- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 25 April 2016 17:31
- Hits: 1466
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดทรงตัวยืนบวกเล็กน้อย ก่อนที่จะไหลลงเข้าสู่แดนลบ พร้อมกับแกว่งตัวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน เนื่องจากเผชิญแรงขายจากหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่นำโดยกลุ่มพลังงาน สื่อสาร และแบงก์ด้วยการทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1410.81 จุด ลดลง 13.09 จุด ขณะที่มีจุดสูงสุดของวันที่ 1425.76 จุด เพิ่มขึ้น 1.86 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มขนส่งเพียงกลุ่มเดียว ทำให้มีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันที่ 14.95 จุด สำหรับหุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวลงของดัชนีได้แก่ PTT, KBANK, SCB, BBL, SCC, IVL, BH ก่อนที่ดัชนีจะทำปิดที่ 1410.81 ลดลง 13.09 จุด (-0.92%) มูลค่าการซื้อขาย 39,488 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวันศุกร์ที่ผ่านมายังคงชะลอตัวต่อ ด้วยการทำ High-Low ต่ำกว่าวันก่อนหน้า และทำปิดที่จุดต่ำสุดของวันส่งผลให้มีรูปแบบของกลุ่มกราฟแท่งเทียนในเชิงลบ (Evening Star) พร้อมกับทำหลุดเส้นแนวโน้มย่อยขาขึ้นที่เพิ่งเบรกผ่านขึ้นไม่นาน และสัญญาณบ่งชี้อย่าง RSI เริ่มตัดค่าเฉลี่ยลงมา ทำให้ Momentum ของการพักตัวนั้นยังคงมีอยู่ โดยมีเป้าหมายที่จะลงมาปิด Gap (1398.81-1403.45) ที่เปิดไว้เมื่อ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา แนวรับ 1400-1405 //1393 จุด ขณะที่แนวต้าน 1418-1426 จุด
กลยุทธ์ : แกว่งตัวผันผวน ในทิศทางที่ชะลอตัว
Support 1390 // 1370 // 1350 จุด Resistance 1430 // 1440 // 1450 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Market Trend
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (22 เม.ย.) - SET Index ปิดตัวลงที่ 1,410.81 จุด ลดลง 13.09 จุด หรือ -0.92% มูลค่าการซื้อขาย 39,488.05 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยเจอแรงเทขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้ อีกทั้งนักลงทุนยังชะลอการลงทุนเพื่อจับตาการประชุม FOMC
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี Dow Jones ปิดตัวลงที่ 18,003.75 จุด เพิ่มขึ้น 21.23 จุด หรือ +0.12% ตลาดฯได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ตลาดฯมีปัจจัยเฉพาะตัวจากผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทในสหรัฐฯ แต่ด้าน Stoxx Europe 600 ปรับลง -0.3% จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มยานยนต์
ราคาน้ำมันดิบ WTI (JUN) - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 43.73 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาวะอุปทานน้ำมันในสหรัฐเริ่มปรับตัวลดลง
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - มาร์กิต อิโคโนมิค ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนเม.ย.ของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 50.8 ลดลงจากระดับ 51.5 ในเดือนมี.ค. เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552
เศรษฐกิจยุโรป - ผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.0 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบสองเดือน จากระดับ 53.1 ในเดือนมี.ค.
เศรษฐกิจจีน - ธนาคารกลางจีนดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากการอัดฉีดเม็ดเงิน 2.4 แสนล้านหยวนเข้าสู่ตลาดในวันนี้ ผ่านทางข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) อายุ 7 วัน
เศรษฐกิจจีน - กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และประกันสังคมของจีนเปิดเผยว่า อัตราว่างงานในเขตเมืองของจีนในเดือนมีนาคมอยู่ที่ 4.04% ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 4.05%
น้ำมัน - ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมน้ำมันของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) กล่าวว่า เขาเชื่อว่าทั้งรัสเซียและซาอุดิอาระเบียจะยังคงผลิตน้ำมันมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ทิศทางตลาดหุ้นไทย เนื่องด้วยตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ที่จะทำให้ดัชนีฯสามารถเดินต่อไปได้ ความกังวลต่อผลประกอบการของหุ้นกลุ่มธนาคาร นักลงทุนกลุ่มหลักของตลาดคือสถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศเริ่มมีการขายหุ้นให้เห็น และสัปดาห์นี้ จะมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญและ Event ทั้งของไทยและต่างประเทศ หลายตัว อาทิ ตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค.ของไทย ที่คาดว่าจะรายงานในวันนี้ (ตลาดคาด -4.8% YoY) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น และตัวเลข GDP Q1 ของสหรัฐฯและอียู ซึ่งจะทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผล ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบ ซึ่งมีความแข็งแกร่งมากพอควร อาจช่วยพยุงตลาดไว้ สำหรับทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ประเมินว่า น่าจะผันผวนจากความไม่แน่นอนในปัจจัยต่างๆ และมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงจากวันก่อน ................ ปัจจัยที่จะมีผลต่อการซื้อขายในระหว่างวัน ได้แก่ การตอบรับต่อตัวเลขส่งออกของไทยที่จะออกมา (เราคาดว่าน่าจะออกมาดีกว่าที่คาด เนื่องจากตัวเลขส่งออกทองคำ มักจะสูงขึ้นหากราคาทองคำรับตัวสูงขึ้น) แรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารหลัง SCB ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้เป็นแห่งที่ 3 และทิศทางค่าเงินดอลล่าร์ ซึ่งจะอิงกับการคาดการณ์ผลประชุม FOMC และ BOJ
กลยุทธ์การลงทุน ทิศทางตลาดที่ยังไม่ชัดเจนนัก และเรามองว่าตลาดน่าจะมีการพักตัวเพื่อรอความชัดเจนของหลายปัจจัยที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ ทำให้เรายังคงแนะนำให้ชะลอการลงทุน เลือกขายทำกำไรช่วงสั้นหุ้นที่ปรับขึ้นมามาก โดยเฉพาะกลุ่มที่นักลงทุนระดับสถาบันฯลงทุน ……… หุ้นกลุ่มนำตลาดในวันนี้ คาดจะยังเป็นหุ้นในกลุ่มของสินค้าโภคภัณฑ์ (ต้นน้ำ) ......... หุ้นที่เราคาดว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจสำหรับการเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ในวันนี้ อาทิ HANA , PLANB , WICE
Stock in Focus
ILINK : (ราคาปิด 15.20 บาท; ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 20.58 บาท) บริษัทดำเนินธุรกิจด้าน ICT โดยรายได้หลักจะมาจากการจัดจำหน่ายสายสัญญาณ ...... โครงการนำสายไฟลงดิน ระยะทางรวม 127.3 กม. ระยะเวลา 10 ปี มูลค่ารวม 48,717 ล้านบาท ของภาครัฐ จะส่งผลบวกต่อธุรกิจของบริษัท เนื่องจากจะทำให้มีความต้องการใช้สายสัญญาณ ด้านการสื่อสารและระบบ ICT ต่างๆมากขึ้น โดยโครงการนำร่อง จะเป็นโครงการสายไฟลงดิน นนทบุรี มูลค่า 2,500 ล้านบาท และยังมีโครงการเพิ่มเติมออกมาเป็นระยะๆ นอกจากนี้ ILINK ยังได้ประโยชน์จากโครงการเคเบิ้ลใต้น้ำที่เกาะสมุย มูลค่า 2,300 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเซ็นสัญญาในช่วง 3Q59………
นอกจากนี้ นโยบายพัฒนาโครงข่ายอินเตอร์เนต ครอบคลุม 30,000 หมู่บ้าน และ นโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ มูลค่ารวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท หรือการเข้าสู่ยุคของ Digital Economy จะเป็นปัจจัยบวกต่อ sentiment ของหุ้นกลุ่มนี้อีกด้วย ...... ช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง คาดส่วนหนึ่งมาจากแรงเทขายหุ้นที่มาจากการแปลงสภาพ ILINK-W1 ในราคา 8 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาตลาด เข้ามาซื้อขาย ตั้งแต่ 11เม.ย.59 จำนวน 10.6 ล้านหุ้น
News Release :
คิงเพาเวอร์ซื้อหุ้นAAV ธรรศพลฐ์ขายทำกำไร ลือซื้อในราคา 2 เท่าของบุ๊คแวลู 4.15 บาท
+ 11 หุ้น "SUPER-PSTC-IFEC-AKR-GUNKUL-GPSC-SCN-BCP-TSE-SOLAR-EPCO" ซิวโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ เบื้องต้นได้ 1-4 โครงการ "SUPER" นำทีมได้ 18 MW หลังวานนี้กกพ.ประกาศผลจับสลากมีผู้ชนะ 67 โครงการ รวม 281.32 MW (ข่าวหุ้น)
PLANB คว้าสิทธิ์บอลไทย 4ปีการันตีรายได้3พันล้าน
+ "PLANB" คว้างานใหญ่ ได้รับสิทธิ์ดูแลผลประโยชน์ "สมาคมฟุตบอลไทย" ควบ "พรีเมียร์ลีก ไทยแลนด์" ตลอด 4 ปี การันตีรายได้ให้ 2 หน่วยงานรวมกว่า 3,000 ล้านบาท ฟาก PLANB เชื่อฟาด 15% ของรายได้ที่เกิดขึ้น(ข่าวหุ้น)
DTAC ยันไม่ร่วม ประมูลคลื่น 900 กำไร Q1 ลด 45%
+ DTAC แจ้งจุดยืนชัด ไม่เข้าประมูลคลื่น 900 MHz รอบใหม่ ยันคลื่นเดิมที่มีอยู่เพียงพอต่อการให้บริการ ขณะที่แจ้งงบไตรมาส 1/59 มีกำไรสุทธิ 1,256 ล้านบาท ทรุดลง 45% เหตุอีบิทด้าลดลง-มีค่าเสื่อมราคาฯ-ค่าใช้จ่ายทางการเงินสูงขึ้น(ข่าวหุ้น)
ช้อป 9 หุ้นราคาแลกการ์ด คาดงบปีนี้กำไรโตแกร่ง
+ เลือกซื้อลงทุน 9 หุ้นแลกการ์ด-กำไรปี 59 แกร่ง "ILINK-UNIQ-MTLS-FORTH-TMB-PLANB-BEAUTY-FSMART-EA" วิ่งช้ากว่าดัชนีตลาดหุ้น โบรกฯ การันตีคาดการณ์กำไรเติบโตทุกตัว(ข่าวหุ้น)
Q1 แบงก์กลาง-เล็กอ้วน TMB-KKP-BAYกำไรพุ่ง
+ ไตรมาส 1/59 ธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและเล็ก นำโดย BAY-TMB และ KKP ต่างมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสูง ส่วนแบงก์ขนาดใหญ่ทั้ง BBL-KBANK-SCB และ KTB กำไรปรับลง แต่ทั้งหมดเป็นไปตามที่โบรกฯ คาดการณ์ไว้ ลุ้นไตรมาส 2 นี้ดีขึ้น(ข่าวหุ้น)
UTP ตั้งป้อมโซ้ยออเดอร์ ปั้นผลงานปี 59 โตร้อนแรง
+ UTP ลั่นผลงานปี 2559 โตสดใส หลังลูกค้ารายใหญ่เรียงคิวป้อนออเดอร์เพียบ "วัชชระ ชินเศรษฐวงศ์" เร่งเครื่องขยายกำลังการผลิตใหม่ 30% หรือ 2.5 แสนตันต่อปี ส่งซิกเริ่มผลิตจริงไตรมาส 3-4/2559 นี้ ตั้งป้อมซดออเดอร์ล็อตใหม่ทันที พร้อมสยายปีกต่างประเทศ ตั้งเป้ายอดส่งออก 3.6 หมื่นตันต่อปี โบรกชี้ UTP มีลุ้นขึ้นทดสอบนิวไฮ 6 บาท(ทันหุ้น)
DEMCO-GUNKUL ตีปีก แบ่งเค้กงานระบบโซลาร์
+ DEMCO ควงแขน GUNKUL รับทรัพย์งานติดตั้งระบบโซลาร์ หลังโครงการโซลาร์สหกรณ์จับสลากผ่านฉลุย กูรูคาดแบ่งเค้กรับงาน 60:40 ชี้ยังมีงานประมูลโรงไฟฟ้าเรียงคิวอื้อ เชื่อปลุกหุ้นกลุ่มรับเหมาติดตั้งระบบคึกคัก เชียร์ซื้อลงทุน เคาะเป้าหมาย DEMCO ที่ 9 บาท ส่วน GUNKUL วางพิกัด 26 บาท(ทันหุ้น)
FORTH ซุ่มคว้าดีลสื่อสาร
+ FORTH ซุ่มดีลงานสื่อสารล็อตใหญ่ 1.5 พันล้านบาท ตุน Backlog เพิ่มจากเดิมราว 300-400 ล้านบาท บิ๊ก "ชัชวิน พิพัฒน์โชติธรรม" การันตีปี 2559 รายได้ทะยาน 15% จากปีก่อนที่ 5.12 พันล้านบาท โปรเจ็กต์เรียงคิวเพียบ-ธุรกิจบริษัทลูกหนุนโบรกเชียร์ "ซื้อ" เป้าไกล 11.00 บาท ฟันธงปีนี้กำไรพองทะลุ 500 ล้านบาท เทรนด์สื่อสารบูม-ตู้บุญเติมโตต่อเนื่อง(ทันหุ้น)
SCC จ่ออวดงบ Q1 สุดหรู รับทรัพย์เคมีภัณฑ์ขาขึ้น
+ SCC เตรียมโชว์ผลงานไตรมาสแรกสุดเจ๋ง จ่อร่อนงบ 27 เมษายนนี้ วงการคาดกำไรพุ่ง 1.17 หมื่นล้านบาท ได้ธุรกิจเคมีภัณฑ์ช่วยหนุนหลังสเปรดเคมีภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หวังโครงการรัฐดันความต้องการใช้ปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ :
มงคล พ่วงเภตรา นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์