- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 July 2014 16:32
- Hits: 2239
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET รีบาวด์แต่คาดกรอบขึ้นจำกัดและยังลุ้นปรับลงได้ น่ารอซื้อลบ!!
กลยุทธ์ : แม้ว่า SET จะกลับมาแกว่งบวกได้ แต่กรอบขึ้นยังจำกัด และยังมีแรงขายทำกำไรกดดันอยู่ ทำให้ FSS คาดว่า SET มีความเสี่ยงต่อการที่จะมีรอบปรับพักตัวลงในกรอบกว้างได้ในเร็วๆ นี้ ดังนั้นช่วงนี้แนะนำให้ชะลอการเข้าเทรดดิ้งช่วงบวก เพื่อรอซื้อลบดีกว่า รวมทั้งพอร์ตลงทุนก็สามารถแบ่งส่วนขายเพื่อปรับพอร์ต หรือลดพอร์ตลงบ้าง เพื่อเตรียมเม็ดเงินไว้รอจังหวะซื้อเพิ่มหรือซื้อใหม่เมื่อตลาดปรับตัวลงอีกครั้ง
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SIMAT, WHA, PS(short)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ถึงแม้ว่า SET จะสามารถพลิกกลับมาแกว่งด้านบวกได้อีกครั้ง แต่ก็ยังเป็นเพียงการรีบาวด์จากการปรับตัวลงวันก่อน และยังทำได้แค่แกว่งทรงตัวในกรอบแกว่งเดิม รวมทั้งในช่วงบ่ายเรายังเห็นแรงขายทำกำไรออกมากดดันต่อเนื่องอีก ทำให้ FSS ยังมองว่าการรอเลือกหุ้นซื้อในจังหวะตลาดอ่อนตัวลงน่าจะเหมาะสมกว่า อย่างไรก็ตามเช้านี้บรรยากาศการลงทุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศยังค่อนข้างสดใส หลังเฟดรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเศรษฐกิจจีนที่ยังขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 2 ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกขึ้นได้อีกครั้ง น่าจะทำให้ SET ยังมีสิทธิแกว่งตัวด้านบวกได้อีกเช่นกัน แต่กรอบการขยับขึ้นของตลาดหุ้นเอเชียยังค่อนข้างจำกัด ดังนั้นโอกาสที่ SET จะยังแกว่งผันผวน และมีแนวโน้มที่จะปรับพักตัวลงต่อยังมีความเป็นไปได้สูง เราจึงยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นเข้าซื้อเฉพาะช่วงตลาดเป็นลบดีกว่า
แนวรับ 1525-1522 , 1518-1513 จุด แนวต้าน 1532-1535 , 1537-1540 จุด
Fund Flow กระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าภูมิภาคอย่างต่อเนื่องเมื่อวานนี้อีก US$302 ล้าน นักลงทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มตลาดเกิดใหม่หลังอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มยังอยู่ในระดับต่ำไปอีกพอสมควร รวมถึงมีแรงเก็งกำไรผลประกอบการ 2Q14 เงินทุนไหลเข้ามากที่สุดที่เกาหลีใต้ US$147 ล้าน ส่วนตลาดหุ้น TIP ไหลเข้าอินโดนีเซียมากที่สุด US$74 ล้าน (ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการวานนี้) แนวโน้มกระแสเงินทุนยังสดใสตามข้อมูลเศรษฐกิจจีนและสหรัฐที่ออกมาดี
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) Beige Book ชี้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นต่อเนื่อง สะท้อนว่าเศรษฐกิจที่หดตัวลงในไตรมาสแรกเป็นเพียงผลจากสภาพอากาศที่ผิดปกติในช่วงต้นปี แต่การบริโภคที่ฟื้นอย่างแข็งแกร่ง การผลิต การท่องเที่ยว และตลาดที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจ มิ.ย. ถึงต้น ก.ค. ของทั้ง 12 เขตทั่วประเทศกระเตื้องขึ้น ข้อมูลนี้น่าจะทำให้ Fed ที่จะประชุม 29-30 ก.ค. เดินหน้าลด QE อีกเดือนละ US$1 หมื่นล้าน และสิ้นสุด QE ต.ค. ตามกำหนด
(+) จำนวนนักท่องเที่ยวเดือน มิ.ย. ลดลง แต่เป็นไปตามคาด มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวไทย 1.56 ล้านคนในเดือนมิ.ย. ลด 10% M-M และ 24% Y-Y หดตัวในทุกภูมิภาค จากผลของการประกาศอัยการศึกและเคอร์ฟิว และเป็นเดือนแรกหลังมีการรัฐประหาร เราเชื่อว่าแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีจะค่อยๆดีขึ้น ในอนาคตมีความเป็นได้ที่จะยกเลิกค่าธรรมเนียมวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีนที่มีสัดส่วนอันดับ 1 ที่ 16% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวได้มาก เราแนะนำหุ้นที่ราคายัง laggard คือ ERW (เป้าหมายปีหน้า 5.90 บาท) และ AAV (เป้าหมายปีหน้า 5.70 บาท)
(+) TMB การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ให้ภาพที่เป็นบวกและมีแนวโน้มที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะปรับประมาณการและราคาเป้าหมายขึ้น แต่เราปรับกำไรและเป้าหมายขึ้นไปแล้วเป็น 2.92 บาทและยังคงแนะนำซื้อ ทั้งนี้ แนวโน้มผลประกอบการใน 2H14 มีทิศทางที่สดใส และกำไรก่อนสำรองน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจาก NIM มีแนวโน้มดีขึ้นจากการลดต้นทุนเงินฝาก สินเชื่อเร่งตัวขึ้น และการตั้งสำรองหนี้สูญกลับมาอยู่ในระดับปกติและมีโอกาสที่จะมีการกลับรายการสำรองฯ เพราะมีการขาย NPL ผู้บริหารยังคงเป้าหมายทางการเงินปี 2014 และยืนยันความแข็งแกร่งของคุณภาพสินเชื่อ
(+) PS เราคาดว่ากำไรปกติ 2Q14 จะเพิ่ม 37% Q-Q และ 4% Y-Y ตามรายได้โอน ส่วน Presales งวด 1H14 คิดเป็น 40-44% ของเป้าทั้งปี โดยยอด Presales ของบ้านแนวราบดีขึ้นมากในเดือน มิ.ย. เราปรับกำไรปกติปี 2014-15 ขึ้น 9.1% และ 13.5% ตามลำดับ สอดคล้องกับแนวโน้มการฟื้นตัวของรายได้โอน ทำให้กำไรปกติปี 2014 โต 3% Y-Y และปี 2015 โต 14% Y-Y ปรับคำแนะนำเป็นซื้อ จากเดิมถือ โดยปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 37 บาท (PE 13 เท่า)
(+) TRC ยังไม่ได้อยู่ใน FSS coverage แต่จากการเข้าร่วม analyst meeting ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นบวกและถือเป็นบริษัทรับเหมาขนาดกลางที่น่าสนใจบริษัทหนึ่ง จาก Backlog ที่มีถึง 3,756 ล้านบาท สิ้นเดือน มิ.ย. และมีงานที่อยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลอีกกว่า 1 หมื่นล้านบาท บริษัทคาดรายได้ปี 2014 ราว 4 พันล้านบาท และคาดอัตรากำไรสุทธิต่อยอดขายประมาณ 5% หรือคิดเป็นกำไรประมาณ 200 ล้านบาท (EPS 0.25 บาท) หากทำได้ตามนี้ จะคิดเป็น PE ปี 2014 ที่ 16 เท่า และ PBV ราว 2.4 เท่า และอัตราเงินปันผลตอบเฉลี่ย 3% ต่อปี เทียบกับกลุ่มที่มี PE 17.3 เท่าและ PBV 2.8 เท่า สำหรับราคาเป้าหมายตาม IAA consensus มีตั้งแต่ 3.60 - 5.60 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
16-22 ก.ค. - ไทย: กลุ่มธนาคารประกาศผลประกอบการ 2Q14
17 ก.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (มิ.ย.)
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (มิ.ย.)
- ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (มิ.ย.)
18 ก.ค. - ไทย: DTAC ประกาศผลประกอบการ 2Q14
22 ก.ค. - สหรัฐ: เงินเฟ้อ (มิ.ย.), ยอดขายบ้านเก่า (มิ.ย.)
23 ก.ค. - ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
24 ก.ค. - ไทย: ดุลการค้า (มิ.ย.)
- จีน: HSBC China Manufacturing PMI (ก.ค.)
- เกาหลีใต้: 2Q14 GDP
- ญี่ปุ่น: ดุลการค้า (มิ.ย.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (มิ.ย.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.ค.)
25 ก.ค. - สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (มิ.ย.)
28 ก.ค. - สหรัฐ: Pending Home Sales (มิ.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852