WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Asiawealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

มืดมัว
  คาดว่า SET วันนี้จะซื้อขายต่ำลงวันนี้เพราะปัจจัยทั้งในและต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นลบ ราคาน้ำมันที่ร่วงลงหลังจากการประชุมของผู้ผลิตน้ำมันที่จะหยุดภาวะอุปทานล้นเกินนั้นออกมาล้มเหลว ซึ่งน่าจะฉุดหุ้นพลังงานและตลาดโดยรวม ตลาดวอลสตรีทที่เป็นลบน่าจะมีผลต่อสัปดาห์นี้ด้วยการคาดการณ์เป็นลบสำหรับกำไรไตรมาส 1 นี้ที่กำลังจะประกาศกันออกมา นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับผลของแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นตะวันตกซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมของห่วงโซ่อุปทานของโลกด้วย ในประเทศสภาพัฒน์เตรียมหั่นคาดกาณ์ GDP เพื่อสะท้อนมุมมองเป็นลบเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและโลก

หุ้นเด่นวันนี้ : BEM (5.55 บ.; ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 59 AWS 6.80 บาท)
 บมจ. ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ เป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์หลักจากการเร่งผลักดันโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐในปีนี้ BEM ยังมีความน่าจะเป็นสูงที่จะได้รับเลือกเป็นผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นราวเดือน พ.ค. นี้ เราคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการขอวบริษัทจะสดใสนับจากปีนี้เป็นต้นไป โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก (1) รายรับเพิ่มเติมการให้บริการและซ่อมบำรุง (O&M) ของระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วงซึ่งจะเปิดให้บริการในวันที่ 12 ส.ค. 59 (2) ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกสายใหม่ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปลายปี 59 และ (3) การได้รับเครดิตเรทติ้ง A จาก TRIS จะช่วยลดต้นทุนทางการเงินเหลือเพียง 4-5% จากเดิม 6-7% ต่อปีได้ เราคาดว่า BEM จะมีกำไรจากการดำเนินงานเติบโต 44% YoY ในปี 59 และเติบโต 38% YoY ต่อเนื่องไปในปี 60 ทั้งนี้ แม้ว่าราคาหุ้น BEM จะซื้อขายที่ PE ล่วงหน้าหนึ่งปีในระดับค่อนข้างสูงที่ 23.1x สำหรับปี 59 แต่จะลดลงเหลือ 16.8x ในปี 60 อย่างไรก็ตาม ด้วยผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งในปีนี้และปีหน้า ทำให้ PEG ขณะที่เพียง 0.53 เท่าในปี 59 ลดลงเหลือ 0.44 เท่าในปี 60 อันแสดงว่าราคาหุ้นยังคงต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอยู่

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :

       สภาพัฒน์เตรียมปรับลดการเติบโตคาดการณ์ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาดและสถานการณ์การส่งออกที่ยังอ่อนแอ กล่าวโดย นายปรเมธี วิมลศิริ รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ทำให้เศรษฐกิจของประเทศน่าจะเติบโตได้ต่ำกว่า 3.3% แต่ไม่น่าจะต่ำกว่า 2.8% ในปีนี้ โดยตัวเลขคาดการณ์ใหม่จะประกาศอย่างเป็นทางการวันที่ 16 พ.ค. นี้ (Bangkok Post)
       ปรับลดกลุ่มอุตสาหกรรมเหลือห้ารายการ ตามข้อมูลจาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐบาลจะลดจำนวนกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายลงเหลือห้าจากสิบกลุ่มเพื่อตอบสนองการพัฒนาที่ยังเชื่องช้า และได้รับความสนใจจากภาคเอกชน โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่เหลือได้แก่ ไบโอฟู้ดและเกษตร, สุขภาพ, สินค้าที่ใช้เทคโนโลยีสูง เครื่องจักรและหุ่นยนต์, เศรษฐกิจดิจิทัล, วัฒนธรรมและภาคบริการ โดยรองนายกฯ จะให้ทบทวนและทำการศึกษาใหม่เกี่ยวกับมาตราการจูงใจเพิ่มเติม เช่น สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้วิจัย การอนุญาตแรงงานต่างชาติเข้ามาทำงานได้ง่ายขึ้น และการให้การสนับสนุนทางการเงินและเทคโนโลยี (Bangkok Post)
       เปิดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในต่างจังหวัด รัฐบาลได้เปิดเผยถึงกลยุทธ์ถึงความพยายามที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในต่างจังหวัดโดยการจัดตั้งผู้ประกอบการสังคมหนึ่งรายต่อหนึ่งจังหวัดรวม 76 จังหวัดผ่านการร่วมมือระหว่างผู้เชี่ยวชาญภาคเอกชน องค์ความรู้ของชุมชนและการสนับสนุนเงินทุนจากภาครัฐ ผู้ประกอบการจะอยู่ภายใต้บริษัทโฮลดิ้งชื่อบริษัท “ประชารัฐ รักษาสามัคคี” เพื่อพัฒนาธุรกิจชนบทโดยจะเน้นธุรกิจเกษตรกรรม, สินค้าเกษตร, กระบวนการผลิตสินค้าเกษตร และภาคธุรกิจท่องเที่ยว (Bangkok Post)

ต่างประเทศ

       การเจรจาตรึงกำลังการผลิตน้ำมันระหว่างกลุ่มโอเปคและผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปค คว้าน้ำเหลว หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียเรียกร้องให้อิหร่านเข้าร่วมการตรึงกำลังการผลิตด้วยแม้จะมีการเรียกร้องให้ซาอุฯ รักษาข้อตกลงและช่วยพยุงราคาน้ำมันดิบก็ตาม (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ หลังจากการประกาศข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่น่าผิดหวังรวมทั้งราคาน้ำมันและหุ้นที่ลดลงอีกทั้งดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงก่อให้เกิดความต้องการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลมากขึ้น ราคาพันธบัตรอ้างอิงอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 9/32 และให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 1.748% ลดลงกว่า 0.03% จากวันพฤหัส รวมทั้งแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 1.740% (Reuters)
       ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงมากเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ร่วงลงก่อนการเจรจาในช่วงสุดสัปดาห์ระหว่างผู้ผลิตน้ำมันที่กรุงโดฮาและรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่อ่อนแอลดความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและกระตุ้นให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสกุลเงินที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างเช่นเงินเยน ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลดลง 0.2% ปิดที่ 94.683 จุด แม้ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดังกล่าวจะปิดบวกขึ้น 0.5% (Reuters)

สหรัฐ :

    ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลงได้ฉุดราคาหุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นบ. แอปเปิลได้ฉุดตลาดลง แต่ดัชนีหลัก ๆ ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน ราคาน้ำมันลดลงจากการที่นักวิเคราะห์คาดว่าการประชุมของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ในช่วงสุดสัปดาห์ไม่น่าจะแก้ปัญหาปริมาณน้ำมันล้นตลาดได้อย่างรวดเร็ว ราคาหุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลงหลังจากบริษัทรายงานผลกำไรรายไตรมาสที่ลดลงอย่างหนัก ซึ่งสัปดาห์นี้เป็นช่วงสำคัญของการรายงานผลประกอบการของกลุ่มธนาคาร (Reuters)
ประเด็นที่นักลงทุนให้ความสนใจอยู่ที่การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะทวีความเข้มข้นในสัปดาห์หน้าเนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาด กำไรสุทธิในไตรมาส 1/59 ของบริษัทที่ใช้ในการคำนวณดัชนี S&P500 คาดว่าจะลดลง 7.8% จากข้อมูลของทอมสัน รอยเตอร์ส IBES (Reuters)


      ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐแย่กว่าคาดวันศุกร์ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนเกี่ยวกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคระบุว่าคาดการณ์ตัวเลขเบื้องต้นสำหรับ เม.ย.เท่ากับ 89.7 เทียบกับคาดการณ์ที่ 92 (Reuters)


       ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐร่วงกว่าคาดใน มี.ค. เพราะผลผลิตลดลงมากสุดในรอบปีและเหมืองแร่ยังคงอยู่ในขาลง ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.6% เดือนก่อนหลังร่วงไปแล้ว 0.6% เช่นกันใน ก.พ. การผลิตอุตสาหกรรมร่วงเป็นเดือนที่ 6 จากเจ็ดเดือนล่าสุด เทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเป็นลบแค่ 0.1% เดือนก่อน การผลิตอุตสาหกรรมลดลงรายปีที่ 2.2% ในไตรมาส 1/59 หลังลดลงไป 3.3% ในไตรมาส 4/58 (Reuters)


ยุโรป :

      ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันศุกร์ปรับตัวลดลง นำโดยการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์หลังจากที่ Faurecia ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สัญชาติฝรั่งเศสเปิดเผยว่ายอดขายในจีนประจำไตรมาสหดตัวลง 2% (Reuters)


เอเชีย :

      เกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.3 บนเกาะคิวชูทางตอนใต้ของญี่ปุ่นเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 32 ราย และบาดเจ็บอีกมากกว่าพันคน รวมถึงสร้างความเสียหายในวงกว้างต่อบ้านเรือน ถนน และสิ่งปลูกสร้าง โดยเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เพิ่งเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.4 ในเกาะคิวชูเช่นเดียวกัน โดยเกิดขึ้นห่างกันราว 1 วัน ขณะที่สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) ประเมินว่ามีความเป็นไปได้ถึง 72% ที่มูลค่าความเสียหายจะสูงมากกว่า 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ โดยเสริมว่ายังเร็วเกินไปที่จะระบุเป็นตัวเลขออกมาในตอนนี้ (Reuters)
       เศรษฐกิจจีนช่วง 1Q59 ขยายตัว 6.7% ชะลอตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 แต่ถือว่าเป้นไปตามที่ตลาดคาดไว้ แม้จะมีสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการกลับมาขยายตัวของเศรษฐกิจเป็นปกติอีกครั้ง แต่นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนแสดงถึงความกังวลว่าเป็นผลจากการก่อหนี้ในระดับสูง (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :

      ราคาน้ำมันร่วงวันศุกร์ ท่ามกลางการซื้อขายเบาบางเพราะผู้ค้าและนักวิเคราะห์คาดว่าการประชุมของผู้ส่งออกน้ำมันสุดสัปดาห์น่าจะมีผลเพียงเล็กน้อยในการช่วยจัดการปัญหาภาวะอุปทานล้นตลาดได้อย่างรวดเร็ว แม้จะทำให้ตลาดมีที่ยืนก็ตาม Brent ส่งมอบ มิ.ย. ปรับลง 71 เซนต์ปิดที่ 43.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันสหรัฐลดลง 1.14 ดอลลาร์ปิดที่ 40.36 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันทั้งสองได้ร่วงไปก่อนหน้านี้กว่า 3.5% อย่างไรก็ดีสำหรับรายสัปดาห์ ราคาปรับบวกเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันในช่วงก่อนที่จะมีการประชุม (Reuters)
      ราคาทองบวกวันศุกร์ หลังลบไปแล้วสามวันเพราะค่าเงินดอลลาร์และตลาดหุ้นหลักอ่อนตัว ราคาทองคำตลาดจรบวก 0.4% ปิดที่ 1,231.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)

Thailand Research Department
  Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
  Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
  Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
  Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
  Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!