- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 11 May 2016 16:54
- Hits: 1500
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงกลับคืนมา
คาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นวันนี้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ หนุนโดยผลประกอบการที่ดีของบริษัทในสหรัฐ และยุโรป หุ้นพลังงานน่าจะเดินหน้าหลังจากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น เงินเยนที่อ่อนค่าลงแม้ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่รัฐบาลญี่ปุ่นลั่นวาจาว่าจะแทรกแทรงตลาด แต่ก็หมายถึงความต้องการที่จะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มมากขึ้นด้วย ภายในประเทศความเชื่อมั่นของ SME ที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างยิ่ง และเป็นปัจจัยบวกสำคัญ นอกจากนี้ยังชี้ว่ารัฐบาลมาถูกทางแล้วในการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
หุ้นเด่นวันนี้: EPG (ราคาปิด 13.40 บาท; NR; ราคาเป้าหมาย Bloomberg 16.00 บาท)
ผลการดำเนินงานงวด 4Q59 (ม.ค. 59 – มี.ค. 59) ของ บมจ. อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป ซึ่งประกอบธุรกิจแปรรูปพลาสติกและโพลีเมอร์เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงรายใหญ่ในระดับโลก น่าจะเป็นอีกหนึ่งไตรมาสที่โดดเด่นจากทุกหน่วยธุรกิจหลัก (ธุรกิจผลิตภัณฑ์ฉนวนกันความร้อน/เย็น, ธุรกิจชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ม ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก) หนุนจากนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นโดยตัวบริษัทเองที่สามารถตอบสนองความต้องการใช้ที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้า ประกอบกับผลบวกจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง เราคาดกำไรสุทธิไว้อยู่ที่ราว 420 ลบ. ปรับตัวสูงขึ้น 19% และ 46% YoY ซึ่งจะส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งปี 59 (สิ้นสุด มี.ค. 59) เติบโตโดดเด่นถึง 96% YoY มาอยู่ที่ 1.5 พันลบ. ขณะที่ทิศทางผลการดำเนินงานนับจากนี้ไปยังคงสดใสจากสิทธิบัตรในมือ รวมถึงแผนการขยายตลาดในเชิงรุกและการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งนับว่าบริษัทฯ มีความพร้อมอย่างมากหลังจากได้ระดมทุนจากการทำ IPO เมื่อปลายปี 57 จากประมาณการของ Bloomberg consensus คาดว่าจะเห็นการปรับตัวสูงขึ้นของกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 60 (สิ้นสุด มี.ค. 60) ต่อเนื่องอีก 23% YoY มาอยู่ที่ 0.65 บาท และในปี 61 อีก 17% YoY มาอยู่ที่ 0.77 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PEG ปี 59 ที่ 0.6 เท่า แสดงถึงโอกาสที่หุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีก ในส่วนของ Price Pattern ของ EPG ยังคงมีความแข็งแกร่งในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal ทั้งนี้การกลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ได้บ่งบอกว่าการปรับฐานระยะสั้นของ EPG ได้จบสิ้นแล้ว โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ EPG คาดว่าน่าจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 13.60 บาท และเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 14 บาท ตามลำดับ โดย EPG มีจุด Stop Loss ระยะสั้นรอบนี้อยู่ที่ 13 บาท (แนวต้าน: 13.50, 13.70, 13.90; แนวรับ: 13.20, 13.00, 12.80)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ความเชื่อมั่น SME เป็นบวกในเดือน มี.ค. สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่น SMEs ภาคการค้าและบริการ (TSSI) เพิ่มขึ้นเป็น 100.4 ใน มี.ค. จาก 92.6 ใน ก.พ. ผลการดำเนินงานของภาคการค้าและบริการดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล (Bangkok Post)
