- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 10 May 2016 16:56
- Hits: 688
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today's Report : Commodities WoW, ADVANC, BH, BIGC, MTLS, SCC, TCAP, TU, DW Report
Our Portfolio May 2016 : CK, ERW, GL, PIMO, TISCO
คาด SET มีกรอบบวกแคบและยังลุ้นลงต่อได้อีก ดังนั้นน่ารอซื้อลบ!!
กลยุทธ์ : แม้ว่า SET จะมีจังหวะรีบาวด์กลับมาเคลื่อนไหวด้านบวกสลับบ้าง หลังจากแกว่งตัวลงมาพอควรในช่วง 2 สัปดาห์หลัง แต่เนื่องจากยังขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ สนับสนุนเพิ่มเติม ทำให้ FSS คาดว่ากรอบบวกช่วงนี้จะยังค่อนข้างจำกัด และมีแนวโน้มที่จะมีแรงขายทำกำไรออกมากดดันต่อเนื่องอีกมากกว่า ดังนั้นเราจึงยังไม่แนะนำให้รีบร้อนเข้าซื้อในช่วงตลาดเป็นบวกมากนัก เพราะยังมีสิทธิเลือกหุ้นค่อยๆ ทยอยซื้อช่วงลบได้อยู่เช่นเดิม โดยเน้นเป็นลักษณะทยอยซื้อสะสมต่อเนื่อง เพื่อถือรอรอบบวกครั้งใหม่ของ SET ในช่วงถัดไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MINT, RP, GPSC(buy back)
แนวโน้ม : SET รีบาวด์กลับขึ้นมาปิดเป็นบวกได้ในภาคบ่ายวานนี้ หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกแกว่งทรงตัวด้านบวกได้เกือบตลอดทั้งวัน ช่วยหนุนให้มีแรงซื้อกลับในตลาดหุ้นไทย ก่อนที่จะมีแรงขายออกมากดดันตลาดน้ำมันในช่วงเย็น จากข่าวที่ว่ารัฐบาลซาอุดิอาระเบียได้ปลดรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมัน รวมทั้งยังได้รับแรงกดดันจากรายงานวิกฤตไฟป่าในแคนาดาที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมัน Oil sand ได้เริ่มบรรเทาลงแล้ว จนทำให้สัญญาน้ำมันดิบเดือน มิ.ย.ร่วงลงถึงกว่า 2% ซึ่งฉุดให้หุ้นกลุ่มพลังงานในตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนแรงลง จนดัชนีดาวโจนส์ย้อนกลับมาปิดเป็นลบเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็เปิดเป็นลบด้วยเช่นกัน ส่วนแรงซื้อในตลาดหุ้นบ้านเราวานนี้ก็ถือว่ายังค่อนข้างบางตา ทำให้ FSS ยังคาดว่ากรอบบวกของ SET น่าจะยังค่อนข้างจำกัด และต้องตามระวังแรงขายทำกำไรกดดันให้ SET ปรับตัวย้อนลบต่อเนื่องอีกตามคาดเดิมด้วย ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นทยอยซื้อในช่วงตลาดเป็นลบเช่นเดิม โดยไม่ต้องรีบร้อนซื้อในลักษณะไล่ราคาช่วงบวก และเน้นค่อยๆ ทยอยซื้อช่วงลบ เพื่อถือในระยะกลาง-ยาวต่อไป
แนวรับ 1390-1385, 1380-1374 จุด
แนวต้าน 1395-1397 , 1400-1405 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$451 ล้าน และไหลออกจากทุกประเทศพร้อมกันนำโดยไต้หวัน US$224.8 ล้าน เกาหลีใต้ US$132.4 ล้าน และไทย US$54 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง (น้ำมัน ทอง และตลาดเกิดใหม่) กลับเข้าดอลลาร์จากคำกล่าวของประธานเฟดสาขาชิคาโกที่มีมุมมองด้านบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) SNC ราคาหุ้นลงมารับกำไร 1Q16 ที่หดตัว 6.6% Y-Y ทำให้ PE เหลือ 9.2 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 12.5 เท่า และให้ Dividend yield 6.6% เป็นระดับที่น่าซื้ออีกครั้ง สำหรับกำไรที่ลดลง Y-Y เพราะลูกค้ามีออเดอร์ Heat pump สำหรับเครื่องทำน้ำร้อนมากเป็นพิเศษใน 1Q15 เราคาดกำไร 2Q-3Q16 จะกลับมาโตโดดเด่น Y-Y แต่จะต่ำกว่า 1Q16 ซึ่งเป็น high season เรายังคาดกำไรทั้งปี +14% Y-Y คงราคาพื้นฐาน 20 บาท
(+) TCAP เราคาดสินเชื่อในปีนี้จะโต (แม้เล็กน้อย 1%) เป็นปีแรกหลังหดตัวติดต่อกัน 2 ปี การลดดอกเบี้ยเงินกู้กระทบ TCAP น้อยมากเพราะจะลดการตั้งสำรองมาชดเชย เราคาดกำไร 2Q16 โตทั้ง Q-Q, Y-Y สวนทางกลุ่ม ราคาหุ้นปรับลงมา 5% หลังประกาศงบฯ มากกว่ากลุ่มที่ -4% จน PE และ PBV เหลือ 6.4 เท่าและ 0.7 เท่า พื้นฐาน 48 บาท ซื้อ
(0) BANPU เราคาด 1Q16 ขาดทุนสุทธิ 330 ล้านบาท หลักๆมาจากขาดทุน Fx ขณะที่ธุรกิจถ่านหินทำได้แค่ประคองตัว โรงไฟฟ้ามีกำไรในระดับต่ำเพราะการเดินเครื่องมีปัญหา แนวโน้มช่วงที่เหลือของปีจะดีขึ้นแต่ไม่เต็มที่เพราะโรงไฟฟ้าหงสาที่ยังเดินเครื่องไม่เต็มกำลัง การ IPO ของ BPP คาดอยู่ใน 3Q-4Q16 (ผู้ถือหุ้นได้สิทธิ pre-emptive 12 BANPU : 1 BPP) เรายังคงราคาพื้นฐาน 14 บาท เหมาะกับการซื้อลงทุนระยะยาว
(+) MTLS กำไรสูงกว่าคาด +16.6% Q-Q, +54.3% Y-Y จากสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นถึง +12% Q-Q, +88% Y-Y ส่วน NPL ratio ลดเหลือ 0.9% ยังแนะนำซื้อ พื้นฐาน 25 บาท
(+) ADVANC กำไรปกติดีกว่าคาด -16% Q-Q, -8.9% Y-Y จากค่าใช้จ่ายขายและบริหารและค่าเสื่อมฯที่ต่ำกว่าคาด เรายังคงคาดกำไรปกติทั้งปีอย่าง conservative -20% Y-Y ยังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 180 บาท (บนสมมติฐานชนะประมูล 900MHz แล้ว)
(+) GPSC กำไรดีกว่าคาด +160% Q-Q และ +64% Y-Y เราอยู่ระหว่างทบทวนประมาณกำไรและราคาเป้าหมายที่ 30 บาทหลังการประชุมนักวิเคราะห์ 12 พ.ค.นี้
(0) TU กำไรต่ำกว่าคาด กำไรปกติ -31.2% Q-Q, +61.2% Y-Y โดยรายได้ต่ำกว่าคาด ขณะที่ค่าการตลาดและค่าใช้จ่ายในการรวมกิจการ Rugen Fish เพิ่มขึ้น แต่ธุรกิจทูน่ายังอยู่ในเกณฑ์ดี แนวโน้มกำไร 2Q-3Q16 จะดีขึ้นเพราะ high season และราคาปลาทูน่าเริ่มขยับขึ้นแล้ว แต่ยังแนะนำถือเพราะ upside จำกัดเมื่อเทียบพื้นฐานที่ 22.50 บาท
(0) BH กำไรทำได้เพียงทรงตัว +0.3% Y-Y รายได้โตต่ำกว่าคาด ส่วนค่าใช้จ่ายสูงขึ้นมาก เราปรับกำไรปีนี้ลง 7% เหลือโตเพียง 8% Y-Y ปรับราคาพื้นฐานลงจาก 220 บาทเป็น 210 บาท แต่ราคาหุ้นปรับลงมาทำให้ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นถือ จากเดิมขาย
(-) BIGC เต็มมูลค่า เรายังคงแนะนำขายเพราะราคาหุ้นเต็มมูลค่าพื้นฐานที่ 230 บาท ส่วนกำไร 1Q16 ไม่สดใส -30% Q-Q, +4.7% Y-Y SSSG ยังติดลบเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกัน ปัจจุบัน BJC และ TCC Group ได้ทำงานร่วมกับ BIGC เพื่อสร้าง Synergies ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เป็น Upside ที่ยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการเพราะยังไม่มีรายละเอียดของแผนงาน แต่เชื่อว่ายังไม่เกิดขึ้นในปีนี้