- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 April 2016 17:48
- Hits: 1851
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET แกว่งผันผวนเป็นบวก-ลบสลับ แต่ยังลุ้นลงต่อได้ ดังนั้นรอซื้อลบ!
กลยุทธ์ : แม้ว่า SET ยังมีโอกาสรีบาวด์เป็นบวกสลับ แต่ยังอยู่ภายในกรอบแกว่งเดิมตั้งแต่ช่วงท้ายของสัปดาห์ก่อน หลังได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ที่กลับมาสดใสมากขึ้น แต่เนื่องจากไม่ได้มีประเด็นบวกใหม่ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียก็รีบาวด์ในกรอบที่ค่อนข้างจำกัด รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของ บจ.ต่างๆ ที่กำลังจะทยอยประกาศเป็นแรงกดดัน ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET มีสิทธิแกว่งตัวลงต่อได้อีก ดังนั้นเรายังแนะนำให้รอเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วง SET ลบดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MDX, BEAUTY, TPIPL(buy back)
แนวโน้ม : SET ยังมีกรอบบวกจำกัด และมีแรงขายกดดันให้ปรับพักตัวย้อนลบอีกครั้ง ขณะที่เช้านี้แม้ว่าจะพอมีลุ้นโอกาสบวกได้อีก หลังจากผลประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ออกมาตามคาด โดยเฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม พร้อมทั้งระบุว่าจะยังไม่รีบร้อนขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วนัก รวมทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ยังฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องอีกเกือบ 3% จากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์ ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่ยังปิดเป็นบวก และกระตุ้นแรงซื้อในตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ได้ด้วย อย่างไรก็ตาม FSS ยังคาดว่ากรอบบวกของ SET น่าจะยังถูกจำกัด เนื่องจากตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ฟื้นตัวแรงมากนัก และต้องระวังแรงขายทำกำไรที่น่าจะยังมีออกมากดดันต่อเนื่อง หลังยังไม่ได้มีประเด็นบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุนเพิ่ม ทำให้ SET ยังมีลุ้นแกว่งตัวพักฐานลงต่อได้อีกตามคาดเดิม เพราะเฟดก็ไม่ถึงกับปิดโอกาสการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า (กลางเดือน มิ.ย.) ส่วนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ยังมีแรงขายกดดันให้ชะลอการบวกต่อเนื่องอยู่ โดยคาดว่านักลงทุนบางส่วนยังต้องการรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ของสหรัฐในช่วงท้ายสัปดาห์นี้อีกครั้ง
แนวรับ 1410-1405, 1400-1397 จุด
แนวต้าน 1414-1416 , 1420-1423 จุด
Fund Flow วานนี้เงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$107ล้าน ส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$154.1ล้าน ขณะที่ขายอินโดนีเซีย US$27.8ล้าน และไต้หวัน US$24.2ล้าน ส่วนไทยมีเงินทุนไหลออกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ราว US$1.6ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางในเข้าภูมิภาค ภายหลัง Fed ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกยังอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่งซึ่งทำให้การลงทุนในตลาดเกิดใหม่ยังคงมีความน่าสนใจ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) มุมมองของ Fed เป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง Fed คงดอกเบี้ย 0.25-0.50% แม้ความเห็นจะค่อนไปทางลบจากการใช้จ่ายของครัวเรือนที่ลดลงทั้งที่รายได้เพิ่มแข็งแกร่ง แต่ไม่ปิดโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 14-15 มิ.ย. Consensus คาดโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. มีเพียง 20% ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าต่อ เป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง
(0) นักวิเคราะห์มองการปรับขึ้นของราคาน้ำมันน่าจะใกล้จบแล้ว แม้ราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนจะพุ่งแตะระดับสูงสุดของปี เพราะเงินดอลลาร์อ่อนค่า แต่นักวิเคราะห์มองว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นใกล้จบแล้วเพราะยิ่งขึ้นสูงยิ่งดึงดูดให้ผู้ผลิตเพิ่ม supply
(+) RS แม้ราคาหุ้นจะปรับขึ้นเกือบ 20% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังมี upside กว่า 10% จากราคาพื้นฐานปีนี้ที่ 13 บาท และกำไรสุทธิ 1Q16 ที่คาด +4% Q-Q และฟื้นจากขาดทุนใน 1Q15 จึงยังคงแนะนำซื้อ
