหมาะสม (B-S model) ที่ 0.28-0.33 บ./หน่วยอิงกรอบราคาแม่ 7.25-7.40 บ. (ดูรายงานวันนี้)
(+) CPALL เราปรับกำไรขึ้น 4% และราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 47 บาท คงคำแนะนำ ถือ เมื่อวานรายงานกำไร 1Q16 ที่ 4.1 พันล้านบาท (+19%YoY และ +5%QoQ) มากกว่าคาด 3% คาดกำไร 2Q16 จะโตราว 20-25%YoY และจะสูงกว่า 1Q16 เพราะ SSS ที่โตดีจาก high season หน้าร้อน และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง คาดแนวโน้มกำไร 2Q16 ยังโตสูง y-y จากอานิสงส์การเปิด DC เมื่อปีที่แล้วเริ่มสะท้อนมาในผลการดำเนินงานปีนี้
(+) CPF กำไรสุทธิ 3.76 พันล้านบาท +27% y-y +143 q-q และ กำไรหลักอยู่ที่ 2.97 พันล้านบาท +411% y-y +1,200% q-q กำไรหลัก มากกว่าคาด 138% เป็นผลจากอัตรากำไรขั้นต้น GP ที่ 16.53% ดีกว่าคาดที่ 15% และยอดขายโตดีทุกผลิตภัณฑ์
(+) ROBINS รายงานกำไร 1Q16 ที่ 686 ล้านบาท (+12%YoY แต่ลดลง 2%QoQ) จากรายได้ที่โต 6% และมาร์จิ้นที่ดีขึ้น คาด 2Q16 กำไรยังคงแข็งแกร่งจาก SSS ที่ยังโตดี และ Power Buy และ Super Sports ที่จะได้ปัจจัยหนุนจากบอลยูโร เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 60 บาท หุ้นเทรด P/E 24.4 เท่า (ต่ำกว่ากลุ่มที่ 27.2 เท่า)
(+/-) PTTGC รายงานกำไร 1Q16 ที่ 4.7 พันล้านบาท (-16%YoY ทรงตัวQoQ) โดยกำไรหลักอยู่ที่ 4.3 พันล้านบาท (-34%YoY และ -26%QoQ) เป็นไปตามคาด คาด 2Q16 กำไรจะเติบโต QoQ เพราะ volume ขายที่มากขึ้นประกอบกับปัจจัยฤดูกาลหนุนให้ spread ปรับตัวดีขึ้น คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 73 บาท โดยมองปัจจัยหนุนจาก earnings momentum ที่จะเติบโต QoQ ไปถึง 4Q16
(0) MONO รายงานขาดทุนออกมาที่ 80 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 8% YoY และ 27% QoQ ขาดทุนมากกว่าที่เราคาดเล็กน้อยประมาณ 6 ล้านบาท เราเริ่มเห็นสัญญาณของการขาดทุนที่น้อยลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วจากต้นทุนคอนเทนต์ที่ค่อนข้างนิ่งและค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ลดลงค่อนข้างมาก เรามองว่า 2Q16 ซึ่งเป็น High Season ของเม็ดเงินโฆษณา MONO จะมีผลขาดทุนอยู่แต่แนวโน้มจะลดลงก่อนที่จะพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ในครึ่งปีหลัง 2016 จากการปรับอัตราค่าโฆษณาขึ้น ราคาหุ้นของ MONO ได้ขึ้นไปแตะราคาเป้าหมายของเราที่ 2.7 บาทก่อนที่จะย่อตัวลงมา เราแนะนำสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัว เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร"
(+) RS รายงานกำไรสุทธิออกมา 107 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนเทียบกับปีที่แล้ว แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% QoQ รายได้จากธุรกิจที่ช่วยสนับสนุนผลประกอบการใน 1Q16 ในช่วง low season ของเม็ดเงินโฆษณาคือธุรกิจโชว์บิซ ซึ่งโตถึง 813% YoY และ 22% QoQ และธุรกิจเสริมความงาม ซึ่งเติบโตถึง 194% YoY เรามองว่ารายได้โฆษณาจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งใน 2Q16 จากช่วง High season ที่เม็ดเงินโฆษณาไหลกลับเข้ามา เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ
(-) THCOM กำไรสุทธิ 700 ล้านบาท +30% y-y ส่วนกำไรหลัก 670 ล้านบาท แย่กว่าคาด ราคาหุ้นลงแรงเมื่อวานนี้คาดเป็นเพราะ วิตกการตั้งสำรองลูกค้าทีวีดาวเทียมในประเทศที่กลายเป็นหนี้สงสัยจะสูญ เรายังคงต้องติดตามดูว่าจะมีหนี้สูญแบบนี้เข้ามาอีกใน 2Q16 หรือไม่ คาดว่าประเด็นนี้ยังคงกดดันราคาหุ้นต่อไปอีกระยะ
