- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 April 2016 17:29
- Hits: 1928
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ไม่หลุด 1,400 จุด ยังมีลุ้นรีบาวด์
คาดดัชนีฯ พักลงทดสอบบริเวณ 1,400 จุด ไม่หลุดจะมีโอกาสขึ้นต่อ แนวต้านวันนี้ 1,420 จุด
ระยะสัปดาห์ ยังอยู่ในโหมดรีบาวด์ กรอบ 1,390/1,400-1,430 จุด คาด FED ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบาย หนุนหุ้นโลก, เมื่อวานส่งออกไทยเดือน มีค.พลิกบวก 1.3% (VS คาด -5%) รายงานเศรษฐไทยรายเดือนมีลุ้นดีกว่าคาด
รายเดือน เมย. ครึ่งแรกของเดือน ดัชนีฯลงตามแรงขายหุ้นกลุ่มบูลชิพบิ๊กแคป (ตามคาด) แต่ครึ่งหลังของเดือน การรีบาวด์จาก 1,350 จุด ขึ้นมารอบนี้ ทำได้ดีกว่าคาด ตอนนี้มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 1,450 จุด ทำให้โมเมนตั้มเปลี่ยนการปรับฐานรอบหน้าในเดือน พค. อาจไม่ลึกอย่างที่คาด แนวรับเปลี่ยนเป็น 1,380/1,370 จุด เราคงแนะนำ เลือกเก็งกำไรรายตัว investment theme: อัพเดท (22 เมย.) งานประมูลภาครัฐฯ แนะนำ BTS NWR TMC ASEFA, หุ้นมีโอกาสปรับประมาณการณ์กำไรขึ้น-กำไรดีกว่าคาดการณ์เดิม COM7 MAJOR EPG และ พลิกจากขาดทุนเป็นมีกำไร แนะ SMT TVD IFEC
หุ้นแนะนำวันนี้ RCL เก็งกำไรแนวรับ 6.45 บ. ต้าน 7/7.50 บ. ตัวเลขการค้าภูมิภาค (ส่งออก-นำเข้า) เริ่มดีขึ้น คาดราคาหุ้นสะท้อนคาดการณ์ผลการดำเนินงานติดลบใน 1Q16 ไปแล้ว ขณะที่ปี 2014-15 มีกำไรสุทธิ 362-442 ล้านบาท ทำให้มูลค่าทางบัญชีปี 2015 อยู่ที่ 13 บาท สะท้อน ราคาหุ้นเทรดที่ PBV 0.4 เท่า / NWR แนวรับ 1.28 บ. ต้าน 1.36 บ./ SUPER แนวรับ 1.60 บ. ต้าน 1.72/1.8 บ.
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) NWR แนะนำ ซื้อเล่นรอบ เกาะกับกระแสกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยเราคาดว่างานในมือที่มีอยู่ 1.4 หมื่นล้านบาท จะหนุนให้บริษัทฯ กลับมามีกำไรได้ในปีนี้ หลังประชุมกับผู้บริหารเราคาดว่างานมาร์จิ้นต่ำที่ทำให้บริษัทขาดทุนรับรู้ไปส่วนใหญ่ในปีที่แล้ว โดยคาดกำไรปีนี้ จะมาจากงานใหม่ที่ให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น จากงานประมูลโครงการภาครัฐฯ โดยเฉพาะงานสุวรรณภูมิ เฟส 2 ที่บริษัทเข้าประมูลโดยตรง นอกจากนี้ บริษัทยังมีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษจาก(1) การได้รับชำระเงินโครงการบำบัดน้ำเสีย มูลค่า 700 ล้านบาท (รวมดอกเบี้ย) เราคาดอย่างน้อยบริษัทจะได้รับคืนในส่วนเงินต้น (250 ล้านบาท) ปัจจุบันคดีอยู่ศาลชั้นสุดท้ายคาดจะตัดสินในปีนี้ บวกกับการ (2) กลับรายการหนี้สูญที่ตั้งสำรองไปในปีที่แล้วราว 210 ล้านบาท เราคาดมีแนวโน้มได้รับชำระเงินจากผู้รับเหมาหลักคืนในปีนี้ เรามองกรอบเป้าหมายที่ 1.50-1.80 บาท อิง PBV 1.05-1.25 เท่า
(+/-) กลุ่มโรงแรม คาดกำไรหลัก 1Q16 เพิ่มขึ้น 8% YoY และ 16% QoQ นำโดย MINT คาดกำไรหลัก 1.7 พันล้านบาท, เพิ่มขึ้น 15% YoY แต่ลดลง 4% QoQ และ ERW คาดกำไรหลัก 156 ล้านบาท, เพิ่มขึ้น 12% YoY และ 50% QoQ ส่วน CENTEL คาดกำไรหลักที่ 788 ล้านบาท, ลดลง 5% YoY, แต่ขึ้น 95% QoQ เราคาดกำไรจะอ่อนตัวลง QoQ ในช่วง 2Q16 เพราะ low season โดยเลือก MINT เป็น top pick เพราะการรวมงบฯ Tivoli เข้ามาจะหนุนให้เห็นการเติบโตสูงในช่วง 2Q16 ได้ (ไตรมาส2 เป็น high season ของ Tivoli ในโปรตุเกส)
(+) HMPRO รายงานกำไร 1Q16 ที่ 866 ล้านบาท, เพิ่มขึ้น 18% YoY แต่ลดลง 24% QoQ (ตามคาด) โดยยอดขายรวมโต 11%YoY ซึ่งสาขาในประเทศโต 7%YoY ในขณะที่ SSSG 3%YoY สำหรับสาขาในมาเลเซียโต 11%YoY ในขณะที่ MEGA home โตสูงถึง 94%YoY คาดกำไร 2Q16 จะดีขึ้นอีกจาก SSSG ที่เริ่มดีขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นที่เริ่มยืนได้หลังจากเปิดตัว house brand ประกอบกับ MEGA home ที่ยังคงโดดเด่น หุ้นเทรดบน P/E forward 12 เดือนที่ 25 เท่า (เท่าค่าเฉลี่ยในอดีต) ในขณะที่กำไรใน 5 ปีข้างหน้าคาดโตดีกว่าในอดีต คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.2 บาท
(+) SCB ประชุมนักวิเคราะห์ 1) NPL ลดลงเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน คาดธนาคารลดการตั้งสำรองลงได้ 31% 2) คาดไม่มี negative surprise จากรายการทางบัญชีจาก SCBLIFE อีก 3) ผู้บริหารตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 4-6% และส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) 3.1-3.3% เป็นไปตามที่เราประมาณการ เรายังคงมอง SCB จะเป็นธนาคารที่ฟื้นตัวเร็วที่สุดในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว และอาจมีการปรับกำไรขึ้นเพราะสินเชื่อมัโอกาสโตดีกว่าคาด คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 157 บาท ปัจจุบันหุ้นเทรด P/BV 1.3 เท่า ซึ่งถูกกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 1.75 เท่า
หุ้นมีข่าว
(-) กลุ่มบ้าน รมว.คลังเผยไม่มีแนวคิดต่ออายุมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ที่กำลังจะสิ้นสุดลงเดือนนี้
(+) TVD สัปดาห์นี้เตรียมประชุมฯ เพื่อล้างขาดทุนสะสมโดยไตรมาส 1/16 คาด กำไร 36 ล้านบาท (ที่ผ่านมาขาดทุนเพราะ การลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งตัดขาดทุนทิ้งไปหมดแล้ว ทำให้กลับมามีกำไรตามปกติ)
(+) SMT วันนี้ประชุม ผถห.อนุมัติ แตกพาร์ แจกวอแรนต์
(-) กลุ่มรับเหมาฯ ส่อวืดลงนามหาผู้รับเหมา สายสีชมพู-เหลือง และ รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ เชียงใหม่ เหตุติดปม PPP สั้ง รฟม.เร่งทำกรอบลงทุนเสนอใหม่ (ที่มา ไทยโพสต์)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-) อังคาร US ยอดขายสินค้าคงทน มีค. คาด +1.7% จาก -3%, เกาหลีใต้ GDP 1Q16 คาด +2.7% จาก +3.1%, สิงคโปร์ Industrial production มีค. คาด -2.3% จาก -4.7%
(+) พุธ US ประชุม FED คาดคงดอกเบี้ย 0.25-0.50% อังกฤษ GDP 1Q คาด +0.4% จาก 0.6% q-q
(-) พฤหัส US GDP 1Q16 คาด +0.7% จาก 1.4%, เงินเฟ้อเยอรมนี, สเปน EU area Economic sentiment, BOJ outlook report, ญี่ปุ่น Industrial production มีค. คาด +2.6% จาก -5.2%
(+) ศุกร์ US เงินเฟ้อ Core PCE มีค.คาด +0.1% คงที่, EU area GDP 1Q16 คาด +0.4% จาก +0.3%, ญี่ปุ่นหยุด, ไทยตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือน มีค. Manufacturing production คาด -0.4% จาก -1.6% y-y
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
รายงานวันนี้
หุ้น: NWR คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 1.50-1.80
Backlog ประกันรายได้ไปอีก 2 ปี คาดในปีนี้จะสามารถรับรู้รายได้ ราว 8,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมถึงงานมอร์เตอร์เวย์ที่บริษัทประมูลได้และอยู่ระหว่างเจรากับกรมทางหลวง
คาดผลการดำเนินงานหลักกลับมามีกำไร จากอัตรากำไรขั้นต้นใน backlog ที่ดีขึ้น เป็นประมาณ 6-7% (ปี 2015 อยู่ที่ 5%)
