- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 09 May 2016 17:10
- Hits: 762
บล.เอเซียพลัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์การลงทุน
SET ยังอยู่ในภาวะผันผวน และยังคงอยู่ต่ำกว่า 1,400 จุด แม้อาจจะเห็นการฟื้นตัวของหุ้นโภภัฑณ์ในระยะสั้น แต่แรงซื้อขายยังน้อย กลยุทธ์ยังแนะถือหุ้นไม่เกิน 40% ของเงินลงทุน โดยให้ถือหุ้น Global/กำไรงวด 1Q59 สดใส (TMT, PTT, IRPC, TVO, KSL, COM7, RS) Top picks คือ PTT(FV@B330) และ RS([email protected])
Fed ยืดการขึ้นดอกเบี้ย และราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวสั้นๆ ช่วยประคอง SET
ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการใน 2 วันที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเอเชียยังคงแกว่งตัวในแดนลบ ทั้งนี้แม้หลายตลาดปิดทำการในวันพฤหัสที่ผ่านมา คือ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ก่อนจะกลับมาเปิดในวันศุกร์ แต่ภาพรวมยังแกว่งตัว และเช่นเดียวกับตลาดหุ้นยุโรปแกว่งในกรอบในแดนลบโดยปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุน น่าจะเป็นเรื่องผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนของยุโรปที่ยังกระจัดกระจาย รวมทั้งผลการสำรวจความเห็นประชาชนชาวอังกฤษต่อการเป็นสมาชิกภาพยุโรปที่ยังแบ่งเป็น 2 ฝ่ายเท่าๆ กัน ทำให้ตลาดยังสับสน
ทั้งนี้ ยกเว้นตลาดหุ้นสหรัฐ ที่แม้ทรงตัวในวันพฤหัสฯ แต่ฟื้นตัวได้ในวันศุกร์ ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจาก ตลาดแรงงานเดือน เม.ย. ที่ย่ำแย่กว่าตลาดคาด กล่าวคือ ยอดการจ้างงานนอกภาคการเกษตร(Nonfarm Payrolls) เดือน เม.ย. หดตัว 25.5%mom สู่ระดับ 1.6 แสนราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2 แสนราย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการรายงานยอดการจ้างงานภาคเอกชน (ADP Employment Change) ในเดือนเดียวกัน ที่หดตัว 22%mom สู่ระดับ 1.5 แสนราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 1.95 แสนราย ส่งผลให้อัตราการว่างงานยังทรงตัวที่ 5% เป็นเดือนที่ 2 เป็นการตอกย้ำว่า Fed จะไม่รีบร้อนขึ้นดอกเบี้ย สะท้อนผลสำรวจ Bloomberg ล่าสุดพบว่า การประชุมในรอบถัดไป 14-15 มิ.ย. มีโอกาสขึ้นเพียง 8% (ลดลงจาก 13% ในการสำรวจ 29 เม.ย.) และให้น้ำหนักต่อการประชุมในช่วง 4Q59 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ น่าจะได้แรงหนุนจากหุ้นน้ำมัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบโลกที่ฟื้นตัวช่วงสั้น จากปัญหาไฟไหม้แหล่งผลิตน้ำมัน จากหลายน้ำมันที่สำคัญของแคนาดา ซึ่งกดดันปริมาณน้ำมันดิบโลกลดลงในช่วงสั้นๆ ขณะที่ประเด็นการเปลี่ยนรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียคนใหม่ จากนาย Ali al-Naimi ที่ได้ดำรงตำแหน่งมานานกว่า 20 ปี เป็นนาย Khalid al-Falih ซึ่งผู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าชาย Mohammed bin Salman ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการคงกำลังการผลิต และ อาจเป็นแรงกดดันต่อราคาน้ำมันดิบโลกอีกรอบ หากการประชุมในกลุ่ม OPEC ในรอบถัดไป (เดือน มิ.