- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 20 April 2016 18:27
- Hits: 659
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ขึ้นแรงกว่าคาด แต่ยังมีสิทธิย้อนลงตามคาด ดังนั้นรอซื้อลบ!!
กลยุทธ์ : แม้ SET ยังขยับบวกต่อเนื่องได้แรงกว่าคาด แต่การขยับขึ้นค่อนข้างเร็ว ขณะที่ยังไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนเพิ่ม น่าจะทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมากดดันในที่สุด ดังนั้น FSS จึงยังไม่แนะนำให้เข้าซื้อในลักษณะไล่ราคาช่วงบวก แต่ยังมองว่าน่ารอหาจังหวะเลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อช่วง SET ลบน่าจะเหมาะสมกว่าเช่นเดิม อย่างไรก็ตามเราคาดว่า SET ปรับลงเพื่อรอขึ้นต่ออีกครั้งในช่วงถัดไป ดังนั้นหลังจากซื้อแล้วแนะนำให้เน้นถือต่อรอรอบขึ้นใหญ่ต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SGP, PIMO, GL(buy back)
แนวโน้ม : SET ยังขยับขึ้นแรงต่อเนื่องอีกวัน จากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงานตัวหลัก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาได้อีกครั้ง หลังวันก่อนปรับย้อนลงจากความกังวลเกี่ยวกับผลประชุมร่วมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ยังไม่ได้มีความคืบหน้าใดๆ รวมทั้งยังมีแรงซื้อในหุ้น SCC ที่ช่วยผลักดันการขยับขึ้นของตลาดด้วย ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ยังสามารถเปิดเป็นบวกได้อีก จากแรงส่งของบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรปที่ส่วนใหญ่ปิดบวกขึ้นได้ดีเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดกลับ และรายงานจาก ZEW ที่ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจของเยอรมนีพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือน เม.ย. ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐแม้ว่าจะปิดบวกแต่ไม่มากนัก โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการขยับขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน แต่ยังมีแรงกดดันจากความไม่ชัดเจนของตัวเลขเศรษฐกิจ ซึ่งมีโอกาสทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวนมากขึ้นในช่วงถัดไป รวมทั้งการบวกขึ้นของตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ก็ยังมีกรอบบวกที่ค่อนข้างแคบ และมีลักษณะผันผวนให้เห็น ซึ่งถ้าไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่มาหนุน FSS คาดว่ามีโอกาสที่จะมีจังหวะปรับย้อนลบกดดัน SET ให้ปรับตัวลงตามในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะช่วงนี้ SET ดีดตัวขึ้นมาค่อนข้างเร็ว ดังนั้นเรายังแนะนำให้รอทยอยซื้อช่วงตลาดอ่อนตัวลงก่อน น่าจะเหมาะสมกว่า
แนวรับ 1413-1407, 1402-1398 จุด
แนวต้าน 1420-1426 , 1430-1432 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$40 ล้าน ส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$58.3 ล้าน และอินโดนีเซีย US$11.6 ล้าน ขณะที่ไหลออกไทย US$16.7 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$15.3 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค โดยกลุ่มพลังงานน่าจะหนุนบรรยากาศการลงทุนหลังราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งขึ้น ~3% เมื่อคืนนี้จากการประท้วงของคนงานในคูเวต
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) รัฐเร่งอนุมัติโครงการโครงสร้างพื้นฐาน วานนี้ครม.อนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี วงเงิน 8.29 หมื่นล้านบาท คาดประมูล มิ.ย. นี้ ที่ผ่านมารัฐบาลเร่งผลักดันการลงทุนโครงการต่างๆ ซึ่งเป็นผลดีต่อทั้งกลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง ซึ่งยัง underperform ตลาด (เราชอบ CK, STEC, SEAFCO) และกระตุ้นสินเชื่อกลุ่มแบงก์
(+) โครงสร้างภาษีใหม่ช่วยให้เสียภาษีน้อยลง การปรับโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดาใหม่ เพิ่มค่าลดหย่อนทั้งส่วนตัว คู่สมรสและบุตร และหักค่าจ่ายได้เพิ่ม เริ่มใช้สำหรับเงินได้ปี 2560 ช่วยเพิ่มกำลังซื้อของประชาชน (การบริโภคคิดเป็น 50% ของ GDP) แม้รัฐจะสูญรายได้จากภาษีบุคคลธรรมดา (17% ของรายได้รัฐ) ปีละ 3.2 หมื่นล้านบาท แต่ชดเชยได้จากภาษี VAT (41% ของรายได้รัฐ) ผลสุทธิจึงเป็นบวกต่อเศรษฐกิจในประเทศ
(+) TCAP กำไรเป็นไปตามคาด ทรงตัวทั้ง Q-Q และ Y-Y คุณภาพหนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ NPL ลดต่อเนื่องเหลือ 2.8% เกือบต่ำสุดในกลุ่ม Coverage ratio สูงขึ้นเป็น 119% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยยังรักษาไว้ได้ที่ 2.9% (ต่ำกว่า KKP และ TISCO เพราะ TCAP มีสินเชื่อธุรกิจมากกว่า) แม้สินเชื่อจะลดลง 2% YTD แต่เป็นไปตามยอดขายรถที่ชะลอ เรายังชอบ TCAP ยังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 48 บาท
(0) TMB กำไรต่ำกว่าคาดเพราะตั้งสำรองเพิ่ม กำไร 1Q16 -20.2% Q-Q, +27.8% Y-Y ต่ำกว่าเราและตลาดคาดเพราะตั้งสำรองสูงจาก NPL ที่เพิ่มเป็น 3.11% จาก 2.99% ใน 4Q15 หากไม่รวมการตั้งสำรอง PPOP +7.8% Q-Q, 2% Y-Y ใกล้เคียงที่เราคาด สินเชื่อเพิ่ม 0.9% YTD ส่วน Coverage ratio ยังแกร่ง 140% เราคาดกำไรทั้งปี +7.5% Y-Y เพราะเชื่อว่าสำรองจะลดลงในไตรมาสถัดๆไป คงราคาพื้นฐาน 2.90 บาท แนะนำซื้อ
(0) BBL กำไรต่ำกว่าคาด +8.3% Q-Q, -11.6% Y-Y จากค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสูงเกินคาดซึ่งเราคาดว่าเป็นสำรองของค่าใช้จ่ายการค้ำประกันไทยทีวี ส่วน NPL พุ่งเกินคาดเป็น 6.2 หมื่นล้านบาทสูงสุดใน 8 ปี NPL ratio เป็น 2.9% แต่ Coverage ratio ที่สูง 174% แรงกดดันในการตั้งสำรองจึงไม่มาก แต่ยังแนะนำเพียงถือ ราคาพื้นฐาน 190 บาท
(+) CPALL เราคาดกำไร 1Q16 โตต่อเนื่อง +1.5% Q-Q, +15.5% Y-Y จากยอดขายเฉลี่ยต่อสาขาเดิมที่น่าจะบวกต่อเนื่อง 2-3% Y-Y และเดินหน้าขยายสาขาในอัตราเร่ง โดยสิ้น 1Q16 มีจำนวนสาขาทั่วประเทศทะลุ 9 พันแห่งแล้ว แนวโน้ม 2Q16 จะแผ่วลงและดีขึ้นใน 2H16 ซึ่งเป็นช่วงทำ Stamp promotion เรายังคาดกำไรทั้งปีนี้ +14.8% Y-Y คงราคาพื้นฐาน 60 บาท แนะนำซื้อ
(+) BEM เราคาดกำไร 1Q16 โตแรง 46% Q-Q จากรายได้ค่าผ่านทางด่วนที่เพิ่มขึ้นมากตามปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนเพิ่มขึ้น ส่วนรถไฟฟ้าก็เติบโตต่อเนื่อง ยังคงราคาพื้นฐาน 6 บาท แนะนำซื้อเก็งกำไรผลประกอบการ
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้เล็กน้อยโดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดับที่พุ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นจำกัดจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่กระจัดกระจาย
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกได้ค่อนข้างดีจากราคาน้ำมันและสินค้า Commodity ที่พุ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นของเยอรมนีที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนเม.ย.
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากราคาน้ำมันที่หนุนบรรยากาศการลงทุน
(+) ค่าเงินบาทแกว่งตัวแข็งค่าขึ้น ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 34.79-34.93 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. พุ่งขึ้น 1.30 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 41.08 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังคนงานในคูเวตหลายพันคนเดินหน้าประท้วงซึ่งทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลดลงเกือบครึ่ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวบดบังการเจรจาเพื่อคงกำลังการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันที่ล้มเหลวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. พุ่งขึ้น 19.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,254.30 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าหลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
5-28 เม.ย. - ไทย: กสทช.เปิด Public hearing การประมูลคลื่น 900MHz รอบใหม่
18-22 เม.ย. - ไทย: กลุ่มธนาคารรายงานผลประกอบการ
20-เม.ย. - ไทย: ยอดขายรถ (มี.ค.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (มี.ค.)
21-เม.ย. -ไทย: จับสลากโครงการโซลาร์ฟาร์มราชการและสหกรณ์ 600 MW
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- ยูโรโซน: ECB ประชุม
22-เม.ย. - ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (เม.ย.)
24-เม.ย. - ไทย: ดุลการค้า (มี.ค.)
25-เม.ย. - สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (มี.ค.)
26-เม.ย. - เกาหลีใต้: 1Q16 GDP
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (มี.ค.), S&P/Case-Shiller Index (ก.พ.)
27-เม.ย. - ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (มี.ค.)
- สหรัฐ: Pending home sales (มี.ค.)
27-28 เม.ย. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
28-เม.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม, ยอดค้าปลีก (มี.ค.)
- สหรัฐ: 1Q16 GDP
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch