- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 20 April 2016 18:38
- Hits: 854
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
พร้อมลุย
คาดหุ้นไทยเดินหน้าต่อวันนี้ หลังจากมีสัญญาณหลายประการว่าเศรษฐกิจจีนขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น และท่าทีของ Fed ที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง รวมทั้งราคาน้ำมันที่ยังคงปรับตัวขึ้นอีก ภายในประเทศภาษีบุคคลธรรมดาใหม่ที่มีผลลดภาระดอกเบี้ยทุกคนชอบแน่นอน แม้จะมีผลในปีภาษี 2017 ก็ตาม ในขณะที่โครงการบ้านประชารัฐ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้างจะได้ประโยชน์โดยตรง
หุ้นเด่นวันนี้ : GL (Bt21.00; ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 59 ของ AWS 28.00 บาท)
บมจ. กรุ๊ปลีส เป็นหุ้นเด่นของเราในวันนี้ เนื่องจากเราคาดว่าบริษัทจะยังคงแสดงผลการดำเนินที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ช่วงที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิรายไตรมาสสูงสุดเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกัน นั่นเป็นเพราะว่าธุรกิจของบริษัทในตลาดต่างประเทศ คือ กัมพูชาและลาว ค่อนข้างสดใสเนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศเหล่านี้กำลังเติบโต นอกจากนี้ GL คาดว่าจะเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศอินโดนีเซียตั้งแต่ไตรมาส 2/59 เป็นต้นไป ซึ่งนี่จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้แก่บริษัทมากขึ้นเนื่องจากอินโดนีเซียมีประชากรมากถึง 257 ล้านคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชากรที่อยู่ในพื้นที่ชนบท อีกทั้ง บริษัทยังมีแผนที่จะเจาะตลาดประเทศอื่นๆในกลุ่มอาเซียน ซึ่งรวมถึงเมียนมาร์และเวียดนาม จากโอกาสขนาดใหญ่ในตลาดที่ยังไม่มีใครเข้าถึงในประเทศกลุ่มอาเซียนนี้ เราคาดการณ์กำไรจะเติบโตที่ 67.3% ในปี 59 ก่อนจะลดระดับมาเติบโตที่ 24.2% ในปี 60 Price Pattern ของ GL ยังอยู่ในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิด Monthly Buy Signal โดย Price Pattern ของ GL ได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ ทำให้เกิดความแข็งแกร่งในระยะสั้นรอบใหม่ แม้ว่าจะยังคงเกิด Weekly Sell Signal ที่คอยกดดันราคาอยู่ก็ตามที ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ GL คาดว่ายังจะได้เห็นการทำ New High อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายถัดไปของการทำ New High อยู่ที่ 24.90 บาท โดยมีจุด Stop Loss ในรอบนี้อยู่ที่ 19.20 บาท (Resistance: 21.40, 21.80, 22.40; Support: 20.90, 20.50, 19.90)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ครม.อนุมัติโครงสร้างอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลธรรมดาแบบใหม่ ที่เสนอโดยกระทรวงการคลังก่อนหน้านี้ โดยมีประเด็นสำคัญ อาทิ ผู้เสียภาษีที่มีเฉพาะเงินได้ประเภทเงินเดือนจะเริ่มเสียภาษีเมื่อมีเงินได้ 26,000 บาทต่อเดือน ขณะที่มีการปรับปรุงการหักค่าลดหย่อนสำหรับผู้มีเงินได้ จากเดิม 30,000 บาท เป็น 60,000 บาท รวมถึงมีการปรับปรุงการหักค่าใช้จ่ายของ เงินเดือน ค่าจ้าง ค่านายหน้า จากเดิมให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้ 40% ของเงินได้แต่ไม่เกิน 60,000 บาท เป็น 50% ของเงินได้แต่ ไม่เกิน 100,000 บาท (Bangkok Post)
ครม.อนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 21.2 กิโลเมตร วงเงิน 82.9 หมื่นลบ. ขณะที่ครม.ได้เร่งรัดให้ รฟม.ประกวดราคาเพื่อหาผู้รับเหมาให้ได้ภายใน 2 เดือน หรือภายในเดือน มิ.ย. นี้ เพื่อให้สามารถเริ่มก่อสร้างได้ในปีนี้(Bangkok Post)
หกโครงการอนุมัติภายใต้ประชารัฐ คณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ ได้รับโครงการบ้านต้นทุนต่ำหกโครงการรวม 4,000 หลังให้อยู่ภายใต้โครงการประชารัฐและจัดตั้งบนที่ดินของกรมธนารักษ์ การเปิดประมูลโครงการเหล่านี้คาดว่าจะเกิดขึ้นเดือน มิ.ย. และงานก่อสร้างจะใช้เวลาสองปี (Bangkok Post)
การลงทุนในอุตสาหกรรมเกษตรและนวัตกรรมเพิ่มขึ้น กรมส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้ให้ข้อมูลว่าการลงทุนในภาคเกษตรกรรมได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในไตรมาสแรกของปี 59 ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 2.7 หมื่นลบ. โดยเฉพาะเกี่ยวกับนวัตกรรมที่เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าฟาร์ม อาทิ กะทิแช่แข็ง โดยบีโอไอคาดว่าการอนุมัติโครงการใหม่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าฟาร์มในประเทศได้มากกว่า 8.4 หมื่นลบ. ต่อปี และช่วยกระตุ้นมูลค่าการส่งออกสินค้าฟาร์มได้ 6.2 หมื่นลบ. ต่อปี (Bangkok Post)
ต่างประเทศ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันอังคาร แต่อยู่ในกรอบแคบ ๆ ของการซื้อขายในเดือนนี้เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นและนักลงทุนรอผลการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า ราคาพันธบัตรอ้างอิงอายุ 10 ปีลดลง 4/32 และให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 1.78% เพิ่มขึ้นจาก 1.77% จากเมื่อวันจันทร์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอยู่ระหว่าง 1.81%-1.69% นับแต่ต้นเดือนเม.ย. (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์เมื่อวันอังคาร จากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นและอ่อนค่าลงเทียบกับเงินยูโรหลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอสนับสนุนมุมมองว่าเฟดอาจดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดทั้งบวกและลบเมื่อวันอังคาร โดยดัชนี DJIA และ S&P500 ปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากได้แรงหนุนจากราคาหุ้นกลุ่มพลังงานที่เพิ่มขึ้นและรายงานผลประกอบการรายไตรมาสอันแข็งแกร่งของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน อย่างไรก็ตาม ดัชนีแนสแด็กลดลงนำโดยราคาหุ้น Netflix ที่ร่วงลงหลังจากบริการวีดีโอสตรีมมิ่งมีแนวโน้มเติบโตที่น่าผิดหวัง (Reuters)
จำนวนบ้านใหม่ที่กำลังก่อสร้างและจะก่อสร้างในสหรัฐลดลงเกินคาดในเดือนมี.ค. และคำขออนุญาตสร้างบ้านแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี บ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยลดความร้อนแรงลงเป็นไปตามสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวในไตรมาส 1/59 ตัวเลขดังกล่าวลดลง 8.8% อยู่ที่ 1.09 ล้านยูนิตต่อปี ต่ำสุดนับแต่เดือนต.ค. จำนวนบ้านใหม่ในเดือนก.พ. ได้มีการปรับเพิ่มตัวเลขเป็น 1.19 ล้านหน่วยจากก่อนหน้านี้ที่ 1.18 ล้านบาทต่อปี นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนบ้านใหม่ลดลงอยู่ที่ 1.17 ล้านหน่วยในเดือนก่อน (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันจันทร์ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน โดยได้แรงหนุนหลักจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาหุ้น Rio Tinto ยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมหลังรายงานยอดบรรทุกสินแร่เหล็กทางเรือเพิ่มขึ้น 11% ในช่วง 1Q16 ขณะที่ราคาหุ้น L’Oreal ปรับตัวสูงขึ้นหลังรายงานยอดขายงวด 1Q16 เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าคาด และเปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะแข็งแกร่งในปีนี้และต่อเนื่องในปีหน้า (Reuters)
ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจเยอรมนีเดือน เม.ย. สูงขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน แม้มีความกังวลเกี่ยวกับความอ่อนแอของเศรษฐกิจจีนเข้ามาเกี่ยวข้องก็ตาม โดยดัชนีดังกล่าวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 11.2 จาก 4.3 ในเดือน มี.ค. ก่อนหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีจะแตะระดับ 8.0 ในเดือน เม.ย. ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในยูโรโซนพบว่าปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยสูงขึ้นมาอยู่ที่ 21.6 จาก 10.6 ในเดือน มี.ค. (Reuters)
เอเชีย :
ยอดส่งออกญี่ปุ่นหดตัว 6.8% ในเดือน มี.ค. ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน และต่อเนื่องจากการหดตัว 4.0% ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนและตลาดเกิดใหม่ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดส่งออกจากหดตัวลง 6.9% ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 14.9% ในเดือน มี.ค. เทียบกับที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวลง 16.2% โดยรวมสุทธิแล้วยังเป็นยอดเกินดุล 7.55 แสนล้านหยวน (6.91 พันล้านดอลลาร์ฯ) (Reuters)
ความเชื่อมั่นผู้ผลิตญี่ปุ่นสูงขึ้นในเดือน เม.ย. (+10 เทียบกับที่ตลาดที่ +6) อ้างอิงจากโพลสำรวจของ Reuters Tankan แต่คาดว่า Sentiment ในช่วง 3 เดือนข้างหน้าจะกลับมาแย่อีกครั้ง (+6 ในเดือน ก.ค.) จากการแข็งค่าของเงินเยนและเศรษฐกิจภายนอกประเทศที่ยังอ่อนแอ (Reuters)
จีนเริ่มใช้มาตรฐานอิงเงินหยวนกับราคาทองเมื่อวันอังคาร เพื่อให้สามารถเป็นผู้กำหนดราคาในตลาดซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมทิศทางโดยลอนดอนและนิวยอร์ก อิงจากตลาดซื้อขายทองคำจดทะเบียนในเซี่ยงไฮ้ ราคาอ้างอิงจะคำนวณจากสัญญาซื้อขายทองคำ 1 กิโลกรัมอยู่ที่ 256.92 หยวน (หรือ 39.70 ดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อวันอังคาร ราคาจะเปลี่ยน 2 ครั้งต่อวัน ทั้งนี้ ประเทศจีนนับเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ของโลกและกำลังแข่งขันกับอินเดียที่จะเป็นผู้บริโภคโลหะมีค่ารายใหญ่ที่สุดของโลก (Reuters)
จีนและประเทศผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ล้มเหลวต่อการตกลงในมาตรการกู้วิกฤติดเหล็กโลกได้ หลังถกถียงถึงสาเหตุการผลิตเหล็กส่วนเกินและการที่ปักกิ่งยังคงช่วยเหลือผู้ผลิตที่ประสบปัญหาขาดทุนให้ยังอยู่รอดได้ (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อวันอังคาร หลังเกิดการนัดหยุดงานในคูเวตทำให้อุปทานตึงตัว, การลดความสำคัญต่อทิศทางน้ำมันขาลงหลังการตกลงของผู้ผลิจในการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันล้มเหลวเมื่อวันอาทิตย์ ราคาน้ำมันเบรนท์ในตลาดล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์สหรัฐ มาปิดที่ 44.03 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์สหรัฐ มาปิดที่ 41.08 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองคำเพิ่มขึ้น 2% ในวันอังคาร ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด ราคาทองแตะระดับสูงสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์ที่ 1,256.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ เพิ่มขึ้น 1.8% เป็น 1,252.77 (Reuters)
ราคาทองแดงเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบสามสัปดาห์เมื่อวันอังคาร หลังปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้าที่ตัวเลขสหรัฐจะประกาศออกมาผิดหวังส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า ขณะที่มุมมองเชิงบวกต่ออุปสงค์ของจีนซึ่งเป็นผู้บริโภคโลหะรายใหญ่ที่สุดที่เพิ่มขึ้น ราคาทองแดงอ้างอิงในตลาด LME เพิ่มขึ้น 2.3% เป็น 4,936 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันแกว่งตัวจากจุดสูงสุดที่ 4,947 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และต่ำสุดที่ 4,782 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331