ย.) มีมติไม่เห็นด้วยกับการคงกำลังการผลิตเหมือนครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้แม้ล่าสุดพบว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้าแตะ 45 เหรียญฯต่อบาร์เรล เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ขณะที่ราคาน้ำมันดูไบล่าสุดยืนเหนือ 42 เหรียญฯ จากแรงหนุนของปัญหาในแหล่งผลิตแคนาดาดังกล่าวข้างต้น
Fund Flow ไหลออกจากตลาดหุ้นในภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 7
Fund Flow ยังคงไหลออกจากตลาดหุ้นในภูมิภาคอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 แม้ในวันพฤหัสบดีและศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย, อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ หยุดทำการพร้อมกันทั้ง 3 ประเทศ แต่ตลาดหุ้นไต้หวันและฟิลิปปินส์ ยังคงเปิดทำการเป็นปกติ และถูกต่างชาติขายสุทธิทั้ง 2 ประเทศ โดยมียอดขายสุทธิทั้ง 2 วันรวมกันราว 781 ล้านเหรียญ (ขายสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน 755 ล้านเหรียญ ซึ่งขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 และฟิลิปปินส์ขายสุทธิ 26 ล้านเหรียญ หลังจากซื้อสุทธิต่อเนื่อง 2 วัน)
กลับมาดูตลาดหุ้นวันพุธที่ผ่านมา ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นในภูมิภาคราว 352 ล้านเหรียญ แม้ยัง ซื้อสุทธิอยู่ 2 ประเทศ คือ เกาหลีใต้และฟิลิปปินส์ ซื้อสุทธิราว 123 ล้านเหรียญ และ 9 ล้านเหรียญ ตามลำดับ ส่วนที่เหลืออีก 3 ประเทศยังคงขายสุทธิคือ ไต้หวัน และอินโดนีเซียขายสุทธิราว 418 ล้านเหรียญ และ 28 ล้านเหรียญ และไทยขายสุทธิราว 39 ล้านเหรียญ (หรือ 1.4 ล้านบาท) และเช่นเดียวกับนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิราว 1.7 พันล้านบาท
ส่วนทางด้านตลาดตราสารหนี้ไทย นักลงทุนต่างชาติกลับซื้อสุทธิสูงถึง 1.1 หมื่นล้านบาท (ซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2) เช่นเดียวกับนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิราว 2.5 หมื่นล้านบาท
เข้าสู่ฤดูกาล Earnings preview งวด 1Q59 หุ้น leasing และ Global เด่น
หลังจากได้สรุปหุ้นที่รายงานงบงวด 1Q59 และหุ้นที่นักวิเคราะห์ ASPS ได้ทำประมาณการงบงวด 1Q59 บางส่วน พบว่าโดยรวมไม่สดใสนัก โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ สื่อสาร อสังหาริมทรัพย์ และล่าสุด ASPS ได้ประเมินเพิ่มเติมคือ SAT คาดกำไรงวด 1Q59 ลดลง 25%qoq เพราะค่าใช้จ่ายขายและบริการสูงขึ้น และยังชะลอตัวต่อเนื่องใน 2Q59 ซึ่งเป็นช่วง low season โดยภาพรวมมอุตสาหกรรมยานยนต์ยังซบเซา จึงเตรียมปรับประมาณการและ Fair Value ลงมาอยู่ที่ราว 16-17 บาท จากปัจจุบัน 20.50 บาท หรือ ลดลง 20% แต่อย่างไรก็ตามยังมีบางกลุ่มที่น่าจะดี ทามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว คือหุ้นกลุ่มเช่าซื้อฯ ที่เน้นเช่าซื้อรถบรรทุก และรถจักรยานยนต์