กรณีดีสุดกำไรพิเศษ 700 ล้านบาท ซึ่งบริษัทชนะคดีจากอนุญาโตฯ และศาลชั้นต้นแล้ว เหลือศาลอุทธรณ์ (ซึ่งเป็นชั้นสุดท้าย) คาดจะตัดสินในปีนี้ และเราคาดบริษัทจะได้รับเงินคืน
กรอบเป้าหมาย 1.50-1.80 บาท ประเมินจากคาดการณ์ book value ที่ 1.43 บาท/หุ้น และ P/BV ที่ระดับ 1.05 - 1.25 เท่า (เทียบเท่าค่าเฉลี่ยในอดีต ถึง ค่าเฉลี่ย+1SD)
นักวิเคราะห์: วิกิจ ถิรวรรณรัตน์, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุนและปัจจัยทางเทคนิค
นักวิเคราะห์: ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: HMPRO คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 9.20
HMPRO รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/59 ที่ 866 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% YoY
คาดแนวโน้มการเติบโตค่อยๆดีขึ้น
เรายังคงประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลง
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ
นักวิเคราะห์: ไชยธร ศรีเจริญ, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
กลุ่ม: ปิโตรเคมี คำแนะนำ: NEUTRAL ราคาเป้าหมาย (บาท): -
ราคาและส่วนต่างราคาปิโตรเคมีเคลื่อนไหวในหลายทิศทางในสัปดาห์ที่แล้ว
ส่วนต่างราคาเอธิลีนอ่อนตัวลงเล็กน้อย WoW ในขณะที่ส่วนต่างราคาโพรพิลีนปรับตัวเพิ่มขึ้นWoW
ส่วนต่างราคา HDPE อ่อนตัวลง ในขณะที่ส่วนต่างราคา MEG ปรับตัวดีขึ้น WoW
ส่วนต่างราคาพีวีซีปรับตัวเพิ่มขึ้น WoW
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม
Technical Analysis
Security: BTS
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 9.8
Stop loss: < 9
Reason: ปรับตัวขึ้นโดดเด่นเมื่อเทียบกับกลุ่ม ขณะที่ราคาทะลุต้านสำคัญ 9 บ. หนุนด้วยวอลุ่มที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
Security: STEC
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 25
Stop loss: < 22.7
Reason: หุ้นสร้างฐานและรอโอกาสของการปรับขึ้น หนุนด้วยวอลุ่มและการปิดเหนือเส้น neckline ส่งสัญญาณแข็งแกร่งไม่ปรับตัวลงตามภาวะตลาด
Security: ASEFA
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 6.5
Stop loss: < 6
Reason: หุ้นขยับขึ้นได้ตามคาดส่งสัญญาณดีดตัวขึ้นจากแนวรับด้านล่าง ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค RSI ปรับตัวขึ้นไปในทิศทางเดียวกับราคา
Security: DEMCO
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 7.6
Stop loss: < 6.9
Reason: เรากำลังหาจุดฟื้นตัวหรือการกลับขึ้นเปลี่ยนเป็นขาขึ้นรอบใหม่ ปัจจุบันพบว่าหุ้นดีดตัวทะลุต้านที่ 7 บ.หลังจากการสร้างฐานอยู่นานซึ่งตำแหน่งของการเริ่มต้นการเปลี่ยนรอบเป็นขึ้น
Security: TOP
Position: ขาย
Reason: ราคาห้นปรับตัวลง ส่งสัญญาณอ่อนกว่าตลาดและกลุ่ม ความเสี่ยงเมื่อราคาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง 68 อาจส่งผลให้ราคาปรับตัวลงแรงคล้ายรูปแบบในอดีต
Security: TRUE
Position: ขาย
Reason: หุ้นเริ่มขยับลง สืบเนื่องจากการปิดต่ำกว่าระดับราคา 7.5 ขณะที่ MACD บ่งชี้ถึงแนวโน้มของราคาหุ้นลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง น่าจะส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้นได้ยาก
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค