- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 21 April 2016 23:03
- Hits: 636
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ฟื้นตัวกรอบจำกัด หุ้นน้ำมันยังโดดเด่น
KGI คาด SET วันพฤหัสฯ รีบาวด์ มีโอกาสกลับไปแถว 1,420 (วานนี้ไซด์เวย์ อ่อนกว่าคาดเล็กน้อย) หุ้นน้ำมันยังเป็นหลักยึดของตลาด หลังราคาน้ำมัน WTi พุ่ง 7.3% เมื่อคืน ตามรายงานสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่เพิ่มน้อยกว่าคาด และกระแสข่าวในตลาดน้ำมันว่ารัสเซียอาจจัดประชุมฉุกเฉินในเดือน พ.ค. เพื่อหาข้อสรุปต่อนโยบายปริมาณผลิตน้ำมัน (หากข่าวนี้หายไปจากตลาด น้ำมันอาจปรับฐาน) ขณะที่หุ้นหลักกลุ่มอื่นๆ น่าจะทรงตัวคล้ายวานนี้ ด้านกระแสทุนต่างชาติอยู่ในระดับปานกลาง หลังดัชนีเงินดอลล่าร์ รีบาวด์กดเงินบาทอ่อนลงใกล้ 35.00 ส่วนผลประชุม ECB ค่ำวันนี้ นักเศรษฐศาสตร์ KGI คาดว่าจะคงดอกเบี้ยและนโยบาย QE ไว้ที่ระดับเดิม หลังจากเพิ่งยกระดับนโยบายกระตุ้นไปเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้เราคงมองเป้าดัชนีฯ รอบนี้ที่ 1,435 อิงระดับ Current PE band ที่ 18 เท่า เช่นเดิม
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร TKS, COM7 / สะสม BTS*
TKS (เป้า Consensus 10.8 บาท) 1) รูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้น คาดทดสอบแนวต้านแรกที่ ?8.2 บาท (แนวต้านเทรนไลน์ขาลง) หากผ่านได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 9 บาท แนวรับ 7.80 บาท (Stop loss 7.7 บาท) 2) คาดได้ Sentiment บวกจากสตอรี่ i) การประมูลงานพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ และบัตรลงประชามติ (คาดมูลค่าราว 100 – 200 ล้านบาท) ii) ไปรษณีย์บัตรทายผลฟุตบอลยูโร แข่งขันช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.59 (คาดมูลค่าราว 50 ล้านบาท) 3) Valuation ไม่แพง PE ปีนี้ต่ำเพียง 9.4 เท่า (ข้อมูล Bloomberg consensus) โดยเราประเมินกำไรจะเริ่มเร่งตัวขึ้นใน 2H59 จากงานพิเศษต่างๆที่จะเข้ามา
COM7 (เป้า Consensus 7.23 บาท) 1) รูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 6.7 – 8.0 บาท โดยมีแนวต้านแรกที่ 7.35 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบแนวรับ – แนวต้าน 2) ตั้งแต่ 1 เม.ย. เริ่มสั่งซื้อ iPhone ตรงจากทาง Apple (ตัดคนกลาง อัตรากำไรเพิ่มราว 2 – 3% และทำให้มีสินค้าขายตามความต้องการของลูกค้า) ... คาดงบไตรมาส 2/59 โตเด่น 3) รับอานิสงส์การแข่งขันแย่งส่วนแบ่งตลาดฯของค่ายมือถือ โดยคาดจะได้ข้อสรุปส่วนแบ่งรายได้จากการขายเครื่องพ่วงซิมโทรศัพท์มือถือเร็วๆนี้
BTS* (เป้า Consensus 10 บาท) 1) วานนี้ถูกแรงขายทำกำไรที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย EMA 200 วัน (?9.25 บาท) ในเชิงพื้นฐานยังไม่เปลี่ยน เรายังคงประเมินแนวรับ 9.0 บาท แนะนำ “สะสม” (Stop loss 8.8 บาท) 2) ประเมิน Downside risk ของหุ้นจำกัด ขณะที่มี Upside จาก i) คาดได้งานบริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวจาก กทม. ii) จากการเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง (คาดเปิดประมูลกลางปีนี้)
หุ้นในกระแส
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ทยอยรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/59 ล่าสุด KBANK* รายงานกำไรไตรมาส 1/59 ดีกว่าคาด 5% ... ดูบทวิเคราะห์ปัจจัย Alert วันนี้เพิ่มเติม
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (เหล็ก, ถ่านหิน, ปิโตรเคมี) ฝ่ายวิจัยฯ บล เคจีไอ ประเทศจีนประเมินในระยะสั้นการฟื้นตัวของภาคอสังหาฯ และการลงทุนในจีนจะเป็นปัจจัยผลักดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อาจพิจารณาเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มเหล็ก (MCS, TMT, ASEFA) ถ่านหิน (BANPU*) และปิโตรเคมี (SCC*, PTTGC*) เป็นต้น
หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ + วัสดุฯ: ประเด็นการทยอยเปิดประมูลโครงการภาครัฐฯ (สุวรรณภูมิเฟส 2, รถไฟฟ้า รถไฟรางคู่, มอเตอร์เวย์) วานนี้ ครม อนุมัติรถไฟฟ้าสายสีส้ม (คาดประมูลภายในกลางปีนี้) แนะนำเก็งกำไร i) หุ้นกลุ่มรับเหมาฯตัวหลัก (CK*, STEC*, ITD*, UNIQ*, NWR) ii) งานเสาเข็ม (SEAFCO, PYLON, TMC) iii) วัสดุฯ + เหล็ก + ระบบไฟฟ้า (SCC*, TMT, ASEFA, EPG*)
กลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC, GUNKUL*, TSE, SUPER, PSTC, UWC, งานระบบไฟฟ้า ASEFA, หม้อแปลงไฟฟ้า QTC) สรุปยังไม่มีการฟ้องร้องศาลปกครองให้เลื่อนการจับสลากโครงการโซลารสหกรณ์ ทำให้การจับสลากในวันนี้ยังเดินหน้าต่อ เป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มฯ อย่างไรก็ดีเราประเมินว่าโครงการนี้เป็นเพียงการปลดล๊อกอุตสาหกรรมให้เดินหน้าประมูล FiT ต่อ (คาดเตรียมประมูล FiT ชีวมวล+ขยะ และต่อด้วยพลังงานลมในช่วงปลายปีนี้ – ต้นปีหน้า) เรายังคงประเมินว่าหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนที่เข้าร่วมการจับสลากและมีการกระจายการลงทุนในต่างประเทศเช่น IFEC, GUNKUL*, TSE จะ Outperform กลุ่มฯที่รอเพียงการจับสลากโครงการนี้ และหุ้นที่คาดจะได้อานิสงส์บวกต่อเนื่องเมื่อโครงการนี้เดินหน้าคือ ASEFA (งานระบบไฟฟ้า) และ QTC (ขายหม้อแปลง)
หุ้นมีข่าว
(+) CPALL* เดินหน้าขายพีโอแม็คโครราคาเกิน 42 บาท (กรุงเทพธุรกิจ) เราไม่แปลกใจกับประเด็นข่าวดังกล่าว เนื่องจาก CPALL มีความตั้งใจที่จะลดเปอร์เซ็นต์การถือครองหุ้น MAKRO ที่ปัจจุบันบริษัทถืออยู่สูงกว่า 97-98% โดยการขาย PO นอกจากจะเพิ่มฟรีโฟลตให้ MAKRO แล้ว ส่วนต่างระว่างราคาขายและต้นทุนซื้อที่ 39 บาท จะช่วยเสริมสภาพคล่องของ CPALL และ ทำให้บริษัทสามารถนำเงินบางส่วนไปชำระหนี้ที่มีอยู่ได้ ดังนั้น ภาพรวมธุรกิจที่ยังแข็งแกร่งและแนวโน้มกำไรที่โตต่อเนื่อง เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” CPALL ราคาเป้าหมาย 58 บาท
(+) EGCO* เล็งลงทุนโรงไฟฟ้าอินเดีย (กรุงเทพธุรกิจ) ผลิตไฟฟ้าเผยศึกษาโครงการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าในอินเดีย หลังมีการเปิดโครงการออกมาต่อเนื่อง ชี้ความเสี่ยงสูงแต่ระดับของอัตราผลตอบแทนสูงเช่นกัน พร้อมขยายตลาดต่างประเทศเพิ่ม มั่นใจรักษาการเติบโตกำไรไว้ได้
(+) THAI* ตั้งเป้ากำไร 2 พันล. คนร.เพิ่มเคพีไอรีดผลงาน (โพสต์ทูเดย์) บินไทยตั้งเป้าปีนี้พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 2,000 ล้าน "จรัมพร" ชี้ผลประกอบการดีต่อเนื่อง นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย ได้รายงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ว่า ในปีนี้คาดว่าบริษัท การบินไทย จะมีกำไรสุทธิ 2,000 ล้านบาท โดยคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะเพิ่มเป็น 1.94 แสนล้านบาท จากปีแล้วที่มีรายได้ 1.82 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7%