THANI ([email protected]) คาดกำไรงวดนี้เติบโต 24%qoq และ 20%yoy จากสินเชื่อรถบรรทุกที่เติบโตเกินคาด และค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง รวมถึง spread ที่ดีขึ้น จากต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง ทำให้กำไรปีนี้จะเติบโต 11.2% และ 13.3% ปีหน้า แต่ราคาหุ้นที่ขยังขึ้นมาทำใหม่ มี upside จำกัด 9%
LIT ([email protected]) คาดกำไรงวดนี้เติบโต 14%qoq และ 48%yoy ตามการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมฯ (ปล่อยสินเชื่อ factoring แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม) และค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ ลดลงอย่างมีนัยฯ จากการลดลงของ NPL และยังะสดใสต่อเนื่องใน 2Q59 คาดกำไรสุทธิปี 2559 จะเติบโตมาก 43.5% yoy และอีก 32.2% ในปีหน้า ขณะที่ราคาหุ้นมี upside 74% ยังสะสมได้
MTLS ([email protected]) คาดกำไรงวดนี้เติบโต 9%qoq และ 48%yoy ตามการเติบโตสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์และรถยนต์ และรายได้ค่าธรรมเนียม แต่ถูกหักล้างด้วยค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ เพิ่มขึ้น โดยรวมคาดกำไรสุทธิเติบโตสูง 36% ปีนี้ และ 27.4% ปีหน้า ราคาหุ้นยังมี upside 50%
S11 ([email protected]) คาดงวดนี้กำไรเติบโต 6%qoq และ 47%yoy จากการเติบโตของ สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และรายได้ค่าธรรมเนียม แม้ถูกหักล้างด้วยค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ ที่เพิ่มขึ้น และคาดยังสดใสต่อเนื่อง 2Q59 จากต้นทุนดอกเบี้ยฯ ลดลง โดยรวมคาดกำไรสุทธิปีนี้ เติบโต 30.2% และ 23.2% ปีหน้า ราคาหุ้นยังมี upside 50%
TK(FV@B12) คาดงวด 1Q59 เติบโต 12.4%yoy (แต่ลดลง 6.7%qoq) โดยยอดสินเชื่อกลับมาเติบโตสอดคล้องกับยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่พลิกกลับมาเติบโตเช่นกัน และน่าจะเติบโตสูงต่อเนื่องถึงงวด 2Q59 โดยรวมกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโต 14.3%y และ 12.7% ปีหน้า ราคาหุ้นมี upside 24%
ยังมีหุ้น Domestic บางแห่งที่เด่นในงวดนี้ : วัสดุก่อสร้าง VNG และ บันเทิง RS และ WORK คือ
VNG (FV@B15) คาดงวด 1Q59 เพิ่มขึ้น 22%yoy และ 20%qoq จากต้นทุนวัตถุดิบ(เศษไม้ยางฯ และกาว) ที่ลดลง บวกแผนปรับ Product Mixed ที่มี Margin สูง จะเริ่มเห็นผลเต็มที่ปลายปีนี้ จึงคาด จะทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งปีนี้ และ อีก 2 ปีข้างหน้า ราคาหุ้น มี upside 15%
RS([email protected]) คาดงวดนี้ ใกล้เคียงกับงวด 4Q58 แม้เป็นช่วงนอกฤดูกาล เพราะสามารถขาย (RS มี ฟรีทีวี 8 ดาวเทียม 3 ช่อง คือ สบายดีทีวี (มิวสิกวิดีโอ) ช่อง 2 (ช่องวาไรตี้) และ ช่องเพลินทีวี (สำหรับผู้สูงอายุ)) โฆษณาล่วงหน้าตั้งแต่ปลายปี 2558 มากถึง 60% ของเป้าทั้งปี 2559 และ RS ปรับกลยุทธ โดยลดต้นทุน รวมถึงยกเลิกช่องดาวเทียม ที่ขาดทุนออก 1 ช่องคือ ช่องเพลินทีวี พร้อมปรับเวลาการออกรายใหม่ (เพิ่มรายการรีรัน ช่อง 8 และทีวีดาวเทียมช่องที่เหลือ) ขณะที่มีกำไรจากผลิตภัณฑ์ความงาม (เน้นขายผ่านช่องทางทีวีของตนเอง) โดยรวมปีนี้กำไรจะเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ราว 2 เท่าตัว และจะเพิ่มขึ้นอีก 29% ในปี 2560 Fair Value มี Upside ถึง 19%
