- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 10 May 2016 17:03
- Hits: 1095
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับสำคัญ 1380-1382
SET Index: 1387.36 ปรับตัวลดลงไปเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่ำกว่าระดับ 1390 จุด หลังจากเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้นที่บริเวณแนวรับสำคัญที่ 1380 จุด ซึ่งเรายังคงคาดว่า แนวโน้มหลักของ SET Index ยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงหลุด 1380 จุดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1365 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และมีแนวต้านสำคัญที่ 1400 จุด
แนวต้าน : 1388 และ 1390
แนวรับ : 1384 และ 1382
CPALL = 47.50 / 48.00, PTT = 292 / 295, ADVANC = 151 / 153, AOT = 388 / 394, SCC = 490 / 494
Krungthai Card (KTC TB; THB 92.00) - ซื้อ
แนวต้าน : 96.00 และ 98.00
แนวรับ : 92.00 และ 91.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นไปสร้างฐานที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ KTC โดยมีแนวรับที่ 92.00 และ 91.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 96.00 และ 98.00 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 90.00 ลงไป รอซื้อเพิ่มที่ 86.00
Internet Thailand (INET TB; THB 4.02) - ซื้อ
แนวต้าน : 4.20 และ 4.30 / แนวต้านสำคัญ 4.78-4.80
แนวรับ : 4.02 และ 3.98
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แล้วปริมาณการซื้อขายไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวลดลงทดสอบระดับ 30
แนะนำซื้อ INET โดยมีแนวรับที่ 4.02 และ 3.98 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.20 และ 4.30 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.88 ลงไป
SET50 Index Futures
S50M16 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่ำกว่าระดับ 880 ซึ่งแนะนำให้ Open Short ต่อเนื่องหลังจากฟื้นตัวไปไปทดสอบแนวต้านที่ 85 ในขณะที่แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไป 870 และ 863 และมีแนวต้านสำคัญที่ 888 เป็นจุด STOP LOSS สถานะ Short
แนวต้าน : 880 และ 884
แนวรับ : 874 และ 870
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน S50M16 โดยมีแนวต้านที่ 880 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลดลงไปทดสอบ 870 และ 863
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50M16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 888 ขึ้นไป
JASM16
ฟื้นตัวหลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นไปทดสอบแนวรับที่ 4.10 ซึ่งเรายังคงคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 4.65-4.70 และมีแนวรับสำคัญที่ 3.80 การปรับตัวลดลงในระยะสั้นไปทดสอบ 4.14 และ 4.00 ยังคงแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะ Open Long
แนวต้าน : 4.24 และ 4.30
แนวรับ : 4.10 และ 4.00
คำแนะนำ: เรายังคงแนะนำให้ Open Long ใน JASM16 ต่อเนื่องที่แนวรับ 4.10-4.14 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.44 และ 4.60
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า JASM16 ปรับลดลงหลุดระดับ 4.00 ลงไป
BLANDM16
เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่องที่บริเวณแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงในระยะยาว หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1.52-1.54 และมีแนวต้านถัดไปที่ 1.62 และ 1.65 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น
แนวต้าน : 1.60 และ 1.62
แนวรับ : 1.54 และ 1.52
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน BLANDM16 ที่แนวรับ 1.52 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.65
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า BLANDM16 ปรับตัวลดลงหลุด 1.48 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET....หุ้นที่ค่า EPS ถูกปรับขึ้นรายสัปดาห์
หลังผลการดำเนินงาน Q1/16 ทยอยประกาศ ปรากฏว่ากลุ่มที่กำไรดีขึ้นหรือดีกว่าค่าเฉลี่ยกลางของนักวิเคราะห์ใน IBES (EPS Mean) ส่วนใหญ่ จะเป็นกลุ่มพลังงาน อสังหาริมทรัพย์สร้างบ้าน ค้าปลีก อาหาร สื่อสาร ส่วนที่โยงท่องเที่ยว หลายตัวออกมาต่ำกว่าคาด ส่วนกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีเพียง KKP KBANK KTB ออกมาสูงกว่าคาด ส่วนที่เหลือ ออกมาในเชิงชะลอตัว สะท้อนหุ้นในกลุ่มนี้ยังมีแรงกดดดันราคาหุ้น โดยสรุปกลุ่มอุตสาหกรรมที่งบ Q1/16 ออกมาดี ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มหรือหุ้นที่โยงกับภาวะเศรษฐกิจโลกหรือหุ้นวัฎจักรเศรษฐกิจ โดยเฉพาะหุ้นพลังงาน สินค้าโภคภัณฑ์และปิโตรเคมี ส่วนหุ้นที่โตจากภายในประเทศ ส่วนใหญ่ออกมาในเชิงประคับประคองตัวมากกว่า
หุ้นในกลุ่มสร้างบ้านที่คาดว่าจะออกงบ Q1/16 ดีกว่าคาด นำโดย LH SC PS ANAN QH AP SPALI SIRI ส่วนที่คาดว่าจะออกมาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยคือ CPN และ LPN ส่วนหุ้นรับเหมาที่น่าจะมีกำไรออกมาดี คือ UNIQ นอกนั้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ย หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่เราเคยแนะนำ ซื้อเก็งกำไรไปแล้ว คือ SPALI มีจุดเด่นคือ นักวิเคราะห์ได้มีการปรับค่า EPS (WoW%) เพิ่มขึ้นและเป็นหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์สร้างบ้านเพียงตัวเดียวที่ค่า EPS ถูกปรับขึ้นในสัปดาห์นี้
กลุ่มที่ถือว่าผลการดำเนินงาน Q1/16 ดีกว่าคาดเกือบทุกตัวที่ประกาศมาแล้ว คือ กลุ่มสื่อสาร ทั้ง THCOM ADVANC DTAC ส่วน TRUE อยู่ในความคาดหมาย กลุ่มค้าปลีกที่กำไรใน Q1/16 ออกมาโดดเด่น คือ ROBINS CPALL และ HMPRO ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์และโรงพยาบาล คือ KCE และ BDMS หากมาดู 10 อันดับแรกที่กำไร Q1/16 (EPS) ออกมาสูงกว่าค่าเฉลี่ย EPS ของนักวิเคราะห์ใน IBES (% Surprise) คือ PTT (836.3%) LH (106.4%) BLA (84.3%) GUNKUL (57.2%) DRT (50.0%) MEGA (47.6%) IVL (33.3%) ASEFA (32.0%) SC (29.2%) และ PS (29.1%) ตามลำดับ
ค่า EPS ของตลาดโดยรวมที่ถ่วงน้ำหนักแล้วใน IBES MSCI Thailand จากรูปด้านซ้าย จะพบว่ายังมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องไปยัง Q2/16 หากสถานการณ์การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังดำเนินการไปอย่างเชื่องช้าและขาดปัจจัยกระตุ้นโดยเฉพาะความล่าช้าของมาตรการกระตุ้นการลงทุนของภาครัฐ หากกำไรมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องไปยัง Q2/16 ดัชนี SET ยังต้องรับข่าวในเชิงลบและต้องรอเวลาในการย่อยข่าว
อย่างไรก็ตามหากมาพิจารณาดูจากการเปลี่ยนแปลงของกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่นักวิเคราะห์ปรับขึ้น เทียบ ค่า EPS Mean เป็นรายสัปดาห์(WoW%) จะพบว่าหุ้นที่ถูกปรับค่า EPS ขึ้นจะเป็นหุ้นขนาดเล็ก กระจายในทุกกลุ่ม โดย 10 อันดับแรกที่ค่า EPS เปลี่ยนแปลงมากที่สุด คือ PTG ERW SCN WHA TVO IRPC SAPPE SAT PTTEP และ SPALI ในจำนวนนี้นอกจากนั้น PTG ที่% Surprise สูงมากๆ ERW และ SAPPE น่าสนใจในแง่ราคาหุ้นใน 1 เดือนที่ผ่านมายังติดลบ
วันนี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง 2% เมื่อวานนี้อาจจะกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี แต่ตลาดน่าจะปรับตัวลงไปไม่มากนักเนื่องจากสภาพคล่องภายในที่ยังอยู่ในระดับสูงในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ นอกจากนั้นยังมีการเก็งกำไรผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ที่จะทยอยประกาศออกมาภายในกลางเดือนนี้ โดยเมื่อวานนี้หุ้นที่ประกาศผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าตลาดคาดประกอบด้วย GSPC TOP MTLS ในขณะที่หุ้นที่เราคาดว่าจะประกาศผลกำไรไตรมาสแรกออกมาดีที่แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ประกอบด้วย CPALL CPF ERW KCE GFPT วันนี้เราให้แนวรับที่ 1385-1390 และแนวต้านที่ 1400-1405 จุด
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,387.36 จุด ลดลง 6.78 จุด (-0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 20,505.51 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลดลงในกรอบ โดยมีแรงขายนำในกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับลงอีกครั้ง และกลุ่มธนาคาร เนื่องจากกังวลเรื่อง NPL ติดตาม การประชุมกนง. (พรุ่งนี้) GFPT รายงานผลประกอบการ 1Q59 มีกำไรสุทธิ 275 ล้านบาท (EPS 0.22) เพิ่มขึ้น 26% YoY แต่ลดลง 39% QoQ (น้อยกว่าที่ตลาดคาด 3%) โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 14.21 บาท (Buy/Hold/Sell : 9/4/1) SAWAD รายงานผลประกอบการ 1Q59 มีกำไรสุทธิ 420 ล้านบาท (EPS 0.40) เพิ่มขึ้น 51% YoY และ 6% QoQ (มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ 3%) โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 54.16 บาท (Buy/Hold/Sell : 12/1/0)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งแคบๆ โดยมีแนวรับ 1380 จุด ซึ่งเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่หากยืนไม่ได้จะเกิดสัญญาณขายรอบใหม่ แล้ว SET คงจะเข้าสูตร Sell in May and Go away และมีโอกาสจะเกิดแรงทิ้งตัวลงต่อไปแถว 1350- 1368 จุด โดยในกรณีหลุด 1380 จุด หุ้นขนาดใหญ่น่าจะมีแรงเทขายออกมาก่อน ดังนั้น ระยะสั้นการซื้อขายยังเน้นเล่นสั้นๆสำหรับหุ้นใหญ่
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Krungthai Card (KTC TB; THB 92.00) - ซื้อ
Internet Thailand (INET TB; THB 4.02) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]