(+) KOOL ส่งซิกQ2 ยอดขายพุ่ง40% รับอากาศร้อน (ข่าวหุ้น) “KOOL” ลั่นยอดขายไตรมาส 2/59 โต 40% จากไตรมาส 2/58 รับอานิสงส์อากาศร้อนจัด-เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น เดินหน้าเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ส่งออกปีนี้มากกว่า 20%
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
??IFEC (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) แนะนำ “ซื้อสะสม” แนวรับ 7.5 บาท ... รอเซ็นสัญญาซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในต่างประเทศ (บางส่วน) ในเดือน เม.ย. นี้ และที่เหลือในเดือน พ.ค.-มิ.ย. สำหรับ รร ดาราเทวี เตรียมขายที่ดินไม่ได้ใช้งาน + นำออกจากแผนฟื้นฟูฯภายในเดือน พ.ค.นี้ และจะมีการบันทึกกำไรพิเศษ
??SMT (เป้าพื้นฐาน 13 บาท ... ไม่รวมธุรกิจประกอบแผงโซลาร์เซลล์) รูปแบบราคาแกว่งตัว Sideway ในกรอบ 13.6 – 14.3 บาท แนะนำ “สะสม” ในกรอบแนวรับแนวต้าน และถ้าผ่าน 14.3 บาทได้ แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินแนวต้านถัดไป ?15 บาท ... ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 26 เม.ย. อนุมัติ การแจก Warrant SMT-W1 ในอัตราส่วน 5:1 และการแตกพาร์จาก 2 บาท เหลือ 1 บาท
??NWR (เป้า Consensus 1.47 บาท) ยืนเหนือ 1.31 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1.45 – 1.50 บาท (แนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทั้งแบบ EMA และ SMA)
??ASEFA (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) ประเมินระยะสั้นรูปแบบราคาแกว่งตัวในกรอบ Uptrend line channel 5.70 – 6.30 บาท (Stop loss ที่ 5.65 บาท) ... ประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/59 โตเด่น (ไตรมาส 4/58 เป็น Low season + ราคาเหล็กปรับขึ้นแรงตั้งแต่ต้นปี เป็นบวกต่อธุรกิจรื้อถอนโรงไฟฟ้า) และขยายกำลังการผลิต +50% เสร็จในไตรมาส 1/59
??EPG* (เป้า Consensus 16 บาท) ประเมินแนวต้าน ?14.5 บาท และถัดไปที่ ?15.5 บาท แนวรับ 13.5 บาท และกำหนดจุด Stop loss ที่ 13 บาท
??CPN* (เป้าพื้นฐาน 65 บาท) 1) สำหรับนักลงทุนที่ซื้อตามที่เราแนะนำก่อนหน้า แนะนำ “Let profit run” กำหนด Trialing stop 52.75 บาท 2) ยังแนะนำคงสถานะกลยุทธ์ Pair trading โดย Long CPN* + Short ROBINS*
??TMC (เป้าพื้นฐาน 3.0 บาท) แนะนำ “Let profit run” กำหนด Trialing stop ?2.3 บาท ประเมินแนวต้าน ?2.6 บาท
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
??DRT แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 5.6 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้อยู่ในเชิงบวกเล็กน้อย ผู้บริหารประเมินสภาวะตลาดที่จะดีขึ้นในช่วง 2H59 ประกอบกับตลาดส่งออกที่ยังขยายตัวแข็งแกร่งและส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่ดีจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนการเติบโตของกำไรในปีนี้ คาดกำไรปี 2559 จะเพิ่มขึ้น 14.8% YoY เป็น 380 ล้านบาท และคาดปันผลคงสูงถึง6.0-7.0% ต่อปี
Market strategy Thailand
??จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- กรอบราคา 1412 – 1419 จุด
??วันนี้ หากดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1412 จุดนั้น อาจกดราคาลงทดสอบรับ 1399 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1419 จุดนั้น อาจสะสมแรงผลักราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1431 จุด
??แนวรับวันนี้: 1412/1399 แนวต้านวันนี้: 1419/1429
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]