WORK(FV@B45) คาดกำไร 1Q59 เติบโตมาก 160%YoY และ 840%QoQ และตลอดปีจะเติบโตถึง 105%YoY ASPS มีแนวโน้มปรับเพิ่มกำไรตั้งแต่ปีนี้อีกกว่า 50 ล้านบาทต่อปี หาก กสทช. ขยายเวลาผ่อนผัน/ลดอัตราการเก็บค่าธรรมเนียมธุรกิจทีวีดิจิทัลส่วนที่ส่งเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนาฯ 2% ของรายได้ ราคาหุ้นอ่อนตัวจึงเป็นโอกาสสะสม ราคาหุ้นมี upside 17%
ส่วนหุ้น Global ที่คาดว่าสดใสในงวดนี้อยู่ในกลุ่มของพลังงานและปิโตรเคมี คือ PTT (FV@B330) คาดงวดนี้จะมีกำไรสุทธิกลับคืนสู่ระดับปกติกว่า 2 หมื่นล้านบาท เพราะไม่มีการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์เหมือนไตรมาสที่แล้ว และยังมีบันทึกกำไรจากสต๊อกน้ำมัน รวมทั้งรับรู้กำไรจากบริษัทย่อย (PTTEP และอื่น ) แต่งวด 2Q59 อาจทรงตัวจากงวด 1Q59 ตาม PTTEP ที่คาดจะมีกำไรลดลง และธุรกิจโรงกลั่นที่ GRM จะตัวลดลงตามฤดูกาล แต่จะได้ชดเชยจากธุรกิจก๊าซของ PTT ตามปริมาณขายและ spread ที่เพิ่มขึ้น โดยรวมกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตถึง 4 เท่าตัว (แต่กำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2559 คาดจะลดลงราว 8.9%yoy) เชื่อว่าราคาน้ำมัน และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ เป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการจึงยังแนะนำซื้อสะสม
โดยสรุปคาดผลประกอบการ 1Q59 ยังไม่โดดเด่นมากพอ ทำให้ SET Index ยังเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,400 จุด โดยหาก อิงกำไรสุทธิของตลาด (Market Earnings) ในปี 2559 ล่าสุดจะอยู่ที่ 89.66 บาท (ลดลงจากประมาณการเดิม 90.25 บาท แต่ยังไม่ได้ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ) สะท้อนการปรับลดประมาณกำไรของธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น หากอิง Expected P/E 16.2 (ดังที่ใช้ในในกลยุทธ์ “2nd Quater, Invest+”) จะได้ดัชนีเป้าหมายสิ้นปี 2559 ที่ 1,452.5 จุด (ลดลงจากเดิม 1,465 จุด) มี upside จำกัดเพียง 4.5% กลยุทธ์จึงต้องให้น้ำหนักต่อหุ้นรายกลุ่มและ รายบริษัทฯ ซึ่งในสถานการณ์นี้น่าจะเน้นไปยังหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ (Global Play) ทั้ง PTT, PTTEP, IRPC, TVO, TMT, KSL เป็นต้น หรือหุ้นที่กำไรโดดเด่นในงวด 1Q59 และ ตลอดปี 2559 ได้แก่ COM7, RS, WORK
ภรณี ทองเย็น เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004146
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
พบชัย ภัทราวิชญ์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 052647
ภราดร เตียรณปราโมทย์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
พาสุ ชัยหลีเจริญ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยนักเศรษฐศาสตร์