- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 22 April 2016 22:14
- Hits: 1161
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
พักฐาน
คาดหุ้นไทยปรับตัวลงวันนี้ ตามตลาดหุ้นสหรัฐ จากเหตุผลประกอบการ บจ.สหรัฐเป็นที่น่าผิดหวัง และราคาน้ำมันกลับมาร่วงลงแรงอีกตลาดการเงิน และโภคภัณฑ์โลก รวนเรเล็กน้อยในวันพฤหัส เห็นได้จากความต้องการสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำลดลงในตลาดพันธบัตรสหรัฐและยุโรป รวมทั้งทองคำ แต่กลับเพิ่มขึ้นในรูปเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นอีก ขณะเดียวกันทองแดงกลับมีราคาพุ่งทำจุดสุงสุดในรอบ 4 สัปดาห์จากคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากจีน สะท้อนเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของจีน ภายในประเทศคำเตือนเรื่อง ประมงผิดกฎหมายจากสหภาพยุโรปเป็นปัจจัยลบต่อประเทศ และตลาด อย่างไรก็ตาม การจับฉลากหาผู้ได้รับสัญญาผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ 67 สหกรณ์ เป็นข่าวดีต่อกลุ่มพลังแสงอาทิตย์
หุ้นเด่นวันนี้ : BTS (ราคาปิด 9.10 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 59 AWS 10.00 บาท)
บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง เป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์หลักจากการเร่งผลักดันโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐในปีนี้ นอกเหนือจากสัญญาเป็นผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต และ แบริ่ง-สมุทรปราการ) ซึ่งบริษัทมีโอกาสที่จะได้รับคัดเลือกสูงในเร็วๆ นี้ BTS ยังมีความพร้อมที่จะเข้าประมูลสัญญารถไฟฟ้าเพิ่มเติมหลังรัฐบาลได้อนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู, สีเหลืองและสีส้มแล้วในปีนี้ นอกจากนี้ เราคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานของ BTS ในปี FY60 (เม.ย. 59 - มี.ค. 60) เติบโตโดยได้รับแรงหนุนจาก 1) การเติบโตตามปกติของบริษัทจากส่วนแบ่งกำไรผ่านการถือหุ้นใน BTSGIF, รายได้จากโรงแรมยูสาทร, ร้านอาหารเชฟแมน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับบัตรแรบบิท 2) สื่อโฆษณาใหม่ ๆ ของ VGI ที่จะเริ่มทำรายได้เต็มปี รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจาก MACO หลัง VGI ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติม 3) โครงการคอนโดมิเนียมโครงการแรกภายใต้บริษัทร่วมทุนระหว่าง BTS และแสนสิริ จะเริ่มโอนกรรมสิทธิได้ในเดือนธ.ค. 59 เราประมาณการกำไรจากการดำเนินงานงวด FY60 จะเติบโตได้ 25% YoY นอกจากนี้ เราคาดว่าบริษัทจะประกาศจ่ายเงินปันผลอีก 0.33 บาทต่อหุ้น หรือ 7.3% p.a. ภายในเดือน พ.ค. นี้ จากผลประกอบการงวด 2HFY59 และสภาพคล่องส่วนเกิน. รูปแบบราคาของ BTS ยังคงมีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลางจากการเกิดทั้งสัญญาณซื้อในรายวันและรายสัปดาห์ แต่ยังคงถูกกดดันจากสัญญาณขายในรายเดือนอยู่ ราคาหุ้นน่าจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบเป้าหมายถัดไปที่ 9.25 บาท และ 9.55 บาท ตามลำดับ โดยมีจุด Stop Loss ในรอบนี้อยู่ที่ 8.95 บาท (แนวต้าน: 9.15, 9.20, 9.25; แนวรับ: 9.05, 9.00, 8.95)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ยูเตือนให้ไทยแก้ปัญหาประมง รองนายกฯ ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ ระบุว่าสหภาพยุโรปได้เตือนไทยเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะได้ใบแดงหากไม่สามารถแก้ปัญหาประมงได้ อย่างไรก็ดี ทางการไทยยืนยันว่าได้เร่งแก้ปัญหานี้แล้ว ขณะที่อียูยังไม่ได้ระบุเส้นตายที่จะทบทวนสถานะใบเหลืองของประเทศไทยหลังจากได้ทบทวนไปแล้วเมื่อเดือน ม.ค. (Bangkok Post)
รัฐมุ่งเลื่อนอันดับประเทศ รัฐบาลหวังว่าจะพัฒนาอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศในปีนี้ จากความพยายามเอื้อให้การทำธุรกิจง่ายขึ้น เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและลงทุนเพิ่มเติมในการวิจัยพัฒนา ปีที่แล้วไทยอยู่อันดับ 30 จาก 61 ประเทศร่วงจากอันดับ 27 ในปี 56 และอันดับ 29 ในปี 57 รายงานจาก สถาบันการจัดการนานาชาติจะออกมาอย่างเป็นทางการใน พ.ค.นี้ (Bangkok Post)
หน่วยงานภาคการเกษตรและสหกรณ์จำนวน 67 ราย ผ่านการคัดเลือกคุณสมบัติและชนะการจับสลากในการลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวนทั้งสิ้น 280 เมกะวัตต์ โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนจำหน่ายภายใน 120 วัน และต้องก่อสร้างโรงไฟฟ้าและจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในวันที่ 31 ธ.ค. ปีนี้ โดยมีอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 25 ปี ในอัตราค่าไฟฟ้า FiT ที่ 5.66 บาท/หน่วย สำหรับบริษัทจดทะเบียนฯ ที่ได้ยื่นเป็นผู้สนับสนุนโครงการของกลุ่มสหกรณ์ภาคการเกษตรและเข้าร่วมการลงทุนดังกล่าวนั้นพบว่า BCP จับสลากได้ 3 โครงการ รวม 12 เมกะวัตต์ TSE จับสลากได้ 2 โครงการรวม 6 เมกะวัตต์ SOLAR จับสลากได้ 3 โครงการรวม 9 เมกะวัตต์ GUNKUL จับสลากได้ 1 โครงการขนาด 5 เมกะวัตต์ IFECจับสลากได้ 1 โครงการขนาด 6 เมกะวัตต์ SUPER จับสลากได้ 4 โครงการรวม 18 เมกะวัตต์ SCN จับสลากได้ 1 โครงการขนาด 5 เมกะวัตต์ GPSC จับสลากได้ 1 โครงการขนาด 5 เมกะวัตต์ PSTC จับสลากได้ 2 โครงการรวม 10 เมกะวัตต์ (Bangkok Post/ InfoQuest) ความเห็น: เรามองว่าผู้รับเหมา EPC ซึ่งมีผู้เล่นน้อยกว่าที่เตรียมจะก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เหล่านี้ น่าจะได้รับประโยชน์มากกว่าผู้ที่ชนะโครงการโรงไฟฟ้าข้างต้นซึ่งแต่ละรายได้รับโครงการเพียงขนาดเล็กๆ เท่านั้น GUNKUL (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 31.25 บ.) ยังคงเป็น Top pick ของเรา
ต่างประเทศ
ความต้องการพันธบัตรสหรัฐลดลง อัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงกว่า 3 สัปดาห์เมื่อวันพฤหัสเนื่องจากราคาน้ำมันยืนใกล้ระดับสูงสุดในช่วงไม่นานมานี้ซึ่งลดความต้องการลงทุนในพันธบัตรสหรัฐ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยุโรปปรับตัวขึ้น ราคาพันธบัตรอ้างอิงอายุ 10 ปีลดลง 5/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 1.87% เพิ่มขึ้นจาก 1.85% จากเมื่อวันพุธ และ 1.78% เมื่อวันอังคาร การอ่อนตัวลงของราคาพันธบัตรรัฐบาลยุโรปซึ่งหนุนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้เพิ่มความกดดันหลังจากมีรายงานว่ากรีซมีรายรับของรัฐสูงเกินรายจ่าย (Primary surplus) ในปีก่อน (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับเงินยูโรหลังจากคำแถลงของประธาน ECB แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันพฤหัสส่วนเงินเยนแข็งค่าขึ้นจากความต้องการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงลดลง เงินยูโรล่าสุดลดลง 0.04% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 1.1290 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากแตะระดับสูงสุดที่ 1.1394 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐล่าสุดปิดลดลง 0.35% เทียบกับเงินเยนอยู่ที่ 109.44 เยน อ่อนค่าลงหลังจากที่แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ที่ 109.89 เยนในช่วงต้นของการซื้อขาย ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ล่าสุดปิดเพิ่มขึ้น 0.11% อยู่ที่ 94.592 จุด (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันพฤหัส หลังจากที่อยู่ในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ดีและไม่ดี หุ้น Verizon ลดลง 3.3% หลังจากมีคำเตือนว่าการนัดหยุดงานของพนักงานอาจมีผลกระทบต่อกำไรบริษัท นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนจะออกมาต่ำ ซึ่งบริษัทจดทะเบียนที่ใช้ในการคำนวณดัชนี S&P500 จะมีกำไรโดยเฉลี่ยลดลง 7.2% จากข้อมูลของทอมสัน รอยเตอร์ส (Reuters)
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐลดลงเกินคาดในสัปดาห์ก่อน แตะระดับต่ำสุดนับแต่ปี 2516 บ่งชี้ว่าการชะลอตัวอย่างมากของการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 1/59 จะเป็นการชั่วคราว จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลง 6,000 ราย อยู่ที่ 247,000 ในสัปดาห์ก่อน ต่ำสุดนับแต่เดือนพ.ย. 2516 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 263,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวในขณะนี้อยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นเวลา 59 สัปดาห์แล้วซึ่งยาวนานที่สุดนับแต่ปี 2516 (Reuters)
กิจกรรมของโรงงานในย่านมิด-แอตแลนติกลดลงแต่ยังมีแนวโน้มสดใส ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกลดลงสู่ระดับ -1.6 ในเดือนนี้จากระดับ 12.4 ในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดกิจกรรมของโรงงานในอนาคตยังดีขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณคำสั่งซื้อที่ การส่งสินค้าและตำแหน่งงานในโรงงาน(Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากที่ที่ประชุม ECB มีมิตคงอัตราดอกเบี้ยไว้ ขณะที่หุ้นอุปกรณ์สื่อสารโทรคม Ericsson และหุ้น Pernod Ricard ซึ่งประกอบธุรกิจเครื่องดื่มสัญชาติผรั่งเศส ต่างปรับตัวลดลงหลังจากเปิดเผยข้อมูลอัพเดตที่น่าผิดหวัง ทั้งนี้หุ้น Volkswagen ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่สามารถตกลงกับทางสหรัฐฯ ในประเด็นที่รถยนต์จำนวน 600,000 คันก่อให้เกิดมลพิษส่วนเกินออกมา โดยทางบริษัทฯ จะเรียกซื้อรถคืนและบางส่วนจะทำการซ่อมแซมแก้ไข (Reuters)
ECB ยังผ่อนคลายนโยบาย พร้อมกระตุ้นเพิ่มหากจำเป็น ประธาน ECB ยังคงต้นทุนการกู้ยืมไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ยังคงยึดถือการผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างมากและกล่าวว่าพร้อมจะซื้อหุ้นกู้เอกชนและออกมาตรการรีไฟแนนซ์ต้นทุนต่ำครั้งใหม่ใน มิ.ย. (Reuters)
เอเชีย :
ญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะออกมาตการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ทั้งด้านการคลังและการเงิน ทั้งนี้เพื่อช่วยฟื้นฟูและสร้างเสถียรภาพของค่าเงินเยนโดยไม่มีการแทรกแซงทางตรง หลังจากค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นผลักดันให้การส่งออกเดือนมีนาคมลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่หก รวมถึงเหตุแผ่นดินไหวที่รุนแรงทางตอนใต้ของประเทศ BOJ จึงหันมาเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อ นายกรัฐมนตรี นายชินโซะ อาเบะ พร้อมจะประกาศมาตรการพิเศษเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 10 ล้านล้านเยน หรือ 91 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือน พฤษภาคม นี้ (Reuters)
มิตซูบิชิบิดเบือนข้อมูลเรื่องการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ญี่ปุ่น เคอิจิ อิชิ บอกว่าอยากเห็น มิตซูบิชิ คอร์ป มียอมรับ "ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต" หลังจากการเปิดเผยการโกงในการทดสอบ เพื่อวัดการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งอาจจะนำมาสู่การเรียกคืนรถยนต์ที่มีปัญหา หุ้นมิตซูบิชิตกอย่างหนักในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากถูกห้ามซื้อขายตลอดวันในวันพฤหัสบดี ท่ามกลางคำสั่งขายที่ล้นทะลักเข้ามา (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันลดลง 3% วันพฤหัส ชะงักหลังวิ่งขึ้นไปสองวัน เพราะผู้ผลิตน้ำมันจากรัสเซียไปซาอุดิอาระเบีย และจากอิหร่านไปลิเบียบอกเป็นนัยว่าจะมีผลผลิตออกมามากขึ้นท่ามกลางสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ล้นอยู่แล้ว Brent ปรับลง 1.27 ดอลลาร์ (-2.8%) ปิดที่ 45.53 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังบวกไป 7% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ราคาน้ำมันสหรัฐลดลง 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.18 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ทองแดงพุ่งขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สี่ในวันพฤหัส หนุนโดยการคาดการณ์กันมากขึ้นว่าอุปสงค์จากจีนจะดีขึ้นหลังข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัวออกมาแข็งแรงขึ้น ทองแดงอ้างอิงตลาด LME ปิดบวก 0.4% อยู่ที่ 5 พันดอลลาร์ต่อตัน หลังจากก่อนหน้าขึ้นไปถึง 5,065 ดอลลาร์สหรัฐและร่วงไปแตะ 4,930 ดอลลาร์ตอนที่กองทุนเลิกเก็งว่าราคาโภคภัณฑ์จะเพิ่มขึ้นหลังตลาดนิวยอร์คเปิด (Reuters)
ราคาทองร่วงวันพฤหัส จากที่ไปแตะจุดสูงสุดรอบ 5 สัปดาห์ เพราะความเห็นจาก ECB ทำให้ค่าเงินยูโรแข็งขึ้น ราคาทองคำตลาดจรบวก 0.4% ปิดที่ 1,248.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดห้าสัปดาห์ที่ 1,270.10 ดอลลาร์อยู่พอสมควร ทองคำล่วงหน้าสหรัฐส่งมอบ เม.ย. ลดลง 0.3% ปิด 1,249 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331