WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index: แนวโน้มลงทดสอบ 1400
  SET Index: 1412.43 เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 1410-1412 จุด หลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคที่บริเวณแนวต้าน 1430 และ 1420 จุด ทำให้แนวโน้มของ SET Index ยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1400 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1370 จุด ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวควรรอให้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปเหนือระดับ 1425 จุด จะเป็นสัญญาณกลับเข้าไปซื้อหุ้น เพื่อคาดหวังเป้าหมายขึ้นไปที่ 1470 จุด
  แนวต้าน : 1414 และ 1416
  แนวรับ : 1410 และ 1404

BANPU = 11.80 / 12.20, GPSC = 28.50 / 29.50, ADVANC = 154 / 156, PTT = 154 / 156, JAS = 4.24 / 4.30

S P V I (SPVI TB; THB 1.02) – ซื้อ
  แนวต้าน : 1.07 และ 1.11
  แนวรับ : 1.02 และ 1.00
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องพร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคพร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่งทะลุผ่านแนวโน้มขาลงในระยะยาว
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70
  แนะนำซื้อ SPVI โดยมีแนวรับที่ 1.02 และ 1.00 และมีแนวต้านที่ 1.07 และ 1.11 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 0.97 ลงไป

Exotic Food (XO TB; THB 6.35) – ซื้อ
  แนวต้าน : 6.70 และ 7.00
  แนวรับ : 6.35 และ 6.30
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 6.20 ขึ้นไปทำจุดสูงสุด ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 70
  แนะนำซื้อ XO โดยมีแนวรับที่ 6.35 และ 6.30 และมีแนวต้านที่ 6.70 และ 7.00 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.15 ลงไป

SET50 Index Futures
  S50M16 เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณแนวรับสำคัญในระยะสั้น 890 หลังจากปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคที่บริเวณ 900 ลงไป ซึ่งเราแนะนำให้ Open Short ที่แนวต้าน 905 และ 915 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 890 และรอ Short อีกครั้ง ถ้าหลุด 886 ลงไป
  แนวต้าน : 894 และ 896
  แนวรับ : 890 และ 887
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้รอ Open Short ใน S50M16 อีกครั้ง ถ้าหลุดแนวรับที่ 886 ลงไป โดยมีแนวต้านที่ 897 และ 900 เป็นแนวต้านสำคัญ
  STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50M16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 900 ขึ้นไป

JASM16
  เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่องหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 4.30 ซึ่งเรายังคงคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 4.40-4.50 และมีแนวรับสำคัญที่ 3.80 การปรับตัวลดลงในระยะสั้นไปทดสอบ 4.00 และ 3.90 ยังคงแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะ Open Long
  แนวต้าน : 4.30 และ 4.40
  แนวรับ : 4.20 และ 4.14
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน JASM16 ที่แนวรับ 4.14 และ 4.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.30 และ 4.40
  STOP LOSS สถานะ Long ถ้า JASM16 ปรับลดลงหลุดระดับ 3.74 ลงไป

ITDM16
  ปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.80-7.85 หลังจากปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ 7.55-7.60 บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.80 ซึ่งเรายังคงคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับที่ 7.00-7.10 และมีแนวต้านที่ 7.80 และ 8.00
  แนวต้าน : 7.70 และ 7.80
  แนวรับ : 7.55** และ 7.40
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้รอกลับเข้าไป Open Short ใน ITDM16 เมื่อปรับตัวลดลงหลุดระดับ 7.55 ลงไป และมีแนวรับถัดไปที่ 7.20 และ 7.10
  STOP LOSS สถานะ Short หลังจาก ITDM16 ทะลุผ่าน 7.66 กลับขึ้นไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]

บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET...แกว่งทั้งแดนบวกและลบ
  ทิศทางดัชนีทั่วโลกในสัปดาห์นี้ยังคงขึ้นอยู่กับงบกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐ ราคาน้ำมันและการประชุม FOMC โดยสัปดาห์นี้หุ้นใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐที่จะทยอยประกาศคือ Facebook 3M MasterCard United Technology UPS และ AT&T โดยที่ออกมาแล้วและออกมาไม่ดีคือ Microsoft และ AlPhabet ส่วนราคาน้ำมันถือว่ายังยืนได้หลังตัวเลขปริมาณสต๊อกน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดแต่ยังต้องติดตามปฎิกริยาของทาง Hedge fund ว่าจะ Short หรือ Long เพิ่ม ประเด็นที่ตลาดให้ความสนใจมากสุดคือ การประชุม FOMC ซึ่งคาดกันว่าทาง FED จะคงดอกเบี้ย แต่นักเศรษฐศาสตร์ 2 ใน 3 มองมีโอกาสจะขึ้นในเดือน มิ.ย. (รูปด้านขวา)
  คาดกันว่าตลาดหุ้นสหรัฐยังต้องรับข่าวในเชิงลบกับผลการดำเนินงาน Q1/16 ที่คาดดว่าจะออกมาติดลบ 7.1% (จากการสำรวจของ Thomson Reuters) ส่วนค่าเงินดอลลาร์เริ่มแข็งตัวขึ้นเมื่อเทียบเงินเยน หลังคาดกันว่าทางญี่ปุ่นอาจจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินหลังประสบกับการเกิดแผ่นดินไหว หากมาดูความถูกความแพงของตลาดหุ้นสหรัฐผ่านดัชนี S&P 500 จะพบว่าตอนนี้กำลังขึ้นมาเทรดกันที่ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าที่ 17.8 เท่า ถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2004 จากรูปด้านซ้าย เราแสดงค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าของ S&P 500 นับตั้งแต่ปี 1986 โดยดูรอบการขึ้นใหญ่ๆ 3 รอบ คือตั้งแต่ปี 1990 ถึง 1999 (กินเวลาเกือบ 9 ปีครึ่ง) 2002 ถึง 2008 (กินเวลาประมาณ 5 ปี) และล่าสุดตั้งแต่ปี 2009 ถึงปัจจุบัน (กินเวลาไปแล้ว 7 ปีกว่าๆ) พบว่าในช่วงที่ดัชนีขึ้นไปเล่นที่ค่า P/E สูงๆ แล้วไม่มีปัจจัยหนุนต่อ ดัชนี S&P จะปรับตัวลงแรง
  ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐที่ขึ้นมาเล่นในระดับสูง แล้วเริ่มไม่มีปัจจัยหนุน ในทางกลับกันกลับจะเริ่มมีปัจจัยลบเกิดขึ้น อย่าง ผลการดำเนินงาน Q1/16 และตัวเลข GDP Q1/16 ออกมาแย่ ส่วนปัจจัยที่เคยหนุนตลาดอย่าง ราคาน้ำมัน ตอนนี้ดูเหมือน UPside จะมีไม่มาก คือหากขึ้นต่อน่าจะยังขึ้นในกรอบ 45+/- ดอลลาร์ต่อบารเรล์ เราจึงมองว่าในเดือน พ.ค. ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐน่าจะมีการปรับฐาน ซึ่งจะส่งผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงแรกๆ
  ทิศทางดัชนี SET เมื่อขึ้นมายืนเหนือ 1400 จุดได้สำเร็จ แนวโน้มต่อไปจะเป็นอย่างไร ในช่วงสัปดาห์นี้ เรามองว่าทิศทางดัชนีจะเต็มไปด้วยความผันผวน ที่เกิดจาก ข้อจำกัดทางเทคนิค ดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศ ผลการดำเนินงานและ ราคาน้ำมัน โดยประเด็นที่กล่าวมา เรามองว่าจะมีแนวโน้มในเชิงลบกับตลาดมากกว่าในเชิงบวก ส่วนประเด็นภายใน คือ หุ้นที่ดันตลาดมาโดยตลอดอย่าง พลังงาน หลายๆตัวระดับราคาขึ้นมาที่เป้าเฉลี่ยกลาง อย่าง PTT PTTEP และ TOP ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารหลังผลการดำเนินงานทยอยประกาศ เริ่มอ่อนตัวลง
  ปัจจัยภายในที่อาจส่งผลด้านบวกกับดัชนีในช่วงสั้นๆ คือการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ อย่างส่งออกและนำเข้า ซึ่งคาดกันว่าจะออกมาในเชิงบวกในเดือน มี.ค. แต่คงเป็นช่วงสั้นๆ วันนี้มองดัชนี SET น่าจะแกว่งในกรอบแคบทั้งแดนบวกและลบ จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุน โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1415-1420 จุด ส่วนแนวรับที่ 1405-1400 จุด หุ้นที่นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มค่า EPS (รายสัปดาห์) สูงขึ้นคือ STPI GPSC และ IVL

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

Morning Market Summary…
  SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,412.43 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด (+0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 14,609.78 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งในกรอบแคบ ตลาดรอปัจจัยใหม่มาหนุน ติดตามผลประกอบการ Q1/59 ที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้ ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูดผลการประชุมของเฟด (26-27 เม.ย.) และบีโอเจ (28 เม.ย.)

Afternoon Perspective…
  แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งแคบ โดยตลาดยังรอปัจจัยหนุนในเรื่องผลการดำเนินงานที่จะเริ่มทยอยออกช่วงปลายเดือนนี้ ซึ่งเรามองว่าจะช่วยหนุนตลาดให้กลับมาคึกคักอีกรอบ โดยยังมองในรูปแบบเดิมคือ หุ้นขนาดกลางและเล็กจะยังเป้นกลุ่มที่น่าจะปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่ มองแนวรับ 1410 จุด และ 1404 จุด แนวต้าน 1416 จุด และ 1436 จุด โดยกลุ่มหุ้นที่ยังมองว่าน่าสนใจ จะเป็น JAS ,TWPC, CPALL, DCC, TRT, RS, SGP

Fundamental Picks & Technic (PM) ...
  SPVI (SPVI TB; THB 1.02) - ซื้อ
  Exotic Food (XO TB; THB 6.35) - ซื้อ

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected] 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!