- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 03 May 2016 23:06
- Hits: 2320
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวต้านสำคัญ 1410-1412
SET Index: 1406.22 เคลื่อนไหวในกรอบแคบเหนือระดับ 1400 จุด หลังจากฟื้นตัวกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1400 จุด แต่ในระยะสั้น น่าจะมีแนวต้านสำคัญที่ 1410-1412 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1430 จุด ซึ่งเรายังคงคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 1386 และ 1380 จุด แต่ถ้าพิจารณาโครงสร้างของการปรับฐานในระยะยาว การปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1380 จุดลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 1365 จุดเป็นจังหวะซื้อเก็งกำไรที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน
แนวต้าน : 1408 และ 1410
แนวรับ : 1402 และ 1400
JAS = 4.40 / 4.50, SUPER = 1.70 / 1.80, AOT = 394 / 400, PTT = 300 / 304, KBANK = 165 / 167
WHA Corporation (WHA TB; THB 3.16) - ซื้อ
แนวต้าน : 3.26 และ 3.40
แนวรับ : 3.16 และ 3.12
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างต่อเนื่องต่อเนื่องใต้เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน เหนือจุดต่ำสุดเดิม
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ WHA โดยมีแนวรับที่ 3.16 และ 3.12 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.26 และ 3.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.04 ลงไป
Solartron (SOLAR TB; THB 8.45) - ซื้อ
แนวต้าน : 9.00 และ 9.40
แนวรับ : 8.45 และ 8.40
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือจุดต่ำสุดเดิม ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญของโครงสร้างขาขึ้นในระยะยาว
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเข้าใกล้ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ SOLAR โดยมีแนวรับที่ 8.45 และ 8.40 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 9.00 และ 9.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 8.15 ลงไป
SET50 Index Futures
S50M16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 890 กลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงในระยะสั้นที่ 894-895 ซึ่งเรากำหนดให้เป็นจุด STOP LOSS สถานะ Short แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่อเนื่องลงไปต่ำกว่าระดับ 890 อีกครั้ง จะเป็นจังหวะกลับเข้าไป Open Short อีกครั้ง โดยมีแนวรับที่ 880 และ 874
แนวต้าน : 894 และ 898
แนวรับ : 892 และ 890**
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ STOP LOSS สถานะ Short ใน S50M16 ออกไปก่อนหลังจากทะลุผ่าน 894 กลับขึ้นไป รอ Short อีกครั้ง เมื่อปรับตัวลดลงต่ำกว่า 890
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50M16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 894 ขึ้นไป
JASM16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเข้าใกล้แนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 4.38 และมีแนวต้านถัดไปที่ 4.60 ซึ่งเรายังคงคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 4.60 การปรับตัวลดลงในระยะสั้นไปทดสอบ 4.20 และ 4.14 ยังคงแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะ Open Long
แนวต้าน : 4.30 และ 4.38
แนวรับ : 4.24 และ 4.20
คำแนะนำ: เรายังคงแนะนำให้ Open Long ใน JASM16 ที่แนวรับ 4.20 และ 4.14 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.30 และ 4.40
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า JASM16 ปรับลดลงหลุดระดับ 4.00 ลงไป
SIRIM16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างมาอย่างต่อเนื่องใต้เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทะลุผ่านระดับ 1.60 ขึ้นไป และมีแนวต้านถัดไปที่ 1.64-1.66 เป็นแนวต้านสำคัญ
แนวต้าน : 1.60 และ 1.62
แนวรับ : 1.58 และ 1.56
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน SIRIM16 ที่แนวรับ 1.58 และ 1.56 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.64-1.66
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า SIRIM16 ปรับตัวลดลงหลุด 1.54 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
ตลาดหุ้นสหรัฐ เป็นตัวแปรหลัก
สถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงวันหยุดที่ 2 พ.ค. ตลาดหุ้นในเอเชียต่างมีแรงขายหุ้นออกค่อนข้างหนัก โดยเฉพาะดัชนีตลาดหุ้นนิกเคอิ ดิ่งตัวลงแรง จากความกังวลเรื่องค่าเยนแข็งตัว ส่วนในสหรัฐดัชนีตลาดหุ้นสามารถรีบาวน์กลับได้มากกว่า 100 จุด จากความหวังว่าค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงจะช่วยหนุนเศรษฐกิจและกำไรของตลาดใน Q2/16 ส่วนตัวเลข PMI ของจีนและยูโรโซนที่เพิ่งประกาศขึ้นมายืนที่ 50.1 และ 51.4 โดยในอาทิตย์นี้สหรัฐจะประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานซึ่งตลาดคาดว่าจะออกมาที่ 200,000 ตำแหน่งและ 5%
ทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐในรอบนี้ ขึ้นมาจากจุดต่ำสุดในเดือน มี.ค. 2009 ถึงปัจจุบันกินเวลาไปแล้วมากกว่า 7 ปีหรือ 2610 วัน ถือเป็นการขึ้นที่ยาวนานเป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นสหรัฐ (รูปด้านซ้าย) เรามองว่า แม้ตลาดหุ้นสหรัฐกำลังมองว่าผลการดำเนินงาน Q2/16 จะค่อยๆฟื้นตัว แต่ตลาดยังไม่รับข่าวผลการดำเนินงาน Q1/16 ที่ออกมาแย่โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มสื่อสาร ดังนั้นจึงมองว่าในช่วงเดือน พ.ค. ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ น่าจะมีการปรับฐาน เหมือนอย่างที่เคยเกิดในเดือน พ.ค. เกือบทุกปี ส่วนรูปด้านขวา แสดงการประมาณการณ์ราคาน้ำมันในปี 2016-2017
ราคาน้ำมันเบรนท์ในวันจันทร์ร่วงลงมากกว่า 3% หลังขึ้นไปที่ 48 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ จากผลของปริมาณการผลิตเดือน เม.ย.ของกลุ่ม OPEC ปรับตัวเพิ่มขึ้นสุงสุดในประวัติศาสตร์ ที่ 32.64 ล้านบารเรล์ โดยราคาน้ำมันเบรนท์ในเดือน เม.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 21.5% นับว่าสูงสุดในการขึ้นรายเดือนในรอบ 7 ปี ส่งผลให้ตลาดมองว่าราคาน้ำมันขึ้นมาเร็วเกินไป จนเกิดแรงขายทำกำไรออกมา นอกจากนั้นยังมองกันว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันที่เป็นอยู่ในขณะนี้ อาจจะไปกระตุ้นให้ผู้ผลิตน้ำมัน Shale ในสหรัฐ กลับมาขุดเจาะน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
สถานการณ์ราคาน้ำมันในตอนนี้ การขึ้นลง ยังคงอิงกับการรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันและจำนวนหัวขุดเจาะในสหรัฐ นอกนั้นจะเป็นค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขสต๊อกน้ำมันยังขึ้นๆลงๆ ส่วนจำนวนหัวขุดเจาะของสหรัฐ (Rig count) ลดลงมาอยู่ที่ 332 หลุม ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2004 ส่วนจำนวนการ Long ในตลาด Future และ Option ของบรรดา Hedge Fund ถือว่าสูงสุด สะท้อนมุมมองในเชิงบวกกับราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม เรามองว่าราคาน้ำมันในเดือน พ.ค. น่าจะค่อยๆ อ่อนตัวลงจากความกังวล เรื่องปริมาณการผลิตและแรงขายทำกำไร
สถานการณ์ภายใน หลังตัวเลขการส่งออกบวกติดต่อเป็นเดือนที่ 2 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น ภาพตรงนี้ถือเป็นปัจจัยบวกกับเศรษฐกิจ แต่ยังต้องใช้เวลาดูอีกสักพัก ส่วนผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน อย่าง พลังงานใหญ่ น่าจะค่อยๆ ทยอยประกาศ ซึ่งคาดกันว่าน่าจะดีขึ้น หลังราคาน้ำมัน ส่วนต่างปิโตรเคมีและค่าการกลั่นดีขึ้น ส่วนทิศทางดัชนี SET ในอาทิตย์นี้คาดจะยังเผชิญกับแรงกดดันหลายด้านที่ ราคาน้ำมัน ผลการดำเนินงาน การดิ่งลงของตลาดหุ้นเอเชียและการเข้าสู่ช่วงหยุดยาว วันนี้มองดัชนี SET เปิดขึ้นมาจะแกว่งตัวทั้งแดนบวกและลบ และจะเผชิญกับแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน จนทำให้ดัชนี SET ไปไม่ไหว โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1408-1412 จุด และแนวรับที่ 1398-1394 จุด
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,406.22 จุด เพิ่มขึ้น 1.61 จุด (+0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 17,258 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งในกรอบแคบ ดัชนียังคงแกว่งเหนือระดับ 1400 จุด นักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนก่อนวันหยุดยาว ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ (ศุกร์นี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย คาดว่าจะแกว่งขึ้นโดยตลาดจะยังไม่คึกคัก เนื่องจากเป็นรอยต่อก่อนเข้าวันหยุดยาว อย่างไรก็ตามเรามองว่าสัปดาห์หน้าตลาดน่าจะฟื้นตัว โดยจะได้ปัจจัยบวกจากการทยอยประกาศผลการดำเนินงาน ระยะสั้นแนวต้าน 1416 จุด และ 1436 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1396 จุด หุ้นแนะนำยังเน้นหุ้นผลการดำเนินงานโดดเด่น เราแนะนำ TWPC RS THCOM TRT
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
WHA Corporation (WHA TB; THB 3.16) - ซื้อ
Solartron (SOLAR TB; THB 8.45) - ซื้อ
Turnover List Preview (Cash Balance) : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : SUPER, GENCO*, RICH* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]