- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 04 May 2016 18:39
- Hits: 835
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งลงต่อ
KGI คาด SET วันพุธอ่อนต่อ อิงมุมมองเชิงกราฟหากปิดต่ำกว่า 1,396 จะดูแย่ลง (วานนี้ SET ไซด์เวย์อิงทางลง ตามคาด) ตลาดกลับมากังวลต่อเศรษฐกิจโลกหลังจีนรายงาน Caixin PMI ภาคการผลิต เม.ย. ลดลง และคณะกรรมาธิการยุโรปได้ลดตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนปี 2559 จาก 0.5% สู่ 0.2% ทำให้ความกังวลต่อเงินฝืดในกลุ่มยูโรโซนกลับมาอีก ด้านราคาน้ำมัน WTi ลงต่อ 2.3% และอาจกดดันจิตวิทยาของหุ้นพลังงานและดัชนีฯ ได้ ภาพรวมเราแนะนำชะลอการเทรดหุ้นใหญ่ ก่อนหยุดยาว 4 วัน ซึ่งในช่วงดังกล่าวสหรัฐฯ จะรายงานตัวเลขภาคแรงงาน เม.ย. ซึ่งจะชี้ทิศทางนโยบายการเงินของเฟดและ sentiment ตลาดในสัปดาห์หน้า เรายังเน้นเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 1/59 โดดเด่น
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร KCE*, COM7
KCE* (เป้าพื้นฐาน 90 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 77 บาท (Stop loss 72 บาท) แนวต้าน 82.5 บาท และ 86 บาท 2) วันนี้ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ Initiate coverage ให้เป้าพื้นฐาน 90 บาท 3) ปัจจุบัน Utilization rate สูงถึง 95% (ทำให้อัตรากำไรใน 1H59 เด่น) และเตรียมเปิดโรงงานใหม่เฟสที่ 3 ในไตรมาส 3/59 (กำลังการผลิต +24%) ... อ่านรายละเอียดในบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้
COM7 (เป้า Consensus 8.0 บาท) 1) ประเมินราคาหุ้นพักฐานหลังประกาศข่าวบวกกับ TRUE* จบแล้วเริ่มมีสัญญาณการแกว่งตัวขึ้น แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 7.30 บาท แนวต้านแรก 7.75 บาท หากผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้าน ±8.0 บาท คาดยังได้ Sentiment บวกจาก Consensus ปรับเป้าขึ้น 2) ในเชิงพื้นฐานประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตจากการตัดคนกลางในการซื้อสินค้า Apple และเดือน พ.ค. เริ่มต้นการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ TRUE* (ขายเครื่องพ่วงซิม TRUE*) ขณะที่การเข้าบริหารร้าน True Shop 166 สาขา คาดจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่กลางปีนี้
หุ้นในกระแส
กลุ่มอสังหาฯ (AP*, LPN*, PS*, ANAN*, RICHY, PACE) ผลการดำเนินงานของหุ้นในกลุ่มฯ คาดจะเร่งตัวขึ้นในไตรมาสแรก (ผลจากมาตรการภาครัฐฯ) อาจทำให้มีแรงเก็งกำไรเข้ามาในกลุ่มฯ โดยฝ่ายวิจัยฯประเมินผลการดำเนินงาน LPN* จะเด่นสุดในไตรมาสนี้ (เฉพาะที่ฝ่ายวิจัยฯทำบทวิเคราะห์) และในเชิงพื้นฐานเลือก ANAN*, AP* เป็นหุ้นเด่น ขณะที่ PACE เริ่มโอนโครงการมหานครในไตรมาส 2/59
กลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC, SUPER, BWG, งานระบบไฟฟ้า ASEFA) ราคาหุ้นในกลุ่มฯเริ่มฟื้นตัว ได้ Sentiment บวกจากการที่ SUPER ทยอย COD โครงการโซลาร์ฟาร์มตามแผน แนะนำ “เก็งกำไร” IFEC (ทยอยซื้อโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น 11MW + 69MW และคาดกลางเดือน พ.ค.ซื้อ พลังงานลมเวียดนาม 210MW เริ่มสร้างเฟสแรก 28MW COD ไตรมาส 4/59) , BWG (ไตรมาส 3/59 เริ่ม COD โรงไฟฟ้าขยะ 8MW), ASEFA (Market share งานระบบไฟฟ้าพลังงานทดแทน 25 – 30%) ส่วน SUPER ถูกแรงขาย Fell on fact หลังแจ้ง COD ครบ 600MW แนะนำ พิจารณาเก็งกำไรที่แนวรับ 1.71 บาท, 1.60 บาท (หากต่ำกว่าแนวรับ แนะนำ Stop loss สำหรับนักเก็งกำไรสั้น)
หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ + วัสดุฯ: ประเด็นการทยอยเปิดประมูลโครงการภาครัฐฯ (สุวรรณภูมิเฟส 2, รถไฟฟ้า รถไฟรางคู่, มอเตอร์เวย์) แนะนำเก็งกำไร i) หุ้นกลุ่มรับเหมาฯตัวหลัก (CK*, STEC*, ITD*, UNIQ*, NWR) ii) งานเสาเข็ม (SEAFCO, PYLON, TMC) iii) วัสดุฯ + เหล็ก + ระบบไฟฟ้า (SCC*, TMT, ASEFA, EPG*)
หุ้นมีข่าว
(+) SUPER ลุยCODโซลาร์ฟาร์มเพิ่ม โชว์กำลังผลิตรวม 601 เมกะวัตต์ สิ้นเม.ย. 59 (ข่าวหุ้น) “ซุปเปอร์บล๊อก” แจ้ง COD โซลาร์ฟาร์มเพิ่มอีก 18 โครงการ กำลังการผลิตรวม 94.70 เมกะวัตต์ ดันยอดขายไฟรวมสิ้นเม.ย. 59 เพิ่มเป็น 601.95 เมกะวัตต์
(+) UV ปักธงรายได้1.5หมื่นล. จ่อผุดโครงการอัพฐานโต (ทันหุ้น) UV ลั่นปี 2559 ตั้งเป้ารายได้แตะ 15,000 ล้านบาท หลังโกยรายได้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและแนวสูงเข้าพอร์ต ด้าน "วรวรรต ศรีสอ้าน" สุดปลื้มนักลงทุนให้ความสนใจกับกองทรัสต์ โกลเด้น เวนเจอร์ พร้อมเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการมูลค่ารวมกว่า 4,200 ล้านบาท วางหมากซื้อที่ดินพัฒนาโครงการอัพยอดโต
(+) TTW ใส่เกียร์ลุยเมียนมา ทุ่ม3พันล้านปั๊มกำลังผลิต (ทันหุ้น) TTW เปิดฉากลงทุนผลิตน้ำประปาประเทศเมียนมา ขนาดกำลังการผลิต 40,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน คาดเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2560 ส่งซิกผลงานไตรมาสแรกสดใสหลังยอดขายน้ำพุ่ง 3.7 แสนคิวต่อวันเตรียมทุ่มงบ 3 พันล้านบาท ขยายกำลังการผลิตเพิ่ม 1 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน หนุนฐานรายได้ทั้งปีโตจากปีก่อน
(+) 'ทอท.' เล็งผุด 2 สนามบินใหม่ รับท่องเที่ยวโต (ฐานเศรษฐกิจ) ทอท. เล็งหาแนวทางสร้าง 2 สนามบินใหม่ภาคใต้และเหนือ เดินหน้าศึกษาพื้นที่ศักยภาพ เหมาะสมที่พังงา และเลือกระหว่างลำพูนหรือลำปาง เป็นทางเลือกรับแผนลงทุนในอนาคต หลังพบว่าแผนแม่บทในการพัฒนาสนามบินทั้ง 6 แห่งที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ขยายจนเต็มศักยภาพสูงสุดแล้ว เหตุโลว์คอสต์ แอร์ไลน์โตเร็วและแห่บินตรงเข้าภูมิภาคหลัก ทั้งเตรียมชงแผนแม่บทพัฒนาสนามบินเชียงใหม่ เข้าบอร์ดภายในเดือนนี้