(+) BEAUTY รายงานกำไร 1Q16 มากกว่าคาด 14% เราปรับกำไรขึ้น และราคาเป้าหมายใหม่เป็น 6.50 บ. จาก 6.1 บ. คงคำแนะนำ ซื้อ
(-) กลุ่ม SAMART เรามีแนวโน้มจะปรับลดกำไรกลุ่มนี้ลงอีกครั้ง โดยเมื่อวานนี้ SIM รายงานผลขาดทุนแย่กว่าคาด และเราปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 0.60 บาท
(-) MCOT รายงานขาดทุน 147 ล้านบาท ขาดทุนหนักสุดเป็นประวัติการณ์ และ แย่กว่าเราคาดขาดทุน -36 ล้านบาท เรามีแนวโน้มจะปรับคำแนะนำลงเป็น ขาย จากเดิม ถือ
(-) กลุ่มบ้าน เมื่อวานงบ ANAN ดีกว่าคาดส่วน QH PS ตามคาด เราชอบ ANAN มากกว่าและแนะนำซื้อ เพราะมี Backlog รอโอนในมือปีนี้ดีกว่า QH และ PS โดย Secure ไปแล้วกว่า 65% และจะมีการเปิดโครงการใหม่อีก 2 โครงการในเดือนหน้า คาดจะหนุนให้กำไรครึ่งปีนี้ดีกว่าครึ่งแรก และดีกว่ากลุ่ม
(+) COM7 กำไร 1Q16 ที่ 89 ล้านบาท (มากกว่าคาด 7%) เพิ่มขึ้น 25% YoY ไฮไลท์คืออัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นเป็น 13.4% เพราะค่าคอมมิชชั่นจากการเปิดซิมมือถือ ซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นที่บริษัททำได้ใน 1Q16 มากกว่าที่เราคาดการณ์สำหรับภาพทั้งปีที่ 13% และเรามีแนวโน้มปรับคาดการณ์กำไรขึ้นเพราะอัตรากำไรขั้นต้นที่มากกว่าคาดใน 1Q16 ยังคงมีแนวโน้มที่จะขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 9.0 บาท คาดราคาหุ้นมีโอกาส Re-Rate P/E ขึ้น และอาจขึ้นสูงกว่ากลุ่มได้เพราะการเติบโตที่สูง 40%/ปี สูงกว่ากลุ่มที่โต 17%/ปี
(+) ILINK รายงานกำไร 1Q16 ที่ 60 ล้านบาท มากกว่าคาด 20% (ฟื้นตัวจาก 4Q15 ที่มีกำไรเพียง 32 ล้านบาท) เรามองว่าผลประกอบการได้ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดแล้ว และขณะนี้อยู่เดินหน้าเข้าประมูลงานราว 8,000 ล้านบาท โดยกรณีศึกษา sensitivity ของเราชี้ว่าแม้ไม่มีงานประมูลเข้ามาเลย กำไรปีนี้จะไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว เราจึงมองว่า downside จำกัด ในขณะที่มี upside จากการได้งานประมูลมากกว่าคาด และการได้ข้อสรุปการลงทุน Data center กับพันธมิตรคาดจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น เพราะกำไรจะเติบโตได้ดีกว่าคาด คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 21.4 บาท
(0/-) BKD กำไรหลัก 1Q16 อยู่ที่ 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28%YoY แต่ลดลง 14% QoQ เป็นไปตามที่เราคาด อย่างไรก็ดีในไตรมาสนี้มีรายการพิเศษจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 13 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 17 ล้านบาท คาดกำไร 2Q16 จะเติบโตสูงเพราะบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้ในโครงการต่างๆอย่างรวดเร็ว และยังมีโอกาสที่จะได้กลับรายการที่ตั้งสำรองใน 1Q16 เราคงคาดการณ์กำไร และคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 4.10 บาท
(-) ICHI รายงานกำไร 1Q16 ที่ 250 ล้านบาท (ลดลง 21%YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ จากฐานต่ำ) ต่ำกว่าที่เราและ Consensus คาดราว 15% คาด 2Q16 ยังคงเห็นกำไรที่ลดลง YoY จากยอดขายที่ไม่สามารถเติบโต YoY ได้ เราปรับประมาณการกำไรปี 2016 ลงอีก 10% เป็น 801 ล้านบาท คิดเป็น 0.62 บาท/หุ้น และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 9.3 บาท คงคำแนะนำ ขาย