(+) PTTGC กำไร 1Q16 อาจไม่สดใสแต่น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี เราคาด +5.7% Q-Q, -12% Y-Y เป็น 4.96 พันล้านบาท ส่วนกำไรปกติคาด +3% Q-Q, -16% Y-Y ชะลอทั้งธุรกิจโอเลฟินส์ (หยุดซ่อมบำรุง ราคาเม็ด HDPE ลดลง และขาดทุนสต็อกลดลงมาก) และโรงกลั่นตามค่าการกลั่น แต่ชดเชยได้บ้างจากธุรกิจอะโรเมติกส์ที่ดีขึ้น เราคาดกำไรสุทธิทั้งปี +25% Y-Y แต่ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 70 บาทจาก 60 บาท ยังแนะนำซื้อ
(+) AAV เราคาดกำไรสุทธิ 1Q16 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 747 ล้านบาท +171.6% Q-Q, +47.5% Y-Y จากจำนวนผู้โดยสารที่ทำ new high ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน แต่ราคาค่าโดยสารไม่ลดลงมากนักเพราะการแข่งขันชะลอ แนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นมีผลจำกัดต่อ AAV เพราะล็อคราคาน้ำมันในปีนี้แล้ว 70-80% เราปรับกำไรปกติปีนี้ขึ้น 11% เป็น +20% Y-Y จากเดิมคาด +9% Y-Y ปรับราคาพื้นฐานเป็น 6.50 บาทจาก 5.20 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากถือ
(+) PIMO เป็นหุ้น Turnaround ที่ฟื้นตั้งแต่ไตรมาสแรก เราคาดกำไรสุทธิ 1Q16 +122% Q-Q, +84% Y-Y เป็น 9 ล้านบาทเพราะลูกค้ามอเตอร์ปั๊มน้ำรายใหญ่เพิ่มคำสังผลิตเกือบเท่าตัว แนวโน้ม 2Q16 ดีต่อจากการผลิตมอเตอร์แอร์ที่มีสัดส่วนเกือบครึ่งของรายได้ เข้าสู่ High season ราคาวัตถุดิบที่เริ่มฟื้นไม่กระทบเพราะผลักให้ลูกกค้าได้ เราคาดกำไรทั้งปี +81% Y-Y คงราคาพื้นฐาน 2.36 บาท คงคำแนะนำซื้อ
(+) SCC กำไรสุทธิ 1Q16 ดีกว่าคาด +19% Q-Q, +23% Y-Y ได้แรงหนุนจากธุรกิจปิโตรเคมีที่ยังโดดเด่น ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงทำให้ Spread ของ HDPE-Naphtha และ PP-Naphtha ดีขึ้น ชดเชยธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างที่ซบเซาได้ กำไรสุทธิ 1Q16 คิดเป็น 30% ของประมาณการทั้งปี เรากำลังทบทวนประมาณการและราคาพื้นฐานปีนี้ที่ให้ไว้ 500 บาท อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่ขึ้นมาเร็วและผลประกอบการที่ประกาศไปแล้ว แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดผสมโดยถูกกดดันจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีที่ร่วงลงหลัง Apple Inc ประกาศผลการดำเนินงานอ่อนแอ ขณะที่ FED ยังส่งสัญญาณว่าจะไม่เร่งรีบขึ้นดอกเบี้ย
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกได้เล็กน้อยโดยนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนทราบผลการประชุม FED และตอบรับเชิงบวกต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศออกมา
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังเปิดผสมโดยยังจับตาดูนโยบายการเงินของ BoJ วันนี้
(0) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวออกข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.05-35.15 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 45.33 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง FED ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยภายหลังการประชุม โดยราคาน้ำมันดิบปรับลงในช่วงก่อนหน้าหลังสต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 7.00 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,250.40 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยปิดทำการก่อนที่จะทราบผลการประชุม FED ซึ่งหลังจากการคงอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อในวันนี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
28 เม.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม, ยอดค้าปลีก (มี.ค.)
- สหรัฐ: 1Q16 GDP
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เม.ย.)
29 เม.ย. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน มี.ค.
- ยูโรโซน: 1Q16 GDP
- ไต้หวัน: 1Q16 GDP
1 พ.ค. - จีน: Manufacturing PMI (เม.ย.)
2 พ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการ: ไทย จีน ฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย (วันแรงงาน)
- ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (เม.ย.)
3-5 พ.ค. - ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการ
3 พ.ค. - จีน: Caixin China PMI Manufacturing (เม.ย.)
- ออสเตรเลีย: ธนาคารกลาง (RBA) ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 2%)
4 พ.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (เม.ย.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (เม.ย.)
5 พ.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตร (เม.ย.)
5-6 พ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการมี ไทย และอินโดนีเซีย
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch