- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 03 May 2016 22:57
- Hits: 2199
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET จะขยับบวกสลับ แต่ยังคาดว่ามีลุ้นลงต่อ ดังนั้นรอซื้อลบดีกว่า!
กลยุทธ์ : แม้ SET จะขยับเป็นบวกสลับ แต่ FSS คาดว่าตลาดยังอยู่ในช่วงแกว่งตัวผันผวนและมีสิทธิที่จะปรับพักตัวลงต่อได้อีกสักระยะมากกว่า ก่อนจะลุ้นแกว่งสร้างฐาน เพื่อพลิกกลับมาไต่ระดับขึ้นจริงจังอีกครั้งในช่วงถัดไป ดังนั้นเรายังแนะนำให้รอเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงลบ แล้วเน้นถือเพื่อรอรอบขาขึ้นครั้งใหม่ตามคาดต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MINT, THCOM, IVL(short)
แนวโน้ม : SET รีบาวด์กลับมาปิดเป็นบวกได้ในช่วงบ่ายวันศุกร์ ก่อนจะติดวันหยุดเมื่อวานนี้(2 พ.ค.) ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงค่ำวันสุดท้ายของสัปดาห์ปิดเป็นลบเล็กน้อย จากแรงกดดันของตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทเอกชนที่ออกมาไม่ดีนัก ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดทำการเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวเป็นลบไปด้วย แต่ก็มีหลายแห่งที่ปิดทำการเช่นเดียวกับบ้านเรา ส่วนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็เริ่มอ่อนแอลงอีกครั้ง โดยปรับตัวลงกว่า 2% จากรายงานที่ว่าการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC ขยับสูงขึ้นในเดือน เม.ย. ยิ่งทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด แต่ในช่วงค่ำตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่ กลับมาปิดเป็นบวกได้ดีอีกครั้ง หลังตัวเลขยอดใช้จ่ายด้านก่อสร้างของสหรัฐเดือน มี.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 ปี นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มการเงิน และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทอเมซอนด้วย ส่วนตัวเลข PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนเดือน เม.ย. ก็ขยายตัวดี จึงทำให้ตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับลงวานนี้เริ่มฟื้นตัวได้บ้างเช้านี้ แต่ตลาดเอเชียที่กลับมาเปิดทำการวันนี้ส่วนใหญ่ยังปรับตัวลงอยู่ ทำให้ FSS คาดว่า SET จะยังมีกรอบบวกจำกัดเช่นเดิม และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อได้อีกมากกว่า โดยเฉพาะสัปดาห์นี้จะมีวันทำการเพียง 2 วัน ก่อนติดช่วงวันหยุดยาวอีกครั้งปลายสัปดาห์นี้ ดังนั้นเรายังแนะนำให้รอเลือกหุ้นค่อยๆ ทยอยซื้อช่วงลบ แบบไม่ต้องรีบร้อนเช่นเดิม
แนวรับ 1398-1394, 1390-1384 จุด
แนวต้าน 1406-1408 , 1410-1412 จุด
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$176 ล้าน ส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$178 ล้าน ขณะที่ไทยไหลออก US$14 ล้าน สำหรับเมื่อวานนี้หลายตลาดปิดทำการเนื่องในวันแรงงาน เม็ดเงินไหลออกจากภูมิภาค US$113 ล้าน โดยไหลออกจากเกาหลี US$74.2 ล้าน และอินโดนีเซีย US$38.1 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางชะลอการไหลเข้าหลังจากตลาดผิดหวังการประชุม BOJ ที่ไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) เศรษฐกิจไทย มี.ค. ทรงๆ แต่การกลับมาเป็นบวกของการส่งออก (แม้เป็นเพราะทองคำก็ตาม) ทั้ง ก.พ.-มี.ค. ทำให้ส่งออก 1Q16 +1% Y-Y เสริมการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายภาครัฐที่เป็นตัวประคองเศรษฐกิจมาหลายไตรมาส ให้ GDP 1Q16 น่าจะโตได้ 2.6-2.8% Y-Y และทำให้ GDP ทั้งปีที่ 3% มีหวังมากขึ้น แต่การใช้จ่ายของประชาชนยังชะลอโดยเฉพาะถ้าไม่ได้มาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ ขณะที่ภัยแล้งบั่นทองกำลังซื้อของประชาชนบางส่วน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมยังกระจุกเปราะบาง มีโอกาสที่กนง.จะลดดอกเบี้ยในการประชุม 11 พ.ค. นี้ (สภาพัฒน์ฯรายงาน GDP 1Q16 16 พ.ค.)
(-) Sell in May กำลังจะเริ่ม เพราะตลาดหุ้นในช่วง 4 เดือนแรกให้ผลตอบแทนเป็นบวก 9% สูงสุดในภูมิภาค สวนทางเศรษฐกิจโลกและของไทยที่ไม่ได้แข็งแกร่งจนหนุนให้ตลาดหุ้นขึ้นต่อได้ โดยทั่วไปการพักฐานกินเวลาประมาณ 2 เดือน แต่ปีนี้เราเชื่อว่าจะใช้เวลาน้อยกว่านั้น เพราะภาพของการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานดูจะคาดหวังได้มากกว่าทุกครั้ง การชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเฟดทำให้ดอลลาร์กลับมาอ่อนค่า (ตลาดผิดหวัง BOJ ไม่มี QE ยิ่งกดดันให้ดอลลาร์อ่อน) สภาพคล่องทั่วโลกที่สูง และแนวโน้มดอกเบี้ยต่ำในประเทศก็เอื้อต่อการทำกำไรของบจ. การพักฐานของตลาดในเดือนนี้ถือเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นพื้นฐานรอบใหม่ แต่ต้องติดตามราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด แนะนำ ‘Buy in May’ แนะนำ CK, ERW, GL, PIMO, TISCO
(+) CK เราคาด 1Q16 จะพลิกเป็นกำไร 375 ล้านบาท จากขาดทุน 182 ล้านบาทใน 4Q15 และ +207% Y-Y จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่แข็งแกร่งจาก BEM และได้ปันผลจาก TTW แต่ในส่วนของธุรกิจหลักอย่างงานก่อสร้าง Gross margin จะถูกกดดันเพราะหลายโครงการอยู่ในช่วงใกล้จบงาน เราคิดว่าปีนี้ยังเป็นปีทองของ CK คาดกำไรปกติโตก้าวกระโดด +682% Y-Y จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของ BEM และรับรู้รายได้ 44% ของ Backlog ที่มีอยู่ 8.3 หมื่นล้านบาท ยังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 40 บาท
(+) PIMO เป็นหุ้น Turnaround ที่ฟื้นตั้งแต่ไตรมาสแรก เราคาดกำไรสุทธิ 1Q16 +122% Q-Q, +84% Y-Y เพราะลูกค้ามอเตอร์ปั๊มน้ำรายใหญ่เพิ่มคำสังผลิตเกือบเท่าตัว แนวโน้ม 2Q16 ดีต่อจากการผลิตมอเตอร์แอร์ที่มีสัดส่วนเกือบครึ่งของรายได้ เข้าสู่ High season ราคาวัตถุดิบที่เริ่มฟื้นไม่กระทบเพราะผลักให้ลูกกค้าได้ เราคาดกำไรทั้งปี +81% Y-Y คงราคาพื้นฐาน 2.36 บาท คงคำแนะนำซื้อ
(+) BIG กำไร 1Q16 มีแนวโน้มดีกว่าที่เราคาด โดยเราคาด 212 ล้านบาท +191% Y-Y, +7% Q-Q จากยอดขายกล้อง Mirrorless ที่บริษัทเป็นจ้าวตลาดยังเติบโตแรง ประกอบกับการปรับ product mix ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นทำจุดสูงสุดใหม่ ก่อนหน้านี้เราปรับประมาณการและราคาเป้าหมายขึ้นไปแล้ว ยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 4 บาท
(+) TVO เราแนะนำเก็งกำไรเพราะยังเห็น upside ของราคาถั่วเหลืองที่ถึงแม้ปรับขึ้นมาแรง ระยะสั้นอาจพักฐานก่อนแต่ยังมีทิศทางขาขึ้นจากภาวะลานินญาที่อาจมาถึง ส่วนกำไร 1Q16 คาด +132% Q-Q, -8.6% Y-Y ราคาพื้นฐาน 26.50 บาท
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกได้ค่อนข้างดีจากตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใส ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ออกมาแข็งแกร่ง
(0) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดผสม แต่อย่างไรก็ตามตลาดถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง รวมถึงหุ้นในกลุ่มธนาคารในอิตาลีที่ปรับตัวลง
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมแม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯจะปิดบวกได้ดี แต่อย่างไรก็ตามตลาดจับตาดูตัวเลข Caixin PMI ภาคการผลิตของจีนและนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย
(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกข้างหลังจากแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.80-34.87 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ร่วงลง 1.14 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 44.78 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าตัวเลขการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรหลังจากราคาพุ่งขึ้นแรงในเดือนเม.ย.
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 5.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,295.80 ดอลลาร์/ออนซ์ บวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
3-5 พ.ค. - ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการ
3 พ.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เม.ย.)
- จีน: Caixin China PMI Manufacturing (เม.ย.)
- ออสเตรเลีย: ธนาคารกลาง (RBA) ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 2%)
4 พ.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (เม.ย.), คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (มี.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (เม.ย.)
5-6 พ.ค. - ตลาดหุ้นไทย อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ ปิดทำการ
5 พ.ค. - จีน: Caixin China PMI Composite (เม.ย.)
6 พ.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตร (เม.ย.)
8 พ.ค. - จีน: ดุลการค้า (เม.ย.)
9 พ.ค. - อินโดนีเซีย: 1Q16 GDP
10 พ.ค. - จีน: อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.), ยอดสินเชื่อ (เม.ย.)
11 พ.ค. - ไทย: กนง.ประชุม
12 พ.ค. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- ยูโรโซน: Industrial Production (มี.ค.)
13 พ.ค. - MSCI Semi-annual Index Review
- ฮ่องกง: 1Q16 GDP
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch