- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 11 May 2016 16:45
- Hits: 939
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับสำคัญ 1380-1382
SET Index: 1391.68 เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 1390 จุดหลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1380 จุดแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาการปรับตัวเพิ่มขึ้นที่มีกรอบจำกัดบริเวณ 1400 จุด จึงทำให้แนวโน้มหลักของ SET Index ยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงหลุด 1380 จุดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1365 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่ถ้าปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่หลุดระดับ 1350 จุดลงไป จะเป็นจังหวะทยอยซื้อหุ้น
แนวต้าน : 1392 และ 1395
แนวรับ : 1388 และ 1385
TKN = 13.00 / 13.60, KBANK = 158 / 159, IVL = 28.00 / 29.00, BEM = 6.30 / 6.40, ADVANC = 150 / 152
Delta Eletronics (Thailand) (DELTA TB; THB 66.25) – ซื้อ
แนวต้าน : 71.00 และ 72.00 / แนวต้านสำคัญ 74.00
แนวรับ : 66.25 และ 66.00
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่องเข้าใกล้แนวรับสำคัญของกรอบแนวโน้มขาลง แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคที่บริเวณแนวรับสำคัญเมื่อวันก่อน ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 30
แนะนำซื้อ DELTA โดยมีแนวรับที่ 66.25 และ 66.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 71.00 และ 72.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 64.00 ลงไป
Lease IT (LIT TB; THB 9.25) – ซื้อ
แนวต้าน : 9.70 และ 10.00 / แนวต้านสำคัญ 10.80
แนวรับ : 9.25 และ 9.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างไปทดสอบแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70
แนะนำซื้อ LIT โดยมีแนวรับที่ 9.25 และ 9.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 9.70 และ 10.00 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 8.90 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 8.20
SET50 Index Futures
S50M16 เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่องบริเวณ 880 ซึ่งแนะนำให้ Open Short ต่อเนื่องหลังจากฟื้นตัวไปไปทดสอบแนวต้านที่ 884-885 ในขณะที่แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไป 870 และ 863 และมีแนวต้านสำคัญที่ 886 เป็นจุด STOP LOSS สถานะ Short
แนวต้าน : 880 และ 884
แนวรับ : 874 และ 870
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน S50M16 โดยมีแนวต้านที่ 880 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลดลงไปทดสอบ 870 และ 863
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50M16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 886 ขึ้นไป
TMBM16
ปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่ 2.20 หลังจากปรับตัวลดลงหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 2.50 ลงไป แต่เราคาดว่า การปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 2.20 น่าจะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือจุดต่ำสุดเดิมกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.40 และ 2.50
แนวต้าน : 2.30 และ 2.40
แนวรับ : 2.22 และ 2.20
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน TMBM16 ที่แนวรับ 2.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.40
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า TMBM16 ปรับตัวลดลงหลุด 2.18 ลงไป
BLANDM16
ปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงในระยะยาวที่ 1.52 ขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1.52-1.54 และมีแนวต้านถัดไปที่ 1.62 และ 1.65 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น
แนวต้าน : 1.60 และ 1.62
แนวรับ : 1.54 และ 1.52
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน BLANDM16 ที่แนวรับ 1.54 และ 1.52 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.65
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า BLANDM16 ปรับตัวลดลงหลุด 1.48 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...แกว่งตัวขึ้นแต่ไม่ไกล
ดัชนีตลาดหุ้นไทย ยังคงแกว่งตัวในกรอบบริเวณ 1380-1400 จุด ท่ามกลางการประกาศผลการดำเนินงาน Q1/16 ซึ่งยังต้องติดตามดูกันต่อ แต่ที่ออกมาแล้ว ถือว่ายังประคับประคองตัวและซึมลง ส่วนทิศทางดัชนีในต่างประเทศ ไม่ต่างกัน คือ ทรงๆ ตัวและประคับประคองตัว เพื่อรอปัจจัยหนุนใหม่ๆ โดยในตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะตลาดอาเซียน แรงขายหุ้นมีอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนนี้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นแรงจากแรงหนุนที่คาดกันว่าทาง FED จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ในเดือนหน้า
ราคาน้ำมันยังคงแกว่งตัวขึ้นจากแรงหนุนระยะสั้นจากปัญหาในแคนาดา ไนจีเรียและการรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันของสหรัฐ โดยคืนนี้ทาง ApI ได้รายงานสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐ ปรากฏว่าเพิ่มขึ้น 3.45 ล้านบารเรล์จากคาดที่ 714,000 บารเรล์ โดยตลาดคาดว่าตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบที่ออกมาสิ้นสุดในวันที่ 6 พ.ค. กำลังถึงจุดสูงสุด อย่างไรก็ตามหากมาดูปฎิกริยาของบรรดา Hedge fund ณ. วันที่ 3 พ.ค. พบว่า Hedge fund กำลังลด Net long position น้ำมัน Brent และ WTI ในตลาด future / option ลงจาก 663 ล้านบารเรล์ (26 เม.ย.) เหลือ 620 ล้านบารเรล์
นอกจากนั้นการปิดของราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าของทั้ง Brent และ WTI ต่ำกว่าเส้นเฉลี่ย 14 และ 20 วันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย. สะท้อนการขึ้นของราคาน้ำมันกำลังเสียศูนย์ อย่างไรก็ตามการที่ราคาน้ำมันยังคงแกว่งตัวขึ้นในขณะนี้ เป็นผลจากปัจจัยหนุนระยะสั้น ซึ่งวันนี้ยังต้องจับตาการรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันอย่างเป็นทางการของสหรัฐ (EIA) โดยเรามองว่าราคาน้ำมันในช่วงสั้นๆ นี้จะยังคงแกว่งตัวในกรอบ 40-45 ดอลลาร์ต่อบารเรล์
สำหรับตลาดหุ้นไทย แรงหนุนของราคาน้ำมันอาจทำให้ดัชนี SET ขึ้นแต่ไม่มาก เนื่องจากราคาหุ้นหลักในกลุ่มอย่าง PTT และ PTTEP ปรับตัวขึ้นมารอข่าวราคาน้ำมันและผลการดำเนินงาน Q1/16 พอสมควรแล้ว หากจะขึ้นต่อต้องรอปัจจัยหนุนที่ดีพอ คือ ราคาน้ำมันกระชากขึ้นไปใกล้ 50 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ นอกจากนั้นราคาหุ้น PTT และ PTTEP ได้ขึ้นมายืนที่ราคาเป้าหมายเฉลี่ยกลางของนักวิเคราะห์ที่ 303 และ 70+/- บาท ซึ่งจากรูปแบบการขึ้นของราคาหุ้นในอดีต ส่วนใหญ่จะผ่านเป้าหมายดังกล่าวยาก
แม้ตลาดจะยังได้รับแรงหนุนจากตลาดต่างประเทศและราคาน้ำมัน แต่ประเด็นที่ต้องจับตามองมากที่สุดอยู่ที่วันศุกร์นี้ คือ การประกาศปรับน้ำหนักการลงทุนของ MSCI (Semi-Annual) ซึ่งจะมี 2 ประเด็นคือ 1. การเพิ่มหุ้นและถอดหุ้น ใน Global standard และ Small Cap และ 2. การเพิ่มหรือลดน้ำหนักหุ้นใน MSCI Thailand ใน 2 ครั้งที่ผ่านมาคือ 13 พ.ย. และ 12 ก.พ. พบว่าการเพิ่มและถอดหุ้น จะมีเฉพาะหุ้นใน Small Cap แต่มีการลดน้ำหนักหุ้นใน MSCI Thailand โดยเฉพาะ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดย 2 รอบดังกล่าวดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลง (ดูรูปด้านขวา) ดังนั้นรอบนี้ ยังต้องติดตามดูว่าหุ้นกลุ่มไหนที่จะถูกลดน้ำหนักลงบ้าง
วันนี้คาดดัชนี SET จะดีดตัวขึ้นมาที่ระดับ 1400+/- จุดอีกครั้ง จากแรงหนุนของหุ้นพลังงานและดัชนีในต่างประเทศ โดยแนวต้านวันนี้มองที่ 1396-1400 จุด ส่วนแนวรับที่ 1386-1382 จุด สำหรับหุ้นที่นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มค่า EPS (WoW%) คือ GPSC
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,391.68 จุด เพิ่มขึ้น 1.55 จุด (+0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 22,571.49 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับเล็กน้อย โดยมีแรงหนุนจากต่างประเทศหลังราคาน้ำมันปรับขึ้น ส่งผลให้มีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มพลังงาน ขณะที่แรงกดดันจากกลุ่มธนาคาร ทำให้ดัชนีขึ้นในกรอบจำกัด ติดตาม การประชุมกนง. (วันนี้) PTTGC รายงานผลประกอบการ 1Q59 มีกำไรสุทธิ 4,707 ล้านบาท (EPS 1.06) ลดลง 16% YoY แต่เพิ่มขึ้น 0.4% QoQ (มากกว่าที่ตลาดคาด 4%) โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 67.19 บาท (Buy/Hold/Sell : 18/6/2)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย หากยังยืนเหนือระดับ 1380 จุด ได้ต่อเนื่อง ตลาดก็ยังไม่ได้ดูน่ากังวล โดยยังสามารถเล่นเก็งกำไรตามรอบหุ้นไปได้เรื่อยๆ แต่หากหลุด 1380 จุด ซึ่งเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน จะเกิดสัญญาณขายรอบใหม่ แล้ว SET คงจะเข้าสูตร Sell in May and Go away และมีโอกาสจะเกิดแรงทิ้งตัวลงต่อไปแถว 1350-1368 จุด ระยะสั้นให้ใช้ 1380 จุด เป็นจุด Stop loss ก็ดูเหมาะสม โดยตลาดเน้นเข้าเก็งกำไรหุ้นที่ยังปรับตัวช้ากว่าตลาด เช่น IVL BANPU THCOM ส่วนหุ้นเล็กที่น่าสนใจ เราชอบ TWPC TRT BWG
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Delta Eletronics (Thailand) (DELTA TB; THB 66.25) - ซื้อ
Lease IT (LIT TB; THB 9.25) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]