จับตาราคาเหล็ก กรมการค้าภายในกล่าวว่ากรมฯ ได้ตรวจสอบราคาเหล็กทั้งร้านค้าส่งและค้าปลีกเพื่อป้องกันการกักตุนและเก็งกำไรขณะที่รัฐบาลจะเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การเพิ่มขึ้นของราคาส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปิดโรงงานเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานในจีนและนโยบายของจีนที่จะลดกำลังการผลิตเหล็ก ทำให้อุปทานต่ำลง (Bangkok Post)
ผลสำรวจชี้คงดอกเบี้ยวันนี้ จากผลสำรวจของรอยเตอร์สนักเศรษฐศาสตร์ 20 คนจากทั้งหมด 21 คนคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินวันนี้จะคงอัตราดอกเบี้ยธุรกรรมซื้อคืนระยะ 1 วันไว้ที่ 1.5%. (Bangkok Post/Reuters)
BANPU (12.90 บ.) รายงานผลขาดทุนสุทธิในงวด 1Q59 ที่ 184 พันลบ. พลิกกลับจากกำไรสุทธิ 69 ลบ. ในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ขาดทุนลดลงจากไตรมาส 4Q58 ก่อนหน้าที่บันทึกเป็นขาดทุนสูงถึง 1.5 พันลบ. เนื่องจากขาดทุนจากรายการพิเศษที่ลดลง แต่ทั้งนี้ฐานผลขาดทุนที่ต่ำดังกล่าวสอดคล้องกับที่ตลาดคาดไว้ที่ 249 ลบ. (Bloomberg consensus) กำไรจากธุรกิจหลักยังคงอ่อนแอภายใต้ภาวะราคาถ่านหินในระดับต่ำ (SET)
BEAUTY (5.80 บ, NR, Bloomberg 59 TP 5.99 บ.) รายการผลกำไรจากการดำเนินงานงวด 1Q59 ที่ 129 ลบ. หรือ เพิ่มขึ้น 70% YoY ผลกำไรออกมาดีกว่าประมาณการเฉลี่ยจากบลูมเบิร์กที่ 106 ลบ. หรือดีกว่า 22% (SET, Bloomberg)
GLOBAL (11.00 บ., AWS 2559 TP 13.30 บ.) รายงานผลกำไรจากการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/59 ที่ 452 ลบ. Bt452mn (+159% QoQ, +108% YoY) ยอดขายไตรมาส 1/59 เพิ่มขึ้น 25% QoQ และ 14% YoY สนับสนุนโดยการเปิดสาขาใหม่ 4 สาขาในปีก่อน และการเติบโตเป็นบวกของยอดขายในสาขาเดิม อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นเป็น 17.5% จาก 14.4% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนยอดขายสินค้เฮาส์แบรนด์ซึ่งให้อัตรากำไรที่ดีกว่าและการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (SET) ความเห็น: ผลประกอบการออกมาดีกว่าประมาณการเฉลี่ยจากบลูมเบิร์กไว้ที่ 294 ลบ. หรือมากกว่า 54% และดีกว่าประมาณการของเราที่ 221 ลบ. หรือมากกว่า 104% ทั้งยอดขายและอัตราการทำกำไรล้วนดีกว่าที่เราได้คาดการณ์ได้ เรายังคงแนะนำซื้อด้วยราคาเป้าหมายปี 59 อยู่ที่ 13.30 บาท
IVL (28.25 บ.) รายงานกำไรสุทธิงวด 1Q59 อยู่ที่ 4.1 พันลบ. ดีดตัวแรงถึง 1,420% QoQ และ 900% YoY และมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 1.2 พันลบ. (Bloomberg consensus) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากกำไรพิเศษจำนวน 3.3 พันลบ. ซึ่งจะเกิดขึ้นครั้งเดียวจากการต่อรองราคาซื้อกิจการ BP Amoco Chemical ที่ได้ปิดดีลไปในช่วงปลายเดือน มี.ค. หากไม่รวมรายการพิเศษข้างต้น กำไรปกติจะอยู่ที่ 828 ลบ. ปรับตัวสูงขึ้น 31% QoQ และ 203% YoY จากการบันทึกขาดทุนสินค้าคงคลังที่ลดลง ซึ่งช่วยชดเชยกับผลกระทบจากการหยุดเดินเครื่องฉุกเฉินโรงงาน MEG ในสหรัฐฯ (SET)
SCCC (310.00 บ. ซื้อ ราคาเป้าหมาย AWS 360.60 บ.) รายงานกำไรสุทธิงวด 1Q59 อยู่ที่ 1.4 พันลบ. ทรงตัว YoY แต่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งถึง 42% QoQ ตามคาด ซึ่งเป็นไปตามทิศทางการฟื้นตัวของความต้องการใช้ปูนซิเมนต์นับตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว (SET) ความเห็น: เรายังคงประมาณการ ราคาเป้าหมาย และคำแนะนำ ซื้อ ไว้เช่นเดิม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็มวันนี้
TKN (10.90 บ, NR, Bloomberg 59 TP 5.99 บ.) รายการผลกำไรจากการดำเนินงานงวด 1Q59 ที่ 161 ลบ. หรือ เพิ่มขึ้น 213% YoY ผลกำไรไตรมาส 1/59 คิดเป็น 23% ของผลกำไรประมาณการเฉลี่ยปี 58 จากบลูมเบิร์กที่ 458 ลบ. (SET, Bloomberg)
ต่างประเทศ
เงินเยนอยู่ในแนวรับเมื่อวันอังคาร ตามการร่วงลงหนัก 2 ช่วงการซื้อขายหลังจากทางการญี่ปุ่นเพิ่มระดับคำเตือนเกี่ยวกับการแทรกแซงค่าเงินเยน ดอลลาร์สหรัฐไต่ขึ้นถึงระดับ 109.38 เยน ห่างไกลจากระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือนที่ 105.55 เยนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เงินยูโรซื้อขายกันอยู่ที่ 124.21 เยน ได้ดีดขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ 121.48 เยนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (Reuters)
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีนแสดงความไม่พอใจในวันอังคารเมื่อเรือรบสหรัฐลำหนึ่งดำเนินการเดินเรือใกล้กับแนวปะการังที่มีข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ จีนระบุว่าเรือดังกล่าวเข้ามาในน่านน้ำโดยผิดกฎหมายและไม่ได้รับอนุญาตจากจีนและความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้คุกคามสันติภาพและเสถียรภาพของจีน (Reuters)
สหรัฐ :
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกทั้งกระดานเมื่อวันอังคาร จากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันและหุ้นอะเมซอนดอทคอมซึ่งส่งผลให้ดัชนี S&P500 ทำสถิติเป็นวันที่ดีที่สุดในรอบ 2 เดือน ตลาดได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นทั่วโลกซึ่งปิดบวกจากรายงานผลประกอบการอันแข็งแกร่งของบริษัทต่าง ๆ ในยุโรปและความคืบหน้าในการเจรจาหนี้กรีซและสัญญาฉบับใหม่จากญี่ปุ่นว่าได้เตรียมที่จะทำให้เงินเยนอ่อนค่า (Reuters)
นักลงทุนมองบวกมากขึ้นเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ จากรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/59 ที่ออกมาเกือบทั้งหมดไม่เลวร้ายอย่างที่คาดไว้ สัดส่วนของบริษัทที่มีประมาณการผลประกอบการดีขึ้นเทียบกับบริษัทที่มีผลประกอบการลดลงนั้นมีจำนวนมากกว่าซึ่งนับว่าดีที่สุดตั้งแต่ปี 2011 จากข้อมูลของทอมสัน รอยเตอร์ส (Reuters)
ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ตำแหน่งงานในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงสุดในรอบ 8 เดือนและการเลิกจ้างยังคงลดลงต่อเนื่อง ตำแหน่งงานเพิ่มขึ้น 149,000 ตำแหน่งอยู่ที่ 5.8 ล้านตำแหน่ง จากรายงานของ JOLTS ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับแต่เดือนก.ค. ปีก่อน การเพิ่มขึ้นดังกล่าวส่งผลให้อัตราตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 3.9% รายงานของ JOLTS แสดงให้เห็นถึงการลดลงของการเลิกจ้างพนักงาน เนื่องจากมีชาวอเมริกันจำนวน 2.98 ล้านคนลาออกโดยสมัครใจในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณความเชื่อมั่นในตลาดแรงงาน อัตราการลาออกจากงานยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 2.1% (Reuters)
สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค. ในขณะที่ยอดขายภาคค้าส่งบันทึกสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.1% สต็อกสินค้าคงคลังฯ ในเดือนก.พ. ถูกปรับลดลงเป็นลดลง 0.6% แทนตัวเลขก่อนหน้านี้ที่ลดลง 0.5% การเพิ่มขึ้นของสต็อกสินค้าคงคลังในเดือนมี.ค. เป็นไปตามคาด ส่วนยอดขายภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่เดือนเม.ย. ปีก่อนหลังจากที่ลดง 0.2% ในเดือนก.พ. (Reuters)
เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 2.2% ต่อปีในไตรมาส 2/59 ตามข้อมูลซึ่งแสดงถึงการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่งขึ้นและการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรที่เพิ่มขึ้น จากรายงานของเฟดสาขาแอตแลนตา ประมาณการการขยายตัวของจีดีพีล่าสุดสูงกว่า 1.7% ซึ่งได้ออกรายงานเมื่อวันที่ 4 พ.ค. (Reuters)
ยุโรป:
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันอังคารปรับตัวสูงขึ้น หนุนจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนฯ ที่ประกาศออกมาแข็งแกร่ง นำโดย Pandora ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องเพชรและเครื่องประดับสัญชาติเดนมาร์ก รวมถึงหุ้น Credit Suisse ที่ปรับตัวสูงขึ้นหลังรายงานผลขาดทุนน้อยกว่าคาด ขณะที่หุ้นกรีซเดินหน้าปรับตัวสูงขึ้นหลังมีความคืบหน้าเจรจาหนี้กรีซมากขึ้นเป็นลำดับ (Reuters)
ECB แนะธ.พ. ต่างๆ ยูโรโซนเตรียมแผนรับมือกับเหตุการณ์ Brexit ไว้ล่วงหน้า ทั้งนี้อังกฤษจะจัดทำประชามติในประเด็นดังกล่าวในวันที่ 23 มิ.ย. นี้ (Reuters)
ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง จากข้อมูลล่าสุดของ Thomson Reuters StarMine พบว่าบริษัทต่างๆ ได้รายงานผลประกอบการไปแล้วกว่า 70% ซึ่งในจำนวนนี้ได้ประกาศผลประกอบการที่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดถึง 60% (Reuters)
เอเชีย :
ญี่ปุ่นจะ เข้ามาแทรกแซงในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หากเงินเยน แข็งค่าถึง 90-95 เยนต่อดอลลาร์ ที่ปรึกษา ทางเศรษฐกิจ ที่สำคัญของนายชินโซ อะเบะ กล่าวไว้ในวันอังคารที่ได้มีการเข้าไปแทรกแซงเพื่อลดความผันผวนของสกุลเงิน ทางการญี่ปุ่น โดยครั้งสุดท้ายที่ทางการมีการแทรกแซงในตลาดสกุลเงิน คือ ในปี 2554 เมื่อพวกเขาเทขายเยน (Reuters)
ญี่ปุ่นเตรียมงบพิเศษ 7.15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อฟื้นฟูจากเหตุแผ่นดินไหว ในสัปดาห์นี้รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งคณะทำงานเพื่อรวบรวมงบประมาณพิเศษมูลค่าประมาณ 778 พันล้านเยน หรือ 7.15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการฟื้นฟูพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น จากเหตุแผ่นดินไหวร้ายแรงเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งมีคนตายประมาณ 50 คน และ ได้รับความเสียหายอย่างน้อย 5,000 หลัง (Reuters)
ดัชนีราคาผู้บริโภคจีนปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเดือน เม.ย. โดยเพิ่มขึ้น 2.3%YoY แต่ลดลง 0.2%MoM แต่ดัชนีราคาผู้ผลิตยังลดลง 4 ปี แสดงสัญญาณเศรษฐกิจที่อ่อนแอและบริษัทกำลังเผชิญกับดีมานด์ที่ซบเซาและภาระหนี้สูง (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นวันอังคาร เพราะแรงซื้อช่วงท้ายจากการคาดการณ์ว่าน้ำมันคงคลังสหรัฐไม่น่าจะเพิ่มมากเท่าสัปดาห์ที่ผ่านมา Brent ปรับขึ้นช่วงก่อนปิดตลาดบวก 1.89 ดอลลาร์ (+4.3%) ปิดที่ 45.52 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์ (+2.8%) ปิดที่ 44.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองร่วงต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ในวันอังคาร เป็นลบมากสุดนับแต่ มี.ค. ในช่วงการซื้อขายที่ผ่านมาเพราะดอลลาร์มีเสถียรภาพและหุ้นที่สูงขึ้นจำกัดความอยากลงทุนในโลหะมีค่า ราคาทองคำตลาดจรบวก 0.3% ปิดที่ 1,267.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังแตะจุดต่ำสุดในช่วงต้นเท่ากับ 1,257.25 ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนตัวสุดนับแต่ 28 เม.ย. ราคาทองคำล่วงหน้า มิ.ย. ลบ 0.6% ปิดที่ 1,264.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331
