- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 April 2016 17:59
- Hits: 1468
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
จับตาผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกแรงหนุนจากเฟดที่ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด 0.28%, -0.51%, 0.16%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก แรงหนุนจากผลประกอบการภาคเอกชนที่สดใส ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด 0.39%, 0.56%, 0.58%, 0.43%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.18 ดอลลาร์/บาร์เรล แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และสต๊อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลง สอดคล้องกับภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวในกรอบแคบ ๆ เช่นกัน เพื่อรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ ขณะที่ผลสำรวจของ CNBC ชี้ว่า นักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในการประชุมในช่วงปลายปี เนื่องจากการขยายตัวดีของตลาดแรงงาน แต่การปรับเพิ่มขึ้นของค่าแรงยังคงขยายตัวค่อนข้างต่ำในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอัตราค่าแรงเป็นปัจจัยหนึ่งที่เฟดจะใช้พิจารณาในเรื่องดอกเบี้ย แต่อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบที่ทำจุดสูงของปี ยังเป็นปัจจัยหนุนให้มีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มพลังงาน ซึ่งราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวมาจากรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ ที่เปิดเผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐฯ ลดลง 8 แท่น สู่ระดับ 343 แท่น ณ สิ้นสุดวันที่ 22 เม.ย.
กอปรกับธนาคารโลกปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปี 2559 ขึ้นสู่ระดับ 41 ดอลลาร์/บาร์เรล จากคาดการณ์เดิมที่ 37 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากคาดการณ์ว่าภาวะอุปทานล้นตลาดจะมีแนวโน้มคลี่คลาย ทำให้ราคาพลังงานมีแนวโน้มจะค่อย ๆ ปรับขึ้น ซึ่งการซื้อขายน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันยังคงเดินหน้าทำจุดสูงในรอบปีต่อเนื่อง จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และรายงานสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 540.6 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น คือ ตัวเลขการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยลดลงสู่ระดับ 8.94 ล้านบาร์เรล/วัน จากระดับสูงสุดที่เคยผลิตได้สูงถึง 9.7 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.พ. 2015
ส่วนผลการประชุมเฟดเมื่อคืนนี้มีมติไม่เป็น เอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ โดยมีกรรมการ FOMC 1 ท่านที่ลงมติให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้ และแถลงการณ์หลังประชุมได้บ่งชี้ว่า เฟดไม่รีบร้อนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และยังคงจับตาอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับทิศทางของอัตราเงินเฟ้อ เศรษฐกิจโลก และการพัฒนาการด้านการเงินต่อไป เฟดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวได้ในอัตราปานกลาง และตลาดแรงงานจะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้าการประชุมมีผลสำรวจที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อในเดือนก.ย. 2559 หรืออย่างช้าประมาณเดือนธ.ค. 2559 ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าน่าจะฟื้นตัวขึ้นในกรอบแคบๆ ได้แรงหนุนจากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นทั้งจากการผลิตของสหรัฐฯ ที่ลดลง และแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันนี้ที่คาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมี.ค. ปรับตัวลง 0.3% YoY.
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ไม่ต่ำกว่าแนวรับแถว ๆ 1,390 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไรได้
Saravut Tachochavalit, Analyst TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754 EMAIL : [email protected]