(-) แบงก์หั่นเป้าสินเชื่อรายย่อยโตต่ำ ยอดปฏิเสธ 'กู้บ้าน-พีโลน' ทะลุ 50% (ประชาชาติธุรกิจ) แบงก์คุมปล่อยกู้รายย่อย ผวาหนี้ครัวเรือนสูง ผู้กู้คุณภาพหดตัว กสิกรฯเผยยอดปฏิเสธสินเชื่อบ้าน-พีโลนกลุ่มเงินเดือนต่ำกว่า 3 หมื่นบาท เพิ่มขึ้นแตะ 50% ด้านแบงก์กรุงไทย-ไทยพาณิชย์ยอม หั่นเป้าสินเชื่อ หลังปล่อยกู้วูบ
(-) ค้าปลีกชี้กำลังซื้อวูบต่ำเป้า (โพสต์ทูเดย์) สมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกปีนี้ คาดจะเติบโตเหลือ 2.8% ลดลงจากเป้าเดิม ที่ 3% ทั้งนี้เพราะหลังจากไตรมาสแรกธุรกิจรวมค้าปลีกโตได้แค่ 2.6% ตามเศรษฐกิจและกำลังซื้อ โดยเฉพาะในระดับล่างที่ยังชะลอตัว นอกจากนี้แนวโน้มในอนาคตก็ยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาชัดเจน
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
IFEC (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท ... มีโอกาสปรับขึ้น) ประเมินแนวรับ 7.05 บาท แนวต้านแรก 7.20 บาท ผ่านได้ถัดไปที่ ±7.80 บาท ... ทยอยซื้อพลังงานทดแทนในต่างประเทศ i) โซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น 11MW + 69MW ii) พลังงานลมเวียดนาม 210MW (COD เฟสแรก 28MW ไตรมาส 4/59) iii) ไตรมาส 2/59 รับรู้กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ รร ดาราเทวี
TVO (เป้าพื้นฐาน 28.5 บาท) แนะนำ Let profit run ประเมินแนวต้านถัดไปที่ ±28 บาท กำหนดจุดขายล๊อกกำไรหากต่ำกว่า 26 บาท ... ประเมินกำไรไตรมาสแรกโตเด่น QoQ
TKS (เป้า Consensus 10.8 บาท) ผ่านกรอบแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 8.10 บาทได้ หากวันนี้ยืนเหนือแนวต้านสั้นที่ 8.25 บาทได้ แนะนำ "เก็งกำไรตาม“ ประเมินแนวต้านถัดไป 9.0 บาท ... ลุ้นพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ + ประชามติ + ไปรษณีย์บัตรทายผลฟุตบอลยูโร
MBAX (เป้าพื้นฐาน 6.7 บาท) ประเมินมีโอกาสรีบาวด์ทดสอบแนวต้าน 5.80 บาท และ 6.10 บาท ตามลำดับ แนวรับ 5.40 บาท (กรณีเลวร้าย Stop loss 5.05 บาท) ... ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 เด่น รับอานิสงส์เม็ดพลาสติกราคาต่ำ
SMT (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 15.64 บาท) สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่ได้ Stop loss ตามที่เราแนะนำ อาจพิจารณาที่แนวรับหลัก 12 บาท (หากไม่หลุดแนะนำ “ถือ”) ...ประเด็นการแตกพาร์ (2 บาท เหลือ 1 บาท) และ แจกวอร์แรนท์ฟรี 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 วอร์แรนท์ + ธุรกิจใหม่ประกอบโซลาร์เซลล์ (กำลังการผลิตรวม 300MW) คาดเฟสแรก (กำลังการผลิต 60MW) เริ่มรับรู้รายได้ใน 2H59
TMC (เป้าพื้นฐาน 3.0 บาท) สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่ได้ Stop loss ที่ 2.30 บาท พิจารณาแนวรับหลักที่ 2.20 บาท (หากไม่หลุดแนะนำ “ถือ”) ... ธีมงานรับเหมากดเสาเข็มรถไฟทางคู่ + ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัตินำส่วนเกินทุนมาล้างขาดทุนสะสม (ส่งสัญญาณการจ่ายปันผล)
BTS* (เป้า Consensus 10 บาท) ประเมินแนวรับ 9.10 บาท และถัดไปที่ 9.00 แนะนำ “สะสม” (Stop loss 8.8 บาท)
ASEFA (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) ประเมินแนวรับ 5.60 บาท (กำหนดเป็นจุด Stop loss)
TVD (เป้าพื้นฐาน 2.8 บาท) แนะนำ “Let profit run” ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 2.6 บาท และกำหนดจุดขายล๊อกกำไรที่ 2.20 บาท
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
KCE* เริ่มวิเคราะห์ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 90.00 บาท เรามองว่า KCE ซึ่งเป็นผู้ผลิต PCB สำหรับรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลกน่าจะได้อานิสงส์จากแนวโน้มการเติบโตของตลาด PCB สำหรับรถยนต์ กอปรกับการเพิ่มกำลังการผลิตของ KCE สู่ระดับ 3.65 ล้านตารางฟุต/เดือน ภายในสิ้นปีนี้ เราประเมินการเติบโตกำไรปกติของ KCE ที่ 23.8% CAGR ในช่วงปี 2559-61
HMPRO* แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.10 บาท ภาพรวมจากการประชุมนักวิเคราะห์อยู่ในเชิงบวก เราประเมินผลการดำเนินที่แข็งแกร่งทั้งในส่วนของ Hmpro และ MegaHome ประกอบกับกำลังซื้อที่ฟื้นตัว จะช่วยหนุนให้กำไรปี 2559 ขยายตัวมั่นคง 7.5% YoY เป็น 3.7 พันล้านบาท
LPH แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.20 บาท คาดกำไรไตรมาส 1/59 เติบโต 178% YoY สะท้อนกำไรที่แข็งแกร่งจากการเปิดศูนย์เฉพาะทาง ขณะเดียวกันเรามีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของ LPH ในช่วง 2 ปีข้างหน้าจากการเปิดศูนย์เฉพาะทางและการขยายโรงพยาบาล ทั้งนี้ เราได้ปรับราคาเป้าหมาย LPH ขึ้นสู่ 9.20 บาท จากก่อนหน้านี้ที่ 7.92 บาท
กลุ่มการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารฯ น้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาดฯ” คาดไตรมาส 1/59 GL* MTLS และ SAWAD* จะมีกำไรสุทธิเติบโต 76%/43%/48% YoY ตามลำดับ โดย MTLS และ SAWAD เติบโตจากการรุกเปิดสาขา ขณะที่ GL รับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการขยายสินเชื่อ SME ให้กับ supply chain ของดีลเลอร์ในกัมพูชา ทั้งนี้ ด้วย upside ที่จำกัด เราได้ปรับลดคำแนะนำหุ้น GL ลงเป็นถือ (จากซื้อ) ขณะที่คงคำแนะนำ ถือ SAWAD และ ขาย MTLS
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ค่าเฉลี่ยสามสิบวันที่รับ 1396 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1396 จุดนั้น อาจสะสมแรงกดราคาให้ลดลงต่อเนื่อง แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือรับ 1396 จุได้นั้น อาจสะสมขึ้นแรงผลักราคาขึ้นต่อเนื่อง
แนวรับวันนี้: 1396/1386/1376 แนวต้านวันนี้: 1405/1415
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]