(0) PYLON รายงานกำไร 1Q16 ที่ 47 ล้านบาท (เป็นไปตามคาด) ลดลง 22%YoY และ 1%QoQ คาดกำไร 2Q16 จะทรงตัว QoQ แต่อ่อนตัวลง YoY เพราะงานที่รับเข้ามาในช่วงไม่มากเท่าปีที่แล้ว คงคาดกำไรปีนี้ที่ 211 ล้านบาท คิดเป็น 0.56 บาท/หุ้น และยังคงมองว่ายังไม่ใช่จังหวะในการเข้าซื้อหุ้น
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) พฤหัส US import price, EU area industrial production คาดคงที่, ประชุม ธนาคารกลาง อังกฤษ คาดคงดอกเบี้ย 0.50% และ คงปริมาณเงินอัดฉีด QE, มาเลเซีย Industrial production มีค. คาด 3.5% จาก 3.9%, ประชุมธนาคารกลางฟิลิปปินส์ คาดคงดอกเบี้ย 4%
(*/-) ศุกร์ US PPI เดือน เมย. คาด +0.3% จาก -0.1% m-m, US retail sale เมย. คาด +0.7% จาก -0.4%, EU area GDP (1Q16 2nd) คาด +0.6% คงที่, ประชุม ธนาคารกลางเกาหลีใต้ คาดคงดอกเบี้ย 1.5%, มาเลเซีย คาด GDP 1Q16 +4% จาก +4.5% y-y, ฮ่องกง GDP 1Q16 คาด +1.5% จาก +1.9%
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
รายงานวันนี้
หุ้น: PTTGC คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 73.00
PTTGC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/59 ที่ 4,707 ล้านบาท ลดลง 16 % YoY และทรงตัวที่ QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาดการณ์
คาดกำไรหลักไตรมาส 2/59 เติบโต QoQ จากปริมาณขายโอเลฟินส์ที่เพิ่มขึ้นและส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง
แม้ว่ากำไรสุทธิช่วง 3 เดือนแรกของปี 2559 จะคิดเป็นเพียง 14 % ของประมาณการของเราที่ 34,619 ล้านบาท แต่เรายังคงประมาณการไว้ตามเดิม เนื่องจากเราคาดว่าไรเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2/59 เป็นต้นไป
ยังคงคำแนะนำ ซื้อ
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: VGI คำแนะนำ: ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย (บาท): 4.95
VGI รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/58 (ม.ค.-มี.ค.59) ที่ 248 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1551% YoY และ 7% QoQ และกำไรหลักที่ 206 ล้านบาท ลดลง 24% YoY และ 7% QoQ
ปัจจัยที่ส่งผลให้กำไรหลักปรับตัวลดลง ได้แก่ รายได้จากการขายพื้นที่โฆษณาที่ลดลง เนื่องจากการยกเลิกธุรกิจโฆษณากลุ่ม Modern trade และเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของเม็ดเงินโฆษณา
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/59 (เม.ย.-มิ.ย.59) คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น ทั้ง YoY และ QoQ โดยมีแรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของเม็ดเงินโฆษณาทั้งในส่วนของสื้อโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับระบบสื่อสารมวลชนและสื่อโฆษณาของออฟฟิสสำนักงาน
เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2559 ที่ 1,213 ล้านบาทไว้ตามเดิม
เรามองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันได้สะท้อนมุมมองผลประกอบการที่อ่อนแอในช่องปี 58-59 ไปแล้ว แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย 4.95 บาท/หุ้น
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: COM7 คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 9.00
เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 9.0 บาท อิง P/E 25
กำไรมากกว่าคาด 7% ที่ 89 ล้านบาท บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 13.4% ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 1Q15 ที่ 12.7% และดีกว่า 4Q15 ที่ 12.5%
คาดกำไร 2Q16 จะเติบโตสูง YoY และโตต่อเนื่อง QoQ
เราคงประมาณการกำไรปี 2016 ที่ 429 ล้านบาท คิดเป็น 0.36 บาท/หุ้น (เติบโตราว 60%)
นักวิเคราะห์: วิกิจ ถิรวรรณรัตน์, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุนและปัจจัยทางเทคนิค
นักวิเคราะห์: ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: ICHI คำแนะนำ: ขาย ราคาเป้าหมาย (บาท): 9.30
เราคงคำแนะนำ "ขาย" และปรับราคาเป้าหมายลดตามการปรับลดคาดการณ์กำไรเป็น 9.30 บาท (ยังคงอิง P/E 15 เท่า)
กำไรต่ำกว่าคาด ที่ 250 ล้านบาท (ลดลง 21%YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ จากฐานต่ำ)
ไตรมาสนี้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็น 34.6% นอกจากนี้บริษัทยังมีผลขาดทุนจากอินโดฯ จำนวน 14 ล้านบาท
ยอดขายใน 2Q16 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น QoQ จากปัจจัยฤดูกาล คาดกำไรอาจดีขึ้น QoQ
เราปรับประมาณการกำไรปี 2016 ลงอีก 10% เป็น 801 ล้านบาท คิดเป็น 0.62 บาท/หุ้น
นักวิเคราะห์: วิกิจ ถิรวรรณรัตน์, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุนและปัจจัยทางเทคนิค
นักวิเคราะห์: ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: PYLON คำแนะนำ: ขาย ราคาเป้าหมาย (บาท): 10.00
บริษัทรายงานกำไร 47 ล้านบาท (เป็นไปตามคาด) ลดลง 22%YoY และ 1%QoQ
อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 28.4% สูงกว่า 1Q15 ที่ 24.6% เพราะงานส่วนใหญ่ที่รับรู้รายได้เป็นงานเฉพาะค่าแรงที่มาร์จิ้นดี
คาดกำไร 2Q16 จะทรงตัว QoQ แต่อ่อนตัวลง YoY เพราะงานที่รับเข้ามาในช่วงไม่มากเท่าปีที่แล้ว
คงคาดกำไรปีนี้ที่ 211 ล้านบาท คิดเป็น 0.56 บาท/หุ้น และยังคงมองว่ายังไม่ใช่จังหวะในการเข้าซื้อหุ้น
นักวิเคราะห์: วิกิจ ถิรวรรณรัตน์, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุนและปัจจัยทางเทคนิค
นักวิเคราะห์: ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: ILINK คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 21.40
คงคาดกำไรปีนี้ที่ 322 ล้านบาท และราคาเป้าหมาย 21.40 บาท
บริษัทรายงานกำไร 1Q16 ที่ 60 ล้านบาท มากกว่าคาด 20% (ฟื้นตัวจาก 4Q15 ที่มีกำไรเพียง 32 ล้านบาท)
คาด Data center แห่งใหม่ จะหนุนกำไรให้ ILINK ได้ราว 30-40 ล้านบาท/ปี
คาดตลาดจะมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่องานประมูล EPC ที่บริษัทจะเข้าร่วมเพิ่มขึ้น
นักวิเคราะห์: วิกิจ ถิรวรรณรัตน์, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุนและปัจจัยทางเทคนิค
นักวิเคราะห์: ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: BKD คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 4.10
เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 4.10 บาท
กำไรหลัก 1Q16 อยู่ที่ 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28%YoY แต่ลดลง 14% QoQ
คาดกำไร 2Q16 จะเติบโตสูงเพราะบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้ในโครงการต่างๆ
เรายังคงคาดการณ์กำไรในปีนี้ที่ 213 ล้านบาท เติบโต 34% จากรายได้ที่คาดราว 1,580 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% YoY
นักวิเคราะห์: ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: ปวีณ์นุช ศรีตระกูล
หุ้น: ANAN คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 4.80
ANAN รายงานกำไรหลักไตรมาส 1/59 สูงกว่าที่เราและตลาดคาด
คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/59 สูงขึ้นทั้ง YoY และ QoQ
เรายังไม่เปลี่ยนแปลงประมาณการกำไรหลักที่ 1.3 พันล้านบาทสำหรับปี 2559
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ จากแนวโน้มกำไรรายไตรมาสที่น่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง QoQ และดีที่สุดในไตรมาส 4/59
นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: BEAUTY คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 6.50
กำไรสุทธิไตรมาส 1/59 สูงกว่าที่คาด 14% ที่ 129 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% YoY และทรงตัว QoQ
อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยลดลง 134 bps YoY เป็น 66.6% ในไตรมาส 1/59 จากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนของยอดขาย
ดังนั้น EBIT และ EBITDA margin จึงขยายตัวได้สูงถึง 166bps YoY และ 252 bps YoY เป็น 29.8% และ 33.4%
เราคาด BEAUTY รายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่ง YoY และ QoQ ในไตรมาส 2-4/59
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้น 4% เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสิ้นปี 2559ขึ้นเป็น 6.50 บาท จาก 6.10 บาท
นักวิเคราะห์: ไชยธร ศรีเจริญ, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม
Technical Analysis
Security: TU
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 23
Stop loss: < 21.5
Reason: ปัจจุบันเริ่มส่งสัญญาณฟื้น ตัวและดีดกลับ เรามองว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเข้าพอร์ตเนื่องจาก สัญญาณบวกจากโครงสร้างขาขึ้นระยะกลางและค่า MACD เริ่มปรับขึ้น
Security: HMPRO
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 8.8
Stop loss: < 8.1
Reason: ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงส่งผลให้เครื่องมือทางเทคนิคถูกกดลงมาอยู่ในระดับล่าง Oversold เรากำลังหาจุดรีบาวด์ระยะสั้นจาก RSI และรูปแบบ Positive divergence
Security: TPIPL
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 2.8
Stop loss: < 2.5
Reason: อัตราเร่งของหุ้นน่าจะปรับตัวได้ดีขึ้นจากการปิดสูงและขึ้นจากแนวรับที่ 2.4 หนุนด้วยค่า MACD ตัดเส้น signal line ขึ้น
Security: ADVANC
Position: ขาย
Reason: ราคาหุ้นได้เปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาลงหลังจากหลุดแนวรับสำคัญ 160 และยังให้สัญญาณที่อ่อนกว่าตลาดสอดคล้องกับการปรับตัวลงของเครื่องมือ RSI
Security: ITD
Position: ขาย
Reason: หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับตัวลงไปทิศทางเดียวกัน ITD ส่งสัญญาณลบจากการหลุดเส้นแนวโน้ม เพิ่มความเสี่ยงการเปลี่ยนแนวโน้มเป็นลงในภาพระยะกลางหนุนด้วยวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้น
Security: SCB
Position: ขาย
Reason: ราคาหลุดเส้น neck line และยังมองหุ้นมีความเสี่ยงของการปรับตัวลงต่อจากสัญญาณ MACD ตัดเส้น signal line ลงและวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดปรกติ
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค
