- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 18 April 2016 16:51
- Hits: 1497
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดวันอังคารที่ 12 เม.ย.ที่ระดับ 1,385.42 จุด เพิ่มขึ้น 15.58 จุด (+1.14%) มูลค่าการซื้อขายซบเซาที่ 3.1 หมื่นล้านบาท เพราะนักลงทุนบางกลุ่มชะลอการซื้อขายก่อนหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ นักลงทุนสถาบันในประเทศและพอร์ตบล.ซื้อสุทธิ ส่วนต่างชาติและรายย่อยขายสุทธิ สำหรับยอดสะสมสุทธิช่วง YTD ปีนี้ นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิเกือบ 7 พันล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 17 พันล้านบาท ด้านต่างชาติซื้อสุทธิ 13 พันล้านบาท และพอร์ตบล.ซื้อสุทธิ 11 พันล้านบาท
สำหรับ ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ มีปัจจัยกดดันจาก IMF ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกลงอีกครั้ง (ปี 59 เป็น 3.2% จากเดิม 3.4%) การประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน 23 ประเทศเมื่อวานนี้ (17 เม.ย.) ยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องการตรึงปริมาณการผลิต กดดันราคาน้ำมันดิบและหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมทั้งในตลาดหุ้นจีนมีหุ้นปลดล็อกออกมาขายได้มูลค่า 2.89 หมื่นล้านหยวน (4.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในสัปดาห์นี้ด้วย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ตลาดหุ้นญี่ปุ่น และราคาน้ำมันในตลาดล่วงหน้าร่วงแรงในเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม แผ่นดินไหวที่เกาะคิวชู ญี่ปุ่น อาจเป็นโอกาสที่ไทยจะส่งออกรถยนต์ & ชิ้นส่วน, ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ (หุ้นเด่น KCE), เกษตรและอาหาร (หุ้นเด่น CPF, GFPT, TU) ได้มากขึ้น (ดูรายละเอียดเพิ่มหน้า 2)
ส่วนกลุ่มสื่อสาร ยังคงแนะนำทยอยซื้อสะสม ADVANC & INTUCH โดยคาดว่า ADVANC จะชนะประมูล 4G ย่าน 900 MHz รอบใหม่ ขณะที่ลูกค้า2G มีโอกาสได้ขยายเวลาคุ้มครองไปถึงมิ.ย.59 สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น GFPT
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ และยังไม่ทิ้งการแกว่งตัว ค่าบวกให้ภาพรีบาวด์สั้นก่อนลงต่ำต่อ แนวต้าน 1395-1400 หรือ 1410 จุด แนวตัดขาดทุน คือ ค่าลบ หรือ SET ต่ำกว่า 1375 จุด สำหรับการ SCAN หุ้นสัญญาณทางเทคนิคดี พบว่าหุ้นที่น่าสนใจเป็น TISCO, JAS, SPALI, TOP, CHG, TPBI, RS, LPH
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
- IMF ปรับลดคาดการณ์จีดีพีโลกเป็นเติบโต 3.2% ในปี 59 จากเดิม3.4% (ปรับลดเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ YTD) เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจทุกภาคส่วนของโลกมีความไม่แน่นอนมากขึ้น ส่วนปี 60 มีการเติบโตดีขึ้นจากปีนี้ แต่ก็ปรับลดคาดการณ์ลงเป็น 3.5% จากเดิม 3.6% สำหรับปริมาณการค้าโลกปรับลดการเติบโตปี 59 เป็น 3.1% จากเดิม 3.4% ประเทศ การเติบโตจีดีพี-59F (ใหม่) การเติบโตจีดีพี-59F (เดิม)
โลก 3.2% 3.4%
สหรัฐ 2.4% 2.6%
ญี่ปุ่น 0.5% 1.0%
จีน 6.5% 6.3%
เยอรมนี 1.5% 1.7%
รัสเซีย -1.8% -1.0%
บราซิล -3.8% -3.5%
•/- IMF เตือนว่าการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งประเทศที่นำนโยบายดังกล่าวมาใช้ได้แก่ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป (EU) เป็นต้น ทั้งนี้ IMF มองว่านโยบายดอกเบี้ยติดลบเป็นอุปสรรคต่อการทำกำไรของภาคธนาคารหากใช้นโยบายแบบนี้เป็นเวลานาน…ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 21 เม.ย.59
สหรัฐ : ตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้าง Mixed ทั้งนี้การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค.ลดลง 0.6% ซึ่งเป็นการลดลงต่อเป็นเดือนที่ 2 และแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.1% ส่วนดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนเม.ย.เพิ่มสู่ 9.6 จาก 0.6 ในเดือนมี.ค. โดยเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี เพราะได้รับแรงหนุนจากอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับคำสั่งซื้อใหม่และการขนส่งสินค้าปรับตัวขึ้น
สำหรับ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนเม.ย. ลดลงมาที่ 89.7 สหรัฐ : เงินเฟ้อเดือนมี.ค.ต่ำกว่าคาด โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)+0.1%MoM และ +0.9%YoY ในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ทื่+0.2%MoM และน้อยกว่า +0.3%MoM และ +1.0%YoY ในเดือนก.พ.โดยได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของราคาอาหาร, เวชภัณฑ์ และที่อยู่อาศัย ถึงแม้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น
/- ญี่ปุ่น : นักเศรษฐศาสตร์และ IMF เรียกร้องให้ญี่ปุ่นเลื่อนการปรับขึ้นอัตราภาษีขาย ที่มีกำหนดจะขึ้นเป็น 10% จาก 8% ในปัจจุบันช่วงเดือนเม.ย.60 ออกไปก่อน
- จีน : จีดีพีประจำ 1Q59 ออกมาที่ +6.7%YoY สู่ระดับ 15.9 ล้านล้านหยวน (2.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด และการเติบโตในอัตราดังกล่าวบ่งชี้ว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนที่ได้ดำเนินการมาในช่วงก่อนหน้านี้เริ่มเห็นผลแล้ว
- ตลาดหุ้นจีน : หุ้นปลดล็อกเข้าซื้อขายได้กว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์เซาท์เวสท์ ซิเคียวริตีส์ รายงานว่าหุ้นเกือบ 1.96 พันล้านหุ้นจากบริษัทต่างๆ 25 บริษัท จะสามารถซื้อขายได้ในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าหุ้นที่ทำการซื้อขายได้มีมูลค่าราว 2.89 หมื่นล้านหยวน(4.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
+/• สัญญาทองคำดีดขึ้นในวันศุกร์แต่ทั้งสัปดาห์ลดลงเล็กน้อย : วันศุกร์สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. +8.1 ดอลลาร์ หรือ+0.66% ปิดที่ 1,234.60 ดอลลาร์/ออนซ์ อย่างไรก็ตามตลอดทั้งสัปดาห์ -0.8%
ตลาดหุ้นสหรัฐ +1.8% ในสัปดาห์ก่อน : ดัชนี DJIA วันศุกร์ปิด+28.97 จุด หรือ +0.16% นักลงทุนรอดูผลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบวันที่ 17 เม.ย.นี้ที่กาตาร์ แต่ทั้งสัปดาห์ดัชนี DJIA +1.8% ปัจจัยหนุนหลัก คือ รายงานผลประกอบการ 1Q59 ของบริษัทขนาดใหญ่ที่ออกมาดีเกินคาด แม้ว่าจะมีบางบริษัทที่รายงานกำไรออกมาลดลง เช่น ซิตี้กรุ๊ป และแอปเปิล อิงค์รายงานยอดขายไอโฟน 6S และ 6S Plus ต่ำกว่าคาด
-/• ราคาน้ำมันวันศุกร์ร่วง...ไม่แน่ใจผลประชุม 17 เม.ย. : สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบพ.ค. -1.14 ดอลลาร์ หรือ -2.75% ปิดที่ 40.36 ดอลลาร์/บาร์เรล และทั้งสัปดาห์ +1.6% ส่วน BRENT ส่งมอบมิ.ย. -0.74 ดอลลาร์หรือ -1.7% ปิดที่ 43.10 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลอดสัปดาห์ +2.8%
ผลประชุมประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่กาตาร์ : คว้าน้ำเหลว ประเทศผู้ผลิตน้ำมัน 23 ประเทศเข้าร่วมการประชุมที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ในวันอาทิตย์ที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่าไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการตรึงปริมาณการผลิตน้ำมัน ทำให้คาดการณ์ว่าการเข้าสู่ภาวะสมดุลด้านอุปสงค์ และอุปทานจะต้องใช้เวลาอีกหลายไตรมาส และเร็วสุดจะเป็นปี 60 ทั้งนี้ IEA รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 เม.ย.ว่าอุปทานน้ำมันทั่วโลกลดลง 0.3 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมี.ค.59 มาอยู่ที่ 96.1 ล้านบาร์เรล/วัน
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวเด่น
-/+ สินค้ายานยนต์และชิ้นส่วน ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ เกษตรและอาหารของไทยมีโอกาสส่งออกได้เพิ่ม หลังญี่ปุ่นเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.3 แมกนิจูด ที่บริเวณเกาะคิวชูของประเทศญี่ปุ่นเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 16 เม.ย.59 มีประชาชนเสียชีวิตและหลายพันคนได้รับบาดเจ็บ
ความเห็นทีมกลยุทธ์ Retail Research : เราคาดว่าความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ดังนั้นทางญี่ปุ่นอาจต้องมีการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารจากไทยและประเทศอื่นเข้าไปช่วยเสริมรวมทั้งลูกค้าในกลุ่มยานยนต์&ชิ้นส่วน ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ของบริษัทที่ประสบภัยก็มีโอกาสสั่งซื้อสินค้าจากไทยมากขึ้น สำหรับกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน
หุ้นเด่นคือ AH, SAT, STANLY ส่วนกลุ่มอิเลคทรอนิกส์เป็น KCE (ราคาพื้นฐาน 84 บาท) ด้านกลุ่มเกษตรและอาหาร หุ้นเด่น ได้แก่ GFPT(ราคาพื้นฐาน 13 บาท) ซึ่งมีสัดส่วนการส่งออกไก่ไปญี่ปุ่นประมาณ 10% ของรายได้รวม ขณะที่ CPF (ราคาพื้นฐาน 28 บาท) ส่งออกไกแ่ ละกุ้งไปญี่ปุ่นราว 4% ของรายได้รวม และ TU (ราคาพื้นฐาน 22.30 บาท) ส่งออกทูน่าและกุ้งไปญี่ปุ่น 10-12% ของรายได้รวม
กลุ่มสื่อสาร : คสช.ประกาศใช้ม.44 ให้กสทช.จัดประมูลใบอนุญาต4G ย่าน 900 MHz ในวันที่ 27 พ.ค.59 ราคาเริ่มต้น 75,654 ล้านบาทโดยให้วางหลักประกัน 3,783 ล้านบาท (5% ของราคาเริ่มต้น) และเตรียมขยายเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการ 2G ย่าน 900 MHz ของ AIS ถึง 30 มิ.ย.นี้....
เราประเมินว่า ADVANC จะเป็นผู้ชนะการประมูลในรอบนี้ โดยในประมาณการได้สะท้อนค่าตัดจำหน่ายใบอนุญาตไปแล้วอิงกับราคา 75,654 ล้านบาท คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 180 บาท ส่วน INTUCH ราคาพื้นฐาน 62 บาท (อิงส่วนลด 15% จาก Target NAV)
+ BJC : ผลิตสินค้าป้อน BIGC ที่มีแผนรุกขยายตลาดอย่าง
Aggressive ในวงการค้าปลีกไทยกำลังจับตา BIGC หลังกลุ่มคุณเจริญเข้าไปซื้อกิจการแล้วจะขยายสาขาในทุกรูปแบบ ทั้งการเปิดสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ตอีก 6 แห่ง ให้เฟรนไชส์และขยายมินิบิ๊กซี 75 แห่ง และบิ๊กซี มาร์เก็ต 3 แห่ง รวมทั้งขยายธุรกิจออนไลน์และซีดิสเคาท์ ซึ่งทำให้การแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นไปอีก แต่ในส่วนของ BJC จะได้ประโยชน์เพราะกระจายสินค้าไปใน BIGC รูปแบบต่างๆได้มากขึ้น
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค– [